ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานผลการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้ กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โ

ชื่อเรื่อง รายงานผลการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้

กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ปีการศึกษา 2559-2560

ผู้รายงาน นายพรศักดิ์ ทิพย์วงษ์ทอง

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2559-2560

บทสรุป

รายงานผลการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ปีการศึกษา 2559-2560 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อรายงานกระบวนการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ปีการศึกษา 2559-2560 2) เพื่อรายงานผลการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ปีการศึกษา 2559-2560 โดยพิจารณาจาก 2.1) ระดับคุณภาพในการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ปีการศึกษา 2559-2560 2.2) การมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ปีการศึกษา 2559-2560 2.3) พฤติกรรมการมีนิสัยรักการอ่านของนักเรียน 2.4) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.5) ความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานต่อการดำเนินโครงการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินประกอบด้วย กลุ่มตัวอย่างนักเรียน ปีการศึกษา 2559 จำนวน 333 คน ปีการศึกษา 2560 จำนวน 335 คน กลุ่มตัวอย่างครู ปีการศึกษา 2559 จำนวน 92 คน ปีการศึกษา 2560 จำนวน 103 คน กลุ่มตัวอย่างผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2559 จำนวน 333 คน ปีการศึกษา 2560 จำนวน 335 คน และกลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2559 และปีการศึกษา 2560 จำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน จำนวน 6 ฉบับ ประกอบด้วย แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) จำนวน 4 ฉบับ แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ระดับสถานศึกษาจำนวน 1 ฉบับ แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) จำนวน 1 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง .90-.926 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการดำเนินโครงการสรุปได้ ดังนี้

1. กระบวนการหรือขั้นตอนที่ใช้ในการดำเนินโครงการครั้งนี้ ผู้รายงานใช้กระบวนการเชิงระบบ 6 ขั้นตอน ซึ่งเรียกว่า SAPAER ดังนี้

S = Survey เป็นขั้นตอนการสำรวจปัญหาและความต้องการจำเป็นก่อนดำเนินโครงการ

A = Analysis เป็นขั้นตอนการวิเคราะห์ทางเลือกในการแก้ปัญหา

P = Plan ขั้นตอนการพิจารณาทางเลือกและวางแผนแก้ปัญหา

A = Action ขั้นตอนการปฏิบัติขั้นตอนการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการที่กำหนด

E = Evaluation ขั้นตอนการวัดผลประเมินผล

R = Report ขั้นตอนการสรุปรายงานผลและเผยแพร่

2. ผลที่เกิดจากการดำเนินโครงการ จำแนกเป็น

2.1 สรุปคุณภาพในการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ปีการศึกษา 2559-2560 จำแนกตามกลุ่มผู้ประเมินโดยรวมพบว่า

ปีการศึกษา 2559 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.43, S.D. = .58) เมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.48, S.D. = .57) อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู ( = 4.42, S.D. = .58) อยู่ในระดับมาก ส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4. 39, S.D. = .65) อยู่ในระดับมากเช่นกัน

ปีการศึกษา 2560 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63, S.D. = .60) เมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.67, S.D. = .62) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู และกลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน ( = 4.61, S.D. = .60 และ .64) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน

2.2 สรุปการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ปีการศึกษา 2559-2560 พบว่า

ปีการศึกษา 2559 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.22, S.D. = .64) และเมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.34, S.D. = .74) อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่กลุ่มนักเรียน ( = 4.20, S.D. = .54) อยู่ในระดับมาก ส่วนกลุ่มผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4. 12, S.D. = .79) อยู่ในระดับมากเช่นกัน

ปีการศึกษา 2560 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55, S.D. = .62) และเมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.59, S.D. = .60) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาได้แก่กลุ่มผู้ปกครอง ( = 4.55, S.D. = .71) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4. 51, S.D. = .51) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน

2.3 สรุปพฤติกรรมการมีนิสัยรักการอ่านของนักเรียนหลังการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ปีการศึกษา 2559-2560 จำแนกตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า

ปีการศึกษา 2559 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.28, S.D. = .86) เมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าผู้ปกครอง โดยกลุ่มครู ( = 4.35, S.D. = .81) อยู่ในระดับมาก ส่วนกลุ่มผู้ปกครอง ( = 4.22, S.D. = .89) อยู่ในระดับมากเช่นกัน

ปีการศึกษา 2560 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.61, S.D. = .60) เมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าผู้ปกครอง โดยกลุ่มครู ( = 4.65, S.D. = .59) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนกลุ่มผู้ปกครอง ( = 4.57, S.D. = .60) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน

2.4 สรุปผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ปีการศึกษา 2559-2560 จำแนกเป็น

2.4.1 ผลสัมฤทธิ์ระดับสถานศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 (ม.1-ม.6) 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2559 มีคะแนน GPA เฉลี่ย 2.92 ปีการศึกษา 2560 มีคะแนน GPA เฉลี่ย 2.98 คะแนน GPA เฉลี่ยเพิ่มขึ้น +0.06

2.4.2 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2559 ระดับชั้น ม.3 โดยรวม 5 สาระหลัก คะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 39.00 ปีการศึกษา 2560 โดยรวม 4 สาระหลักคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 34.02 โดยภาพรวมค่าคะแนนเฉลี่ย ลดลง -4.98 ระดับชั้น ม.6 ปีการศึกษา 2559 โดยรวม 5 สาระหลักคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 32.38 ปีการศึกษา 2560 5 สาระหลัก โดยรวมคะแนนเฉลี่ย 31.42 โดยภาพรวมคะแนนเฉลี่ย ลดลง -0.95

2.5 สรุปความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ปีการศึกษา 2559-2560 จำแนกตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า

ปีการศึกษา 2559 โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.25, S.D. = .68) และเมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มนักเรียนมีความพึงพอใจสูงสุด ( = 4.30, S.D. = .90) อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง ( = 4.29, S.D. = .91) อยู่ในระดับมาก ส่วนกลุ่มครูมีความพึงพอใจต่ำสุด ( = 4.20, S.D. = .88) อยู่ในระดับมากเช่นกัน

ปีการศึกษา 2560 โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59, S.D. = .56) และเมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.65, S.D. = .59) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู ( = 4.61, S.D. = .58) ส่วนกลุ่มผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่ำสุด ( = 4.52, S.D. = .59) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการดำเนินโครงการไปใช้

1. ข้อค้นพบที่เป็นจุดเด่นในการดำเนินโครงการทั้งระดับกลุ่มงานย่อย และกลุ่มงานหลักของโรงเรียน ควรใช้กระบวนการเชิงคุณภาพที่เป็นระบบครบวงจรมาใช้ในการดำเนินโครงการ ทุกโครงการจึงจะประสบผลสำเร็จ

2. ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านของนักเรียนให้ประสบผลสำเร็จโรงเรียนควรจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ให้ครอบคลุมทั้ง 4 ลักษณะ ได้แก่ กิจกรรมที่เน้นทักษะการอ่าน กิจกรรมที่เน้นการเผยแพร่ข่าวสาร กิจกรรมที่เน้นการแก้ไขพัฒนา และกิจกรรมที่เน้นการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งควรส่งเสริมให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมทุกขั้นตอน ตั้งแต่ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมดำเนินงาน ร่วมประเมินผล และร่วมชื่นชมผลงาน

3. โรงเรียนควรส่งเสริมให้ใช้กระบวนการ PLC (Professional Learning Community) ในการจัดโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และโครงการอื่น ๆ เพราะครูจะได้ร่วมใจ ร่วมพลัง ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมเรียนรู้ ก่อให้เกิดคุณภาพและประสิทธิภาพของงาน

ข้อเสนอแนะในการวิจัย/รายงานครั้งต่อไป

1. ควรมีการประเมินโครงการต่าง ๆ ในระดับกลุ่มงานย่อยของโรงเรียนทุกโครงการ โดยการประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของข้อมูลหรือสารสนเทศที่ต้องการคำตอบ

2. ควรมีการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีนิสัยรักการอ่านของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา

โพสต์โดย ผอ.พรศักดิ์ : [25 เม.ย. 2561 เวลา 09:03 น.]
อ่าน [64800] ไอพี : 184.22.42.86
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,255 ครั้ง
ไอ้หยา!ด.ญ.ร้องพิธีเปิดโอลิมปิกก็ลวง
ไอ้หยา!ด.ญ.ร้องพิธีเปิดโอลิมปิกก็ลวง

เปิดอ่าน 27,961 ครั้ง
กำเนิดดวงดาว
กำเนิดดวงดาว

เปิดอ่าน 11,766 ครั้ง
8 นิสัยการทานอาหารที่คุณสาว ๆ มักทำพลาด
8 นิสัยการทานอาหารที่คุณสาว ๆ มักทำพลาด

เปิดอ่าน 8,938 ครั้ง
เตรียมตัวก่อนพบหมอ
เตรียมตัวก่อนพบหมอ

เปิดอ่าน 16,983 ครั้ง
วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง
วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง

เปิดอ่าน 12,134 ครั้ง
10 วิธีง่ายๆ ห่างไกลไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่
10 วิธีง่ายๆ ห่างไกลไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่

เปิดอ่าน 28,980 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556

เปิดอ่าน 14,057 ครั้ง
วิธีถ่ายภาพแบบมโน เสมือนตัวเองไปเที่ยวมา
วิธีถ่ายภาพแบบมโน เสมือนตัวเองไปเที่ยวมา

เปิดอ่าน 18,469 ครั้ง
จริงไหม? ...กินไก่แล้วทำให้ลูกเป็นสาวเร็ว หรือทำให้หน้าอกใหญ่จริงหรือ?
จริงไหม? ...กินไก่แล้วทำให้ลูกเป็นสาวเร็ว หรือทำให้หน้าอกใหญ่จริงหรือ?

เปิดอ่าน 21,446 ครั้ง
10 ธุรกิจลงทุนจิ๊บๆ แค่ใช้ทักษะที่มีในตัวก็ทำเงินได้
10 ธุรกิจลงทุนจิ๊บๆ แค่ใช้ทักษะที่มีในตัวก็ทำเงินได้

เปิดอ่าน 13,969 ครั้ง
หลักเกณฑ์กระจายอำนาจ 2550
หลักเกณฑ์กระจายอำนาจ 2550

เปิดอ่าน 10,814 ครั้ง
เด็กนั่งกลางที่เบาะหลังรถ มีแนวโน้มเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ
เด็กนั่งกลางที่เบาะหลังรถ มีแนวโน้มเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ

เปิดอ่าน 1,155 ครั้ง
รู้จักโรคกระดูกเข่าเสื่อม เพื่อหาทางออกการรักษาที่เหมาะสม
รู้จักโรคกระดูกเข่าเสื่อม เพื่อหาทางออกการรักษาที่เหมาะสม

เปิดอ่าน 54,107 ครั้ง
คำบุพบท
คำบุพบท

เปิดอ่าน 13,275 ครั้ง
"17 ท่านวดง่ายๆ" ช่วยลูกน้อย "ผ่อนคลาย-สุขภาพดี"
"17 ท่านวดง่ายๆ" ช่วยลูกน้อย "ผ่อนคลาย-สุขภาพดี"

เปิดอ่าน 15,536 ครั้ง
ประวัติ วะโฮรัมย์ เหรียญทองวีลแชร์พาราลิมปิก2008
ประวัติ วะโฮรัมย์ เหรียญทองวีลแชร์พาราลิมปิก2008
เปิดอ่าน 78,527 ครั้ง
อำนาจหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด
อำนาจหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด
เปิดอ่าน 11,938 ครั้ง
สักการะเกจิชื่อดัง... ตามหาผู้นำต้นยางต้นแรกมาปลูกในตรัง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง
สักการะเกจิชื่อดัง... ตามหาผู้นำต้นยางต้นแรกมาปลูกในตรัง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง
เปิดอ่าน 16,592 ครั้ง
เมื่อรู้สึกว่าอ้วนเกินไป ทำยังไงดี
เมื่อรู้สึกว่าอ้วนเกินไป ทำยังไงดี
เปิดอ่าน 11,148 ครั้ง
จัดสิ่งแวดล้อมหน้าจอคอมพ์ ช่วยสุขภาพดี-ทำงาน มีสุข
จัดสิ่งแวดล้อมหน้าจอคอมพ์ ช่วยสุขภาพดี-ทำงาน มีสุข

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ