ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความเรื่องเมืองยะลา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้

บทคัดย่อ

การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ ๑) เพื่อพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความเรื่องเมืองยะลา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ที่จัดการเรียนการสอนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความเรื่องเมืองยะลา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ และ ๓) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ที่มีต่อการใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความเรื่องเมืองยะลา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย ๑) หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความเรื่องเมืองยะลา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๘ เล่ม ๒) แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความเรื่องเมืองยะลา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๒๐ แผน ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน ๓๐ ข้อ และ ๔) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความเรื่องเมืองยะลา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๑๕ ข้อ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/๑ โรงเรียนบ้านลาแล อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘ จำนวน ๒๗ คน ที่ผู้รายงานเป็นผู้สอน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติคือ ค่าเฉลี่ย และค่าร้อยละ

ผลการศึกษาพบว่า

๑. ผลการพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความเรื่องเมืองยะลา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านลาแล ที่ผู้รายงานสร้างขึ้นมีค่าเท่ากับ ๘๒.๕๒/๘๐.๗๙ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพ ๘๐/๘๐ ที่วางไว้

๒. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความเรื่องเมืองยะลา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านลาแล โดยคะแนนผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๑๒.๒๙ คิดเป็นร้อยละ ๔๐.๙๗ และคะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๒๔.๒๔ คิดเป็นร้อยละ ๘๐.๘๐ ซึ่งคะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย ๑๑.๙๕ คิดเป็นร้อยละ ๓๙.๘๓

๓. ผลการศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความเรื่องเมืองยะลา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านลาแล มีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยโดยรวม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๑๙ คิดเป็นร้อยละ ๘๓.๘๐ อยู่ในระดับมาก

ข้อเสนอแนะ

๑. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ควรนำหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความ เรื่องเมืองยะลา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมเสริมทักษะภาษาไทยเรื่องการอ่านจับใจความ เพราะได้ผลจากการศึกษาที่สามารถยืนยันความสำเร็จในการนำไปใช้แล้วคือ การมีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๒.๒๕/๘๐.๗๙ สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ให้สูงขึ้นได้ และนักเรียนมีความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

๒. จากผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ซึ่งเป็นความคิดเห็นที่เกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมของครูผู้สอน พบว่า

นักเรียนมีความพึงพอใจต่อประเด็นด้านนักเรียนชอบการเรียนด้วยการใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน และประเด็นด้านนักเรียนชอบศึกษาด้วยตนเองจากหนังสือส่งเสริมการอ่าน มีระดับความพึงพอใจสูงสุด อาจอธิบายได้ว่า หนังสือส่งเสริมการอ่านที่สร้างขึ้นสามารถเป็นสื่อการเรียนรู้ที่ดึงดูดใจของนักเรียนให้มีความอยากรู้ อยากเรียนด้วยหนังสือประเภทนี้ ดังนั้นครูผู้สอนควรพัฒนาการสร้างหนังสือส่งเสริมการอ่านให้มีความหลากหลายเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นสื่อนวัตกรรมให้นักเรียนได้ใช้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สอดคล้องกับความสนใจของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี

นักเรียนมีความพึงพอใจต่อประเด็นด้านหนังสือส่งเสริมการอ่านทำให้รู้และทราบผลการเรียนด้วยตนเอง มีระดับความพึงพอใจต่ำที่สุด อาจอธิบายได้ว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูด้วยการใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านในครั้งนี้ ไม่สามารถทำให้นักเรียนได้ทราบถึงผลของการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งนักเรียนอาจใช้ผลการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งได้พัฒนาการเรียนรู้ของตนเองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ครูผู้สอนควรให้ความสำคัญกับการออกแบบกิจกรรมในการเรียนรู้ที่ให้นักเรียนได้สามารถพัฒนาผล การเรียนรู้ของตนเองได้ด้วยการตรวจสอบและรับทราบถึงผลการเรียนรู้ในแต่ละครั้งได้อย่างเปิดเผย และสามารถวางแผนพัฒนาผลการเรียนรู้ของตนเองให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป

โพสต์โดย เนม : [14 ม.ค. 2560 เวลา 09:29 น.]
อ่าน [5317] ไอพี : 101.51.114.57
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 102,355 ครั้ง
อุปกรณ์ในการจัดการแข่งขันฟุตซอล
อุปกรณ์ในการจัดการแข่งขันฟุตซอล

เปิดอ่าน 41,186 ครั้ง
ทำไมต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญตรวจรับบ้าน?
ทำไมต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญตรวจรับบ้าน?

เปิดอ่าน 20,562 ครั้ง
รู้หรือยัง? วันนี้ (1 ก.ค.58) ประเทศไทยเปลี่ยนเวลาให้ช้าลง 1 วินาที อย่างเป็นทางการแล้ว
รู้หรือยัง? วันนี้ (1 ก.ค.58) ประเทศไทยเปลี่ยนเวลาให้ช้าลง 1 วินาที อย่างเป็นทางการแล้ว

เปิดอ่าน 8,997 ครั้ง
อะโดบีเผยเอเชีย-แปซิฟิกใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเติบโตสูงสุดในโลก
อะโดบีเผยเอเชีย-แปซิฟิกใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเติบโตสูงสุดในโลก

เปิดอ่าน 10,988 ครั้ง
คลิปว่อนยูทูบ แฉทำไมเทคโนโลยี "3G"ประเทศไทยล้าหลัง"ลาว" !!
คลิปว่อนยูทูบ แฉทำไมเทคโนโลยี "3G"ประเทศไทยล้าหลัง"ลาว" !!

เปิดอ่าน 19,748 ครั้ง
ดูทีวีเวลานอน...ผู้ใหญ่เสี่ยงโรค-เด็กเสี่ยงโง่
ดูทีวีเวลานอน...ผู้ใหญ่เสี่ยงโรค-เด็กเสี่ยงโง่

เปิดอ่าน 19,413 ครั้ง
แผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา โดย คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา พฤษภาคม 2562
แผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา โดย คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา พฤษภาคม 2562

เปิดอ่าน 22,019 ครั้ง
วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา

เปิดอ่าน 36,852 ครั้ง
เอกภพสัมพัทธ์ (Relative Universe)
เอกภพสัมพัทธ์ (Relative Universe)

เปิดอ่าน 17,527 ครั้ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง

เปิดอ่าน 4,829 ครั้ง
ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ
ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ

เปิดอ่าน 15,725 ครั้ง
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8

เปิดอ่าน 40,864 ครั้ง
คิ้วตกปัญหาโหงวเฮ้งที่ต้องรีบแก้
คิ้วตกปัญหาโหงวเฮ้งที่ต้องรีบแก้

เปิดอ่าน 30,882 ครั้ง
สัมภาษณ์ "น้องเรนนี่" เด็กไทยอัจฉริยะ สอบได้คะแนนอันดับที่ 1 ของโลก
สัมภาษณ์ "น้องเรนนี่" เด็กไทยอัจฉริยะ สอบได้คะแนนอันดับที่ 1 ของโลก

เปิดอ่าน 14,101 ครั้ง
วันนี้คุณบำรุงผิวหน้าด้วยอโลเวร่าหรือยัง ?
วันนี้คุณบำรุงผิวหน้าด้วยอโลเวร่าหรือยัง ?

เปิดอ่าน 15,554 ครั้ง
จำปี ดอกจำปี ต้นจำปี
จำปี ดอกจำปี ต้นจำปี
เปิดอ่าน 12,177 ครั้ง
ฉาวอีก! คลิปตำรวจไทย... "มาๆๆ ร้อยเดียวพอ"
ฉาวอีก! คลิปตำรวจไทย... "มาๆๆ ร้อยเดียวพอ"
เปิดอ่าน 19,752 ครั้ง
 หลักเกณฑ์การย้าย ผอ.ร.ร.50
หลักเกณฑ์การย้าย ผอ.ร.ร.50
เปิดอ่าน 66,367 ครั้ง
การเขียนบทคัดย่อภาษาอังกฤษใน abstract
การเขียนบทคัดย่อภาษาอังกฤษใน abstract
เปิดอ่าน 11,420 ครั้ง
"ร้ายยิ่งขึ้น" มันมาแล้ว "ภัยธรรมชาติ" เรียงแถว "ถล่มไทย!"
"ร้ายยิ่งขึ้น" มันมาแล้ว "ภัยธรรมชาติ" เรียงแถว "ถล่มไทย!"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ