ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการสร้างและการใช้ชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือเทคนิคSTAD เรื่อง Tenses ชั้นมัธยมศึกษาปีที่

บทคัดย่อ

ชื่อผลงาน รายงานการสร้างและการใช้ชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช

ผู้วิจัย นางสาวสุนิศา จันทร์ยก

ปีการศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559

รายงานการสร้างและการใช้ชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD เรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง Tenses 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง Tenses กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช สถาบันการพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวน 36 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster random sampling) ด้วยวิธีการจับสลาก โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 2 ชนิด ได้แก่ 1) เครื่องมีที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 6 ชุด 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง Tenses ซึ่งมีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.21 ถึง 0.78 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.25 ถึง 0.92 และความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.81 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง Tenses ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.21 ถึง 0.64 และความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.84 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ t - test (Dependent Samples)

ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้

1. ชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD เรื่อง Tenses สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ 83.19/82.15 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80

2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD เรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.54 หรือ คิดเป็นร้อยละ 54.00 แสดงว่าชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD ทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.00

3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ด้วยชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง Tenses มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05

4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีผลต่อการเรียนด้วยชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.34, S.D. = 0.64) ด้านที่มีความพึงพอใจมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ข้อ 6 ฉันได้มีโอกาสอธิบายและซักถามเพื่อนในกลุ่มทำให้เข้าใจมากขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.81, S.D. = 0.40) รองลงมาคือ ข้อ 5 ฉันและเพื่อน ๆ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ( = 4.75, S.D. = 0.50) อยู่ในระดับมากที่สุด และข้อ 7 เพื่อนในกลุ่มได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันทำให้เกิดความสามัคคี อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.53, S.D. = 0.51) และข้อที่มีความพึงพอใจน้อยที่สุดคือ ข้อ 11 กิจกรรมที่ปฏิบัติเป็นพื้นฐานในการเรียนวิชาอื่น ๆ อยู่ในระดับมาก ( = 3.92, S.D. = 0.65)

สรุปผลการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นสื่อการเรียนรู้ที่เรียนโดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ทำให้การจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทำให้นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียน ดังนั้นควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ หรือระดับชั้นอื่น ๆ นำเอกสารชุดฝึกปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD ไปเป็นนวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะ เจตคติ และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนตามเจตนารมณ์ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ต่อไป

โพสต์โดย อ้อ : [25 พ.ค. 2560 เวลา 13:49 น.]
อ่าน [4452] ไอพี : 10.0.0.255, 113.53.2
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,652 ครั้ง
สามัญชนคนไทย : โรงเรียนในฝัน
สามัญชนคนไทย : โรงเรียนในฝัน

เปิดอ่าน 14,312 ครั้ง
การศึกษาไทยภายใต้รัฐบาล คสช. 3 ปี ที่วังเวงและเคว้งคว้าง
การศึกษาไทยภายใต้รัฐบาล คสช. 3 ปี ที่วังเวงและเคว้งคว้าง

เปิดอ่าน 46,468 ครั้ง
ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (UNIX)
ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (UNIX)

เปิดอ่าน 12,135 ครั้ง
5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก
5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก

เปิดอ่าน 1,170 ครั้ง
การใช้ AI ในการแก้โจทย์ PISA เครื่องมือ ChatGPT ผู้ช่วยสำหรับครู
การใช้ AI ในการแก้โจทย์ PISA เครื่องมือ ChatGPT ผู้ช่วยสำหรับครู

เปิดอ่าน 9,124 ครั้ง
PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาระเทคโนโลยี
PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาระเทคโนโลยี

เปิดอ่าน 5,613 ครั้ง
"องุ่นทะเล" ไม้ใหญ่ประโยชน์เยอะ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
"องุ่นทะเล" ไม้ใหญ่ประโยชน์เยอะ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

เปิดอ่าน 12,991 ครั้ง
ไส้เดือนดิน
ไส้เดือนดิน

เปิดอ่าน 24,922 ครั้ง
ประวัติ แคลคูลัส
ประวัติ แคลคูลัส

เปิดอ่าน 8,772 ครั้ง
อะโดบีเผยเอเชีย-แปซิฟิกใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเติบโตสูงสุดในโลก
อะโดบีเผยเอเชีย-แปซิฟิกใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเติบโตสูงสุดในโลก

เปิดอ่าน 10,019 ครั้ง
ล้างมืออย่างไร ให้สะอาดสูงสุด
ล้างมืออย่างไร ให้สะอาดสูงสุด

เปิดอ่าน 10,937 ครั้ง
คลิปชายอ้างเป็น"นายสิบ"เมากร่าง ขับรถกินเลน ปชช.คู่กรณีไม่พอ ยังด่าหยาบ-ทำร้ายร่างกาย
คลิปชายอ้างเป็น"นายสิบ"เมากร่าง ขับรถกินเลน ปชช.คู่กรณีไม่พอ ยังด่าหยาบ-ทำร้ายร่างกาย

เปิดอ่าน 68,747 ครั้ง
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562

เปิดอ่าน 14,007 ครั้ง
กินถั่ววอลนัท ตัดหนทางมะเร็ง
กินถั่ววอลนัท ตัดหนทางมะเร็ง

เปิดอ่าน 34,208 ครั้ง
รูปแบบการสอน 7 ประการ
รูปแบบการสอน 7 ประการ

เปิดอ่าน 13,926 ครั้ง
กล้วยหอมชนะเครื่องดื่มบำรุงกำลัง มีสารอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระในตัว
กล้วยหอมชนะเครื่องดื่มบำรุงกำลัง มีสารอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระในตัว
เปิดอ่าน 13,718 ครั้ง
หลักในการออกแบบสวน
หลักในการออกแบบสวน
เปิดอ่าน 30,561 ครั้ง
ภาพกีฬามันๆ โหด มัน ฮา ตลก ขำๆ มาดูกันคลายเครียด
ภาพกีฬามันๆ โหด มัน ฮา ตลก ขำๆ มาดูกันคลายเครียด
เปิดอ่าน 22,357 ครั้ง
ประวัติศาสตร์จังหวัดสกลนคร
ประวัติศาสตร์จังหวัดสกลนคร
เปิดอ่าน 10,427 ครั้ง
จะจำใบหน้าของใครให้ได้แม่นยำ ต้องจ้องคอยดูที่ลูกตา
จะจำใบหน้าของใครให้ได้แม่นยำ ต้องจ้องคอยดูที่ลูกตา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ