บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพหุปัญญา เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการคูณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีพหุปัญญาและเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพหุปัญญา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/3 โรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 38 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพหุปัญญาเรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 2) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพหุปัญญาเรื่อง การคูณ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t – test) ผลการศึกษาพบว่า ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ การบวก ลบ คูณ หาร มีค่าประสิทธิภาพเฉลี่ย เท่ากับ 82.38/81.88 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการคูณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพหุปัญญาเรื่อง การคูณ พบว่า คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และนักเรียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ทั้ง 32 คน มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์การบวก ลบ คูณ หาร มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 3.83 และ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.66 สรุปได้ว่ามีความพึงพอใจระดับมาก

เว็บน่าสนใจ