ครูบ้านนอก

บทคัดย่อ

รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 วัตถุประสงค์การศึกษา ได้แก่ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนและหลังเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านนาเจริญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 18 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เฉพาะนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีจำนวนเพียง 1 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 12 แผน มีค่าความเหมาะสมเท่ากับ 4.82 2) แบบฝึกทักษะ จำนวน 12 เล่ม มีค่าความเหมาะสมเท่ากับ 4.71 3) แบบทดสอบย่อยระหว่างเรียน เป็นแบบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 120 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกเท่ากับ .20-.80 มีค่าความยากง่ายเม่ากับ .23-.80 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.94 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน (Pre-test) และหลังเรียน (Post-test) เป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกเท่ากับ .20-.80 มีค่าความยากง่าย เท่ากับ .20-.80 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการใช้แบบแผนการทดลองแบบ One Group Pre-test Post-test Design ทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) ทำการสอนตามแผนที่ออกแบบไว้ ทดสอบย่อยระหว่างเรียน และทดสอบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน (Post-test) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ IOC วิเคราะห์ ค่าความสอดคล้องของแบบทดสอบ ใช้สถิติ E1/ E2 หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ ใช้สถิติ t-test ทดสอบสมมติฐานการเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน ใช้สถิติ E.I. วิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ ใช้สถิติของแบรนแนน (Brennan) หาค่าอำนาจจำแนก (B) ค่าความยากง่าย (p) ใช้สถิติของ โลเวท (Lovett) หาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ (rcc) และใช้สถิติพื้นฐานวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย (X-bar) ร้อยละ (P) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการศึกษาพบว่า

1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร E1= 78.61/E2= 77.96 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้

2. การเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า คะแนนทดสอบนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

3. ดัชนีประสิทธิผลแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 0.6801 หมายความว่า ชุดนี้ทำให้นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 68.01 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ยอมรับได้

เว็บน่าสนใจ