การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาถึง แรงจูงใจที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมในงานประกันคุณภาพภายในของวิทยาลัยการอาชีพฝาง เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 5 คน หัวหน้าแผนก/ฝ่าย จำนวน 18 คน ครูผู้สอน จำนวน 55 คน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน จำนวน 17 คน และคนงาน/นักการภารโรง จำนวน 18 คน รวมประชากรที่ใช้ในการประเมินทั้งหมด 113 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัย พบว่า

1. ในภาพรวม บุคลากรมีส่วนร่วมในงานประกันคุณภาพภายใน ระดับปานกลาง โดย บุคลากร มีส่วนร่วมในงานประกันคุณภาพภายใน ระดับปานกลาง ได้แก่ การมีส่วนร่วมในการรับฟัง ชี้แจง นโยบาย กลยุทธ์ และแผนการดำเนินงาน โดยผู้บริหาร หรือ หัวหน้าฝ่าย เรื่องงานประกันคุณภาพการศึกษาภายใน รองลงมา คือ มีส่วนร่วมในการจัดประชุมชี้แจงนโยบาย และมาตรการเกี่ยวกับการประกันคุณภาพภายใน มีส่วนร่วมในการรับทราบผลการตรวจสอบ ประเมินการประกันคุณภาพการศึกษาภายในของหน่วยงาน และน้อยที่สุด คือ มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการปรับปรุง แก้ไข แผนงานที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน

2. ในภาพรวม บุคลากรมีแรงจูงใจในงานประกันคุณภาพภายใน ระดับปานกลาง โดย บุคลากร มีแรงจูงใจในงานประกันคุณภาพภายในระดับมาก ได้แก่ มีความมุ่งมั่นปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อให้งานประสบผลสำเร็จ รองลงมา คือ หน่วยงานมีการจัดสภาพแวดล้อมให้มีความสะอาด สวยงาม และมีบรรยากาศที่เหมาะสมต่อการทำงาน หน่วยงานมีการกำหนดนโยบายในการปฏิบัติหน้าที่ อย่างเหมาะสม และชัดเจน และน้อยที่สุด คือ ได้รับเงินเดือนที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถ มีการพิจารณาปรับขั้นเงินเดือนอย่างสม่ำเสมอ อยู่ในระดับปานกลาง

เว็บน่าสนใจ