ชื่อผลงาน รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ โดยใช้วิธี

แก้โจทย์ปัญหาของโพลยา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 6

ชื่อผู้ศึกษา นางณิชากานต์ รอดระกำ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ

สถานศึกษา โรงเรียนวัดโคกม่วง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2

ปีที่ศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ โดยใช้วิธีแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ โดยใช้วิธีแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 3) ศึกษาความพึงพอใจต่อวิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ โดยใช้วิธีแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ประชากรที่ศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดโคกม่วง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 11 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและ

การแก้สมการ โดยใช้วิธีแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 8 เรื่อง 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง รวมเวลา 16 ชั่วโมง และอีก 2 ชั่วโมงเป็นการปฐมนิเทศ ทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน และประเมินความพึงพอใจ รวมใช้เวลาทั้งสิ้น 18 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อวิชาคณิตศาสตร์ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scales) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ ซึ่งได้ดำเนินการทดลองแบบกลุ่มทดลองกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลอง (One group Pretest-Posttest Design) วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีชนิดกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test dependent group)

สรุปผลการศึกษา

การศึกษาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ โดยใช้วิธีแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สรุปได้ ดังนี้

1.ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ โดยใช้วิธีแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.02/84.24 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80

2.นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ โดยใช้วิธีแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

3.นักเรียนมีความพึงพอใจที่ได้เรียนแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ โดยใช้วิธีแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมเฉลี่ย 4.86 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.32 ซึ่งมีความพึงพอใจต่อวิชาคณิตศาสตร์มากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้านในระดับที่สูงสุด พบว่า ด้านเนื้อหา มีค่าเฉลี่ย 4.87 ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน มีค่าเฉลี่ย 4.87 และด้านสื่อนวัตกรรม มีค่าเฉลี่ย 4.87 รองลงมา คือ ด้านการวัดและประเมินผล มีค่าเฉลี่ย 4.85 ตามลำดับ

เว็บน่าสนใจ