ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้ศึกษา นางอำพร วิเศษพงษ์

สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3

ปีการศึกษา พ.ศ. 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนารูปแบบการสอนพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีจุดมุ่งหมายเฉพาะคือ(1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนารูปแบบการสอน (2) เพื่อสร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการสอนตามเกณฑ์ 80/80 (3) เพื่อทดลองใช้และศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น (4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนตามรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น

การวิจัยในครั้งนี้ดำเนินการไปตามลักษณะของกระบวนการวิจัยและพัฒนา โดยการศึกษาข้อมูลพื้นฐานจากเอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้องและสัมภาษณ์ครูผู้สอนภาษาอังกฤษ สำหรับการพัฒนารูปแบบการสอน นำข้อมูลที่ได้มาสร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการสอน การทดลองใช้และประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนตามรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น

ผลการวิจัยพบว่า

1. ได้รูปแบบการสอนที่มีชื่อว่า BuGiPPEC โดยมีกระบวนการเรียนรู้ 6 ขั้นคือ (1) ขั้นสร้างบรรยากาศ (Build Rapport) (2) ขั้นสร้างความรู้ใหม่ (Giving New Knowledge) (3) ขั้นฝึกปฏิบัติ (Practice) (4) ขั้นนำไปใช้ (Production) (5) ขั้นวัดและประเมินผล (Evaluation)และ(6) ขั้นสรุป(Conclusion

2. ผลการสร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบ พบว่ารูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.61 ค่า S.D เท่ากับ.488 และมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 84.68/83.93

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น

3.1 ความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารหลังการทดลองของนักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้รับการสอนตามรูปแบบที่พัฒนาขึ้นสูงกว่าก่อนทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.2 ความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารหลังการทดลองของนักเรียนกลุ่มควบคุมที่ได้รับการสอนด้วยรูปแบบการสอนปกติสูงกว่าก่อนทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.3 ความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารหลังการทดลองของนักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้รับการสอนตามรูปแบบที่พัฒนาขึ้นสูงกว่าความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารหลังการทดลองของนักเรียนกลุ่มควบคุมที่ได้รับการสอนด้วยรูปแบบการสอนปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05

4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่พัฒนาขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51

โดยสรุปรูปแบบการสอนพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสม นักเรียนมีความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนละนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุด จึงควรสนับสนุนให้ครูผู้สอนภาษาอังกฤษและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนำรูปแบบการสอนนี้ไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะในการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและเป็นพื้นฐานในการเรียนในระดับที่สูงต่อไป

โพสต์โดย พร : [10 มิ.ย. 2561 เวลา 20:36 น.]
อ่าน [4044] ไอพี : 122.155.45.157
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,887 ครั้ง
5 ต้นไม้ดูดสารพิษ ช่วยกรองอากาศแบบธรรมชาติ
5 ต้นไม้ดูดสารพิษ ช่วยกรองอากาศแบบธรรมชาติ

เปิดอ่าน 17,180 ครั้ง
มะระจีน
มะระจีน

เปิดอ่าน 3,595 ครั้ง
วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน
วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน

เปิดอ่าน 15,297 ครั้ง
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อระบบการศึกษาไทยในแบบ "รองเท้าเบอร์เดียว"
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อระบบการศึกษาไทยในแบบ "รองเท้าเบอร์เดียว"

เปิดอ่าน 180,960 ครั้ง
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) / หน่วยแสดงผลข้อมูล (Output Unit)
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) / หน่วยแสดงผลข้อมูล (Output Unit)

เปิดอ่าน 11,095 ครั้ง
เรียนวิทยาศาสตร์อย่างไรให้สนุก
เรียนวิทยาศาสตร์อย่างไรให้สนุก

เปิดอ่าน 24,395 ครั้ง
รายนามศิลปินแห่งชาติ 2559 จำนวน 12 ท่าน
รายนามศิลปินแห่งชาติ 2559 จำนวน 12 ท่าน

เปิดอ่าน 38,951 ครั้ง
การแก้ระบบสมการ โดยใช้วิธีเมตริกผกผัน
การแก้ระบบสมการ โดยใช้วิธีเมตริกผกผัน

เปิดอ่าน 17,556 ครั้ง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง

เปิดอ่าน 10,129 ครั้ง
สมองที่ไร้ข้อมูล ความรู้และความคิด
สมองที่ไร้ข้อมูล ความรู้และความคิด

เปิดอ่าน 52,903 ครั้ง
เทคนิคที่ทำให้คุณเป็นคนฉลาดและมีความจำดี
เทคนิคที่ทำให้คุณเป็นคนฉลาดและมีความจำดี

เปิดอ่าน 13,524 ครั้ง
ฮวงจุ้ยบ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ
ฮวงจุ้ยบ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ

เปิดอ่าน 9,306 ครั้ง
ฤดูฝน กับยางของท่าน
ฤดูฝน กับยางของท่าน

เปิดอ่าน 77,298 ครั้ง
ประโยชน์ของ "หอยขม" ตามตำราแพทย์แผนไทย
ประโยชน์ของ "หอยขม" ตามตำราแพทย์แผนไทย

เปิดอ่าน 15,912 ครั้ง
คึกคัก! นักท่องเที่ยวแห่ชม แมงกะพรุนหลากสี จ.ตราด ห้องพักเต็ม
คึกคัก! นักท่องเที่ยวแห่ชม แมงกะพรุนหลากสี จ.ตราด ห้องพักเต็ม

เปิดอ่าน 13,774 ครั้ง
สายตาเอียง
สายตาเอียง
เปิดอ่าน 12,622 ครั้ง
เปลี่ยนผิวหน้าพังให้กลับมาสวยปังกับ 4 การรักษาฝ้าอย่างถูกวิธี
เปลี่ยนผิวหน้าพังให้กลับมาสวยปังกับ 4 การรักษาฝ้าอย่างถูกวิธี
เปิดอ่าน 26,488 ครั้ง
วรรณคดีมรดก
วรรณคดีมรดก
เปิดอ่าน 7,949 ครั้ง
การอ่านและเขียนสะกดคำที่มี a เป็นสระเดี่ยวในคำ
การอ่านและเขียนสะกดคำที่มี a เป็นสระเดี่ยวในคำ
เปิดอ่าน 13,663 ครั้ง
เคล็ด(ไม่)ลับ
เคล็ด(ไม่)ลับ'หัวกะทิ'

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ