ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า
วิชานาฏศิลป์ 1 ศ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์)
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ชื่อผู้วิจัย นางสาวสมใจ คำภีร์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนปรือใหญ่วิทยบัลลังก์ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ
สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีที่วิจัย 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า รายวิชานาฏศิลป์ 1 ศ21101กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ 2) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า วิชานาฏศิลป์ 1 ศ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า วิชานาฏศิลป์ 1 ศ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า วิชานาฏศิลป์ 1 ศ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประชากร คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนปรือใหญ่วิทยบัลลังก์ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 3 ห้องเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 จำนวน 28 คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 จำนวน 31 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 จำนวน 32 คนคน รวม 91 คน และกลุ่มตัวอย่าง คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนปรือใหญ่วิทยบัลลังก์ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 28 คน ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling)โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่มโดยจับสลากมา 1 ห้องเรียน เนื่องจากการจัดนักเรียนเข้าห้องเรียนเป็นแบบคละความสามารถทุกห้อง คือ มีนักเรียน กลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลางและกลุ่มอ่อน คละกัน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า วิชานาฏศิลป์ 1 ศ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 5 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้พัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า รายวิชานาฏศิลป์ 1 ศ21101กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 5 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า วิชานาฏศิลป์ 1 ศ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากรายข้อตั้งแต่ 0.23 ถึง 0.77 มีอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.33 ถึง 0.73 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.76 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มี ต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า วิชานาฏศิลป์ 1 ศ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.79
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าประสิทธิภาพ ค่าดัชนีประสิทธิผลและสถิติทดสอบสมมติฐานโดยใช้การทดสอบค่าที (t test Dependent)
ผลการวิจัยพบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า วิชานาฏศิลป์ 1 ศ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 83.06/84.14 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า วิชานาฏศิลป์ 1 ศ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.71 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.71 หรือคิดเป็นร้อยละ 71
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า วิชานาฏศิลป์ 1 ศ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนที่เรียนโดยเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า วิชา นาฏศิลป์ 1 ศ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด