การเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL Plus กับการสอนแบบปกติ
A comparison of English Reading Comprehension Achievement and Satisfaction of Pratomsuksa 6 Students through the Instruction based on KWL Plus Method and Traditional Method
พิกุล บุตรจันทร์
สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL Plus กับการสอนแบบปกติ (2) เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL Plus กับการสอนแบบปกติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนบ้านโนนสมบูรณ์ เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 2 ห้องเรียน รวมทั้งสิ้น 42 คน ซึ่งมีผลการทดสอบวิชาภาษาอังกฤษใกล้เคียงกัน โดยที่กลุ่มทดลองได้รับการสอนแบบ KWL Plus กลุ่มควบคุมได้รับการสอนแบบปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย (1) แผนการเรียนรู้สำหรับการสอนแบบ KWL Plus (2) แผนการเรียนรู้สำหรับการสอนแบบปกติ (3) แบบทดสอบผลการเรียนรู้ทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ (4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการกิจกรรมการเรียนการสอน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ (1) ผลการเรียนรู้ด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการสอนแบบ KWL Plus สูงกว่าการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (2) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการสอนแบบ KWL Plus สูงกว่าการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ABSTRACT
The purposes of this research were to (1) compare English reading comprehension achievement of selected Pratomsuksa 6 students instructed by using KWL Plus method and traditional method (2) compare satisfaction levels of Pratomsuksa 6 students in activities of studying instructed by using KWL Plus method and traditional method. The sample population consisted of 2 classrooms Protomsuksa 6 students at Choomchonbaannonsomboon School (Bangkok Bank 29), Bueng Kan Primary Educational Service Area Office, Bueng Kan province enrolled in the second semester of academic year 2016. The research instruments consisted of (1) lesson plans for KWL Plus method (2) lesson plans for traditional method (3) reading comprehension test (4) satisfaction survey form.
Findings are as follows:
(1) English reading comprehension achievement of the students instructed by using KWL Plus method was at a higher level than those instructed by traditional method at the statistically significant level of .05.
(2) Satisfaction levels of the students in activities of studying instructed by using KWL Plus method was at a higher level than those instructed by traditional method at the statistically significant level of .05.
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL Plus กับการสอนแบบปกติ
2.เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้วิธีการสอนแบบ
KWL Plus กับการสอนแบบปกติ
สรุปผลการวิจัย
หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลจากคะแนนแบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้หลังเรียนและคะแนนแบบวัดความพึงพอใจ ปรากฏผลการวิจัยดังต่อไปนี้
1. ผลการเรียนรู้ด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการสอนแบบ KWL Plus สูงกว่าการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการสอนแบบ KWL Plus สูงกว่าการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
อภิปรายผลการวิจัย
ผู้วิจัยขอนำเสนอการอภิปรายผลตามวัตถุประสงค์และสมมติฐานในการวิจัย ดังต่อไปนี้
1. ผลการเรียนรู้ด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการสอนแบบ KWL Plus สูงกว่าการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากการสอนแบบ KWL Plus เป็นเทคนิคที่เหมาะสมในการสอนการอ่าน มีกิจกรรมและขั้นตอนที่ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนที่ช่วยกระตุ้นความรู้เดิมของนักเรียน ช่วยให้สามารถเดาความหมายของคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยได้ ช่วยให้เดาเหตุการณ์ของเรื่องที่อ่านได้ อีกทั้งยังมีการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกตั้งคำถามและช่วยกันหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านกับเพื่อนๆในห้องเรียน และสรุปความรู้ที่ได้จากเรื่องที่อ่านเป็นแผนผังความคิด ซึ่งทำให้นักเรียนเกิดความเข้าใจในเรื่องที่อ่านมากขึ้น สอดคล้องกับงานวิจัยของ สุภานี โสโท (2554) ศึกษาเรื่อง การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ การคิดวิเคราะห์ และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ KWL Plus กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ SQ4R ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ KWL Plus มีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ SQ4R อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 อีกทั้งยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ จิตรลดา คนยืน (2550) ศึกษาเรื่อง การใช้กลวิธีการสอนแบบ KWL-Plus เพื่อพัฒนาการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ความเข้าใจทางในอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนที่เรียนโดยการใช้กลวิธีการสอนแบบ KWL-Plus หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 39.80 คิดเป็นร้อยล่ะ 82.20 อยู่ในระดับดีมาก และสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการสอนแบบ KWL Plus สูงกว่าการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทั้งนี้อาจเป็นเพราะวิธีการสอนแบบ KWL Plus เป็นวิธีการสอนที่ใหม่สำหรับนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง ทำให้นักเรียนเกิดความสนใจมีความกระตือรือร้นและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นอย่างดี และในการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆในห้องช่วยให้นักเรียนมีความมั่นใจและสนุกสนานในการเรียนมากขึ้น สอดคล้องกับงานวิจัยของ ศศิธร ชวาลไชย (2554) ศึกษาเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ KWL PLUS ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนภาษาอังกฤษด้วยการจัดกิจกกรมการเรียนรู้แบบ KWL PLUS โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และมีความพึงพอใจรายข้อในระดับมากถึงมากที่สุด ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษแบบ KWL PLUS มีค่าเท่ากับ 0.579 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 57.92