การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมภาษาไทยเรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ ประกอบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมภาษาไทย เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ ประกอบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนหลังเรียน ที่มีต่อชุดกิจกรรมภาษาไทยเรื่องการอ่านจับใจความส าคัญ ประกอบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านคลองหา – นาเตรียะ) เทศบาลเมืองนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 31 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling)

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 4 ชนิด ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรม เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 15 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการอ่านจับใจความส าคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 15 แผน 15 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 4) แบบประเมินความพึงพอใจ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาประสิทธิภาพ E1/E2 และ t – testผลการวิจัยปรากฏดังนี้ 1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมภาษาไทย เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญประกอบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (E1 / E2) มีค่าเท่ากับ 83.87/83.06 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้ชุดกิจกรรมภาษาไทย เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญประกอบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ พบว่าผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01

3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ ชุดกิจกรรมภาษาไทย เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ ประกอบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากขึ้นไป

เว็บน่าสนใจ