ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 วัดโพธิ์ โดยใช้กลยุทธ์การบริ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2

วัดโพธิ์ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารด้วยหลักการมีส่วนร่วม

ผู้วิจัย นางสาววนิดา ตันสุวรรณรัตน์

ปีที่พิมพ์ 2559

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อสร้างรูปแบบการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 วัดโพธิ์โดยใช้กลยุทธ์การบริหารด้วยหลักการมีส่วนร่วม โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมและการวิจัยและพัฒนา ดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การศึกษาทฤษฎีและแนวคิด เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สำรวจสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการในการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนในโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 10 โรง กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้อำนวยการสถานศึกษาและครูโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 30 คน และ กลุ่มผู้ร่วมวิจัยจำนวน 30 คน ระยะที่ 2 การสร้างรูปแบบการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาล 2 วัดโพธิ์โดยใช้กลยุทธ์การบริหารด้วยหลักการมีส่วนร่วม โดยตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบฯ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 10 คน ด้วยเทคนิคการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) ระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาล 2 วัดโพธิ์ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารด้วยหลักการมีส่วนร่วมกับโรงเรียนเทศบาล 2 วัดโพธิ์ และ ระยะที่ 4 การประเมินรูปแบบการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาล 2 วัดโพธิ์โดยใช้กลยุทธ์การบริหารด้วยหลักการมีส่วนร่วมโดยกลุ่มผู้ใช้รูปแบบฯ จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ และแบบสอบถาม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบผลการพัฒนาด้วยสถิติทดสอบที Dependent Samples t – test

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

1. การปฏิบัติและความต้องการเกี่ยวกับการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดฉะเชิงเทรา ส่วนใหญ่จัดเป็นกิจกรรมพิเศษ ไม่ต่อเนื่องสม่ำเสมอ และคุณธรรม จริยธรรมที่ต้องการเสริมสร้าง คือ ความมีวินัย รับผิดชอบ และปฏิบัติตามหลักธรรมเบื้องต้นของศาสนาที่ตนนับถือ ผลการสำรวจสภาพปัจจุบันในการส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนโดยรวมมีการปฏิบัติต่อการส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับมาก ส่วนสภาพที่พึงประสงค์อยู่ในระดับมากที่สุด และความต้องการจำเป็นเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ 1) ด้านการจัดระบบส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม 2) ด้านการบริหารงานการจัดกิจกรรมเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และ 3) ด้านการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม

2. รูปแบบการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาล 2 วัดโพธิ์โดยใช้กลยุทธ์การบริหารด้วยหลักการมีส่วนร่วม เป็นกระบวนการเชิงระบบ 3 ระยะ ประกอบด้วย ด้านปัจจัยนำเข้า ได้แก่ บริบทของสถานศึกษา การจัดการเรียนการสอนคุณธรรมจริยธรรม และผู้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ด้านกระบวนการ ได้แก่ การจัดทำแผนตามยุทธศาสตร์ในการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมตามยุทธศาสตร์ กำหนดผู้รับผิดชอบดำเนินการพัฒนาตามกิจกรรมและโครงการ การนิเทศติดตาม และประเมินผลกิจกรรมจากผู้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา 6 ฝ่าย ด้านผลลัพธ์ ได้แก่ นักเรียนเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ตามความต้องการของทุกฝ่ายและโรงเรียนมีรูปแบบในการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียน

3. ผลการใช้รูปแบบการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาล 2 วัดโพธิ์ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารด้วยหลักการมีส่วนร่วม มีความตรงแบบอิงผู้ทรงคุณวุฒิและการประเมินหลังการใช้รูปแบบฯ พบว่า คุณธรรม จริยธรรม ของนักเรียนสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบฯ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินรูปแบบการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาล 2 วัดโพธิ์ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารด้วยหลักการมีส่วนร่วม มีความเป็นประโยชน์ ความเป็นได้ ความเหมาะสมและความถูกต้องโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก

ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาล 2 วัดโพธิ์ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารด้วยหลักการมีส่วนร่วมทั้งโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก

คำสำคัญ รูปแบบการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม, กลยุทธ์การบริหารด้วยหลักการมีส่วนร่วม,

กระบวนการเชิงระบบ

Key Words Model of Enhancing Moral Virtues, Participatory Principles Administrative

Strategies, Systematical Process

TITLE Model Development for Enhancing Moral Virtues of Students in Watpho

District School 2 Based on the Participatory Principles Administrative

Strategies

AUTHOR Ms. Wanida Tansuwannarat

DATE 2016 A.D.

ABSTRACT

The objectives of this research were to design a model for enhancing moral virtues of students in Watpho District School 2, under the Office of Organization of Local Government (OOLG), Chachoengsao Province based on the participatory principles administrative strategies. The participatory action research methodology was employed for research and development. The research methodology consisted of 4 stages: 1) documentary study of theories including concepts, current condition, desire condition and need assessment which the data were collected from personnel in 10 district schools; and need analysis which the data were collected from personnels in 10 OOLG schools Chachoengsao Province; 2) design of a model for enhancing moral virtues based on the participatory principles, which the focus group techniques was used to assess the appropriateness and correctness of the model by 10 experts; 3) implementation of the model to students in Watpho District School 2; 4) evaluation of the model assessed by 15 users (teachers). The research instrument was an interview form and a questionnaire. The statistics used were mean, standard deviation and t-test (Dependent Sample).

The results of the research were as follows:

1. The finding showed that the activities were organized to enhance the moral virtues of students under the Office of Chachoengsao OOLG schools, were special activities, but the activities were organized irregularly. The moral virtues were needed to develop were discipline, responsibility and basic religious principles. The current conditions of activities to enhance the moral virtues of students were at a high level, Nevertheless, the desire conditions were the highest level. However, sorting need assessment showed that the system of promoting and developing ethics was the most needed.

2. The systematical process of the model consisted of 3 steps: 1) input factors such as school context, instruction in moral virtues and participants in educational management; 2) process of the model such as planning strategies for the development of moral virtues, specifying a person in charge of supervision, following up, and evaluation of the activities and project, which were assessed by the participants from 6 sections; and 3) results of the assessment were students with moral virtues, needs of all school staff and a model for enhancing moral virtues of students

3. The finding indicated that the average level of moral virtues of the students after the implementation of the model was significantly higher than that of the moral virtues before the implementation at the .05 level.

4. The finding showed that the average level of the model regarding the participatory principles, benefits, possibility, appropriateness and correctness were high. Likewise, the participants’ satisfaction on the model was a high level.

โพสต์โดย ดา : [14 ส.ค. 2560 เวลา 08:54 น.]
อ่าน [3623] ไอพี : 223.204.232.230
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,589 ครั้ง
"รางวัลให้ครู"
"รางวัลให้ครู"

เปิดอ่าน 24,063 ครั้ง
อาหารดีที่ควรมีติดบ้าน-ทานประจำทำสมองแล่น
อาหารดีที่ควรมีติดบ้าน-ทานประจำทำสมองแล่น

เปิดอ่าน 16,726 ครั้ง
Download "ส.ค.ส."พระราชทาน ให้กำลังใจพสกนิกร "ตั้งอยู่ในความเพียร"
Download "ส.ค.ส."พระราชทาน ให้กำลังใจพสกนิกร "ตั้งอยู่ในความเพียร"

เปิดอ่าน 10,649 ครั้ง
เทคโนโลยีแห่งอนาคต ขับเคลื่อนสังคมโลกยุคใหม่!
เทคโนโลยีแห่งอนาคต ขับเคลื่อนสังคมโลกยุคใหม่!

เปิดอ่าน 58,318 ครั้ง
การวัดความชื้นในบรรยากาศ
การวัดความชื้นในบรรยากาศ

เปิดอ่าน 201,211 ครั้ง
ระบบย่อยอาหาร
ระบบย่อยอาหาร

เปิดอ่าน 12,161 ครั้ง
คลิปพายุถล่มรร.สตรีฯตราด กวาดทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง
คลิปพายุถล่มรร.สตรีฯตราด กวาดทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง

เปิดอ่าน 34,565 ครั้ง
ลักษณะของการวิจัยปฏิบัติการ
ลักษณะของการวิจัยปฏิบัติการ

เปิดอ่าน 16,433 ครั้ง
กระเทียม....เปี่ยมคุณค่า
กระเทียม....เปี่ยมคุณค่า

เปิดอ่าน 23,312 ครั้ง
แบบก่อสร้างอาคารห้องสุมด ICT
แบบก่อสร้างอาคารห้องสุมด ICT

เปิดอ่าน 8,417 ครั้ง
ทำไมนะ…ลูกเราถึงไม่ฉลาด
ทำไมนะ…ลูกเราถึงไม่ฉลาด

เปิดอ่าน 9,081 ครั้ง
คุณครูเคยดูหรือยัง : การเรียนการสอนในสิงคโปร์
คุณครูเคยดูหรือยัง : การเรียนการสอนในสิงคโปร์

เปิดอ่าน 11,161 ครั้ง
คำสัญญาที่ว่างเปล่า
คำสัญญาที่ว่างเปล่า

เปิดอ่าน 61,499 ครั้ง
คณิตศาสตร์ง่ายๆแต่แปลกดีแท้
คณิตศาสตร์ง่ายๆแต่แปลกดีแท้

เปิดอ่าน 21,379 ครั้ง
ตารางสีเสื้อผ้าประจำวัน
ตารางสีเสื้อผ้าประจำวัน

เปิดอ่าน 9,947 ครั้ง
สแกน...ลดเวลาเรียน "3 สัปดาห์"บรรลุเป้า?
สแกน...ลดเวลาเรียน "3 สัปดาห์"บรรลุเป้า?
เปิดอ่าน 13,141 ครั้ง
เป่ายิ้งฉุบเป็นของชาติไหน
เป่ายิ้งฉุบเป็นของชาติไหน
เปิดอ่าน 11,899 ครั้ง
ฮาก๊ากคู่รักตัวกะเปี๊ยก นัดวิวาห์เหาะข้ามทวีป
ฮาก๊ากคู่รักตัวกะเปี๊ยก นัดวิวาห์เหาะข้ามทวีป
เปิดอ่าน 12,295 ครั้ง
โรคกระดูกพรุน..ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง
โรคกระดูกพรุน..ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง
เปิดอ่าน 16,277 ครั้ง
รักษาอาการไอแบบไม่พึ่งยา ด้วยธรรมชาติบำบัด
รักษาอาการไอแบบไม่พึ่งยา ด้วยธรรมชาติบำบัด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ