ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เซต โดยใช้แบบฝึกทักษะและการเรียนรู้
แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบึงศรีราชาพิทยาคม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18
ผู้ศึกษา นายสนธยา บุตรวาระ
หน่วยงาน โรงเรียนบึงศรีราชาพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18
ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เซต โดยใช้แบบฝึกทักษะและการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ของการศึกษาเพื่อ 1) เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เซต โดยใช้แบบฝึกทักษะและการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพ 75/75 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เซต โดยใช้แบบฝึกทักษะและการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะและการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เซต โดยใช้แบบฝึกทักษะและการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบึงศรีราชาพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 จำนวน 38 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แผนการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD แบบฝึกทักษะ แบบประเมินคุณภาพแบบฝึกทักษะ แบบทดสอบย่อยท้ายแบบฝึกทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ t-test
ผลการศึกษาพบว่า
1. การพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เซต โดยใช้แบบฝึกทักษะ และ
การเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 93.36/88.86
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 75/75
2. ดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เซต โดยใช้แบบฝึกทักษะ และการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.8154 หรือคิดเป็นร้อยละ 81.54 ซึ่งหมายถึงว่าหลังเรียนนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 81.54
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เซต โดยใช้แบบฝึกทักษะ และการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เซต
โดยใช้แบบฝึกทักษะ และการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD มีความพึงพอใจในการเรียนรู้โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านเนื้อหา ด้านสื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอน และด้านการวัดและประเมินผล และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ เนื้อหาที่เรียนเป็นเรื่องที่ฉันชอบ เนื้อหาที่เรียนมีความประทับใจ และให้ความเพลิดเพลิน ฉันสนุกกับการร่วมกิจกรรมในชั่วโมงคณิตศาสตร์ และในชั่วโมงคณิตศาสตร์มีสื่อประกอบการเรียนที่น่าสนใจ
ดังนั้น การพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เซต โดยใช้แบบฝึกทักษะและการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจัดการเรียนการสอน ช่วยให้กิจกรรมการเรียนการสอนเป็นไปด้วยความสนุกสนาน มีกิจกรรมที่หลากหลาย ผู้เรียนได้มีโอกาสปฏิสัมพันธ์กันช่วยให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจและความชำนาญในเนื้อหามากยิ่งขึ้น ครูผู้สอนจึงควรใช้แบบฝึกทักษะและการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนได้มีโอกาสฝึกฝนจนเกิดความแม่นยำชำนาญ และส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น