ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา สาระการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติ

ชื่องานวิจัย รายงานการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา สาระการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง เรื่อง ก้าวไกลกับ ICT ในวิถีที่พอเพียง โรงเรียนอุปัชฌาย์พวนอุทิศ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์

ผู้วิจัย กมลทรรศน์ ใสสูงเนิน

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา สาระการเรียนรู้

รายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง ก้าวไกลกับ ICT ในวิถีที่พอเพียง มีวัตถุประสงค์ในการวิจัย ๑) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ๒) เพื่อพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ ๓) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการสอนของครูที่สอนด้วยหลักสูตรที่พัฒนาขึ้น ๔) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนรู้จากหลักสูตร ผู้วิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ผู้วิจัยได้ดำเนินการจำแนกเป็น ๔ ขั้นตอน ขั้นตอนที่ ๑ วิจัย (Research) : การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ขั้นตอนที่ ๒ พัฒนา (Development) : การพัฒนาหลักสูตร ขั้นตอนที่ ๓ วิจัย (Research) : การนำหลักสูตรไปใช้ ขั้นตอนที่ ๔ พัฒนา (Development) : การประเมินผลและปรับปรุงหลักสูตร ทั้งนี้ขั้นตอนการดำเนินการจะมีลักษณะเป็นบันไดเวียน ผู้วิจัยได้ดำเนินการตามขั้นตอนนั้น ๆ ซ้ำจนกว่าจะได้ผลการปฏิบัติงานที่พอใจ ประชากรการวิจัย ได้แก่ ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๑๖ คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๑๖ คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จำนวน ๑๐ คน ปีการศึกษา ๒๕๕๙ โรงเรียนอุปัชฌาย์พวนอุทิศ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๑ รวมทั้งหมด จำนวน ๔๒ คน ประชากรและกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นกรณีศึกษา (Case Study) ได้แก่ หัวหน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการโรงเรียน จำนวน ๑ คน นักวิชาการศึกษาประจำตำบล จำนวน ๑ คน กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน ๑ คน ใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (Structured Interview) สำหรับครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ จำนวน ๓ คน ใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการสอนของครูที่สอนด้วยหลักสูตรที่พัฒนาขึ้น ส่วนผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ โรงเรียนอุปัชฌาย์พวนอุทิศ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๓๕ คน ใช้แบบสอบถาม และ ตัวแทนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน ๑ คน ตัวแทนผู้ปกครองผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ จำนวน ๓ คน ตัวแทนครูผู้สอน จำนวน ๑ คน ใช้วิธีการสนทนากลุ่ม (Focus group) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ประชากรและกลุ่มตัวอย่างกรณีศึกษา รวมทั้งหมด จำนวน ๔๖ คน ผลการวิจัย พบว่า ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานแบ่งออกเป็น ๔ส่วนคือ ๑) ผลการศึกษาความต้องการในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา สาระการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง ก้าวไกลกับ ICT ในวิถีที่พอเพียง จากหัวหน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการโรงเรียน นักวิชาการศึกษาประจำตำบล กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ พบว่า โดยภาพรวม มีความต้องการให้ผู้เรียนได้เรียนหลักสูตรสถานศึกษา สาระการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง ก้าวไกลกับ ICT ในวิถีที่พอเพียง ๒) ผลการศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ พบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในส่วนของการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา สาระการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง ก้าวไกลกับ ICT ในวิถีที่พอเพียง จากบริบทที่เกี่ยวข้องอันได้แก่ การมุ่งเน้นความเป็นไทยโดยมีผู้รู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา การจัดการเรียนรู้เน้นคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมอันพึงประสงค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ ภูมิปัญญาไทย การแสวงหาความรู้ รักการทำงาน มีเจตคติที่ดีต่อการทำงาน ๓) ผลการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พบว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาผู้เรียนเต็มตามศักยภาพให้สามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง ในวงการศึกษามีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้มากขึ้น อีกทั้งการสื่อสารอย่างรวดเร็วของอุปกรณ์และระบบสารสนเทศประเภท ต่าง ๆ อาทิ คอมพิวเตอร์ ดาวเทียมสื่อสาร อินเทอร์เน็ต ทำให้วงการศึกษาต้องมีมาตรการในการส่งเสริม สนับสนุน เพื่อให้การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นไปอย่างมีคุณภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด สอดคล้องกับ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ มุ่งเน้น การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดสมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ คือ มีความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในปัจจุบัน มิได้มุ่งหวังให้นักเรียนอ่านออกเขียนได้เพียงอย่างเดียว แต่มุ่งหวังให้นักเรียนนำความรู้ ความสามารถไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริง สื่อสารกับผู้อื่นได้อย่าง มีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผล นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ และใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารได้เป็นอย่างดี หลักสูตรสถานศึกษา สาระการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง ก้าวไกลกับ ICT ในวิถีที่พอเพียง จึงมุ่งจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนมีทักษะเบื้องต้นในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต การใช้งานโปรแกรม Paint การใช้โปรแกรม Microsoft Word ในการจัดเอกสาร สร้างชิ้นงาน การใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint ในการนำเสนองาน ใช้งานโปรแกรม Microsoft Excel ในการคำนวณบัญชีรับจ่ายของตนเองและครัวเรือน และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๔) ผลการสนทนากลุ่มเพื่อกำหนดกรอบหลักสูตรฉบับร่าง พบว่า ผู้เข้าร่วมสนทนากลุ่ม ทุกคนมีความคิดเห็นสอดคล้องกัน คือเห็นว่ามีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้รู้ในท้องถิ่นเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการใช้เทคโนโลโลยีมานาน ดังนั้น ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่กับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงน่าจะมีมากกว่าครู ทั้งด้านประสบการณ์การแปรรูปผลิตภัณฑ์ การนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน อีกทั้งเป็นการถ่ายทอดภูมิปัญญาชาวบ้านสู่ชนรุ่นหลังมิให้สูญหายไป และปัจจุบันนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาช่วยในการเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์มีมากขึ้น จึงควรสอนให้ผู้เรียนได้รู้คุณค่านี้ ผลการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา พบว่า ประสิทธิภาพของหลักสูตรสถานศึกษา สาระการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง ก้าวไกลกับ ICT ในวิถีที่พอเพียง มีประสิทธิภาพ ๙๐.๕๑/๘๔.๗๕ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้ ผลการศึกษาพฤติกรรมการสอนของครูที่สอนด้วยหลักสูตรที่พัฒนาขึ้น พบว่า ในภาพรวมทุกด้านมีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนรู้จากหลักสูตร พบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียนของผู้เรียนที่เรียนโดยการใช้หลักสูตรสถานศึกษา สาระการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง ก้าวไกลกับ ICT ในวิถีที่พอเพียง สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑ ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนรู้จากการใช้หลักสูตรสถานศึกษา สาระการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง ก้าวไกลกับ ICT ในวิถีที่พอเพียง โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ต้อย : [15 มิ.ย. 2560 เวลา 09:29 น.]
อ่าน [3492] ไอพี : 183.89.72.137
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,068 ครั้ง
พาราเซตามอล
พาราเซตามอล

เปิดอ่าน 4,249 ครั้ง
การดูแล "มะยงชิด-มะปรางหวาน" เริ่มออกดอก
การดูแล "มะยงชิด-มะปรางหวาน" เริ่มออกดอก

เปิดอ่าน 24,469 ครั้ง
กำเนิดไอศครีม มาจากที่ใด
กำเนิดไอศครีม มาจากที่ใด

เปิดอ่าน 155,274 ครั้ง
การอ่านจับใจความสำคัญ
การอ่านจับใจความสำคัญ

เปิดอ่าน 13,673 ครั้ง
ข่าวจริง! การใส่หน้ากากอนามัย ส่งผลร้ายต่อการทำงานของสมองของเด็กต่ำกว่า 12 ปี
ข่าวจริง! การใส่หน้ากากอนามัย ส่งผลร้ายต่อการทำงานของสมองของเด็กต่ำกว่า 12 ปี

เปิดอ่าน 10,695 ครั้ง
เหตุผลที่กำหนดให้ 25 ธันวาคม เป็นวันคริสต์มาส
เหตุผลที่กำหนดให้ 25 ธันวาคม เป็นวันคริสต์มาส

เปิดอ่าน 12,839 ครั้ง
นมปั่นสูตรเพิ่มพลังงาน
นมปั่นสูตรเพิ่มพลังงาน

เปิดอ่าน 2,358 ครั้ง
ยางนา
ยางนา

เปิดอ่าน 15,941 ครั้ง
กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว
กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว

เปิดอ่าน 9,129 ครั้ง
เปิดม่านการศึกษา : 16 เม.ย. 58 : โดย...ครูแจ่ม
เปิดม่านการศึกษา : 16 เม.ย. 58 : โดย...ครูแจ่ม

เปิดอ่าน 23,545 ครั้ง
“อ่านคล่อง เขียนคล่อง คิดเลขเป็น”
“อ่านคล่อง เขียนคล่อง คิดเลขเป็น”

เปิดอ่าน 21,008 ครั้ง
รู้หรือเปล่าว่าปลาร้าเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
รู้หรือเปล่าว่าปลาร้าเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่?

เปิดอ่าน 16,251 ครั้ง
การขับเคลื่อน "6 ยุทธศาสตร์" ด้านการศึกษาสู่การปฏิบัติ
การขับเคลื่อน "6 ยุทธศาสตร์" ด้านการศึกษาสู่การปฏิบัติ

เปิดอ่าน 98,981 ครั้ง
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560

เปิดอ่าน 11,499 ครั้ง
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน

เปิดอ่าน 20,204 ครั้ง
วันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา
เปิดอ่าน 694 ครั้ง
ปักหมุด 7 พิกัดไหว้พระกรุงเทพฯ โดนใจสายมู
ปักหมุด 7 พิกัดไหว้พระกรุงเทพฯ โดนใจสายมู
เปิดอ่าน 29,843 ครั้ง
ย้อนรอยสายราชสกุล…ในพระบรมราชจักรีวงศ์ (จบ)
ย้อนรอยสายราชสกุล…ในพระบรมราชจักรีวงศ์ (จบ)
เปิดอ่าน 18,375 ครั้ง
สุดประทับใจ! ครูสาวแบกนร.หญิงป่วยหนัก เดินลงจากดอยไปส่งรพ.
สุดประทับใจ! ครูสาวแบกนร.หญิงป่วยหนัก เดินลงจากดอยไปส่งรพ.
เปิดอ่าน 24,835 ครั้ง
ร้อยความเชื่อหลักการ
ร้อยความเชื่อหลักการ 'ตั้งชื่อ'

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ