ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ผู้วิจัย นางสาวปาริชาต ทุมสิทธิ์

หน่วยงาน โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ

ปีที่วิจัย 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/7 โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้อง จำนวน 45 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 6 ชุด 2) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 15 แผน (15 ชั่วโมง) 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t-test (Dependent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1. แบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.42/82.06 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ผลการวิเคราะห์ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.6849 แสดงว่าหลังการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.6849 หรือคิดเป็นร้อยละ 68.49

3. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 การทดสอบก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย 22.77 (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 3.49) คิดเป็นร้อยละ 56.93 ส่วนการทดสอบหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย 32.66 (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.52) คิดเป็นร้อยละ 81.64 แสดงว่า ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สูงขึ้นจากก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเฉลี่ย 4.55 (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.46) โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ประเด็นที่นักเรียนมีความพึงพอใจมากที่สุด 3 ด้าน ได้แก่ ได้ทำงานเป็นกลุ่มทำให้เกิดความสามัคคี มีค่าเฉลี่ย 4.91 (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.29) นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปเป็นพื้นฐานการเรียนภาษาอังกฤษในระดับสูงต่อไป มีค่าเฉลี่ย 4.84 (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.37) และนักเรียนรู้สึกสนุกสนานกับการเรียนโดยใช้แบบฝึก มีค่าเฉลี่ย 4.82 (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.39) ตามลำดับ ส่วนประเด็นที่นักเรียนมีความพึงพอใจน้อยที่สุด 3 ด้าน ได้แก่ เนื้อหาในแบบฝึกมีความเหมาะสม มีค่าเฉลี่ย 4.20 (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.40) รูปเล่มของแบบฝึกสวยงาม น่าสนใจ น่าเรียน มีค่าเฉลี่ย 4.20 (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.50) และวิธีการปฏิบัติตามกิจกรรมที่นำเสนอเป็นขั้นตอน เข้าใจง่าย มีค่าเฉลี่ย 4.33 (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.48) ตามลำดับ

โพสต์โดย นางสาวปาริชาต ทุมสิทธิ์ : [23 มิ.ย. 2561 เวลา 16:59 น.]
อ่าน [3496] ไอพี : 1.20.88.213
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,315 ครั้ง
"อะเจย์ ปุริ" เด็กอัจฉริยะไอทีระดับโลกในเมืองไทย
"อะเจย์ ปุริ" เด็กอัจฉริยะไอทีระดับโลกในเมืองไทย

เปิดอ่าน 3,203 ครั้ง
กระทรวงศึกษาธิการ ปลดล็อคการศึกษาไทย พลิกฟื้นวิกฤติด้วยนโยบาย "ซ่อม สร้าง ป้องกัน"
กระทรวงศึกษาธิการ ปลดล็อคการศึกษาไทย พลิกฟื้นวิกฤติด้วยนโยบาย "ซ่อม สร้าง ป้องกัน"

เปิดอ่าน 15,370 ครั้ง
ปลุกสมองตื่นตัวด้วย
ปลุกสมองตื่นตัวด้วย 'มื้อเช้า'

เปิดอ่าน 9,478 ครั้ง
คนนอนกรนไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจไม่เกี่ยวพันกับโรคหัวใจและหลอดเลือด
คนนอนกรนไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจไม่เกี่ยวพันกับโรคหัวใจและหลอดเลือด

เปิดอ่าน 2,911 ครั้ง
"หมอเฉลิมชัย" พบสูตรวัคซีนรับมือโอมิครอน เพิ่มภูมิได้เพิ่มขึ้น 29-33 เท่า
"หมอเฉลิมชัย" พบสูตรวัคซีนรับมือโอมิครอน เพิ่มภูมิได้เพิ่มขึ้น 29-33 เท่า

เปิดอ่าน 7,909 ครั้ง
หนี้การศึกษา
หนี้การศึกษา

เปิดอ่าน 14,541 ครั้ง
วิธีสร้างคันกระสอบทรายให้แข็งแรง
วิธีสร้างคันกระสอบทรายให้แข็งแรง

เปิดอ่าน 11,828 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย
ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย

เปิดอ่าน 44,000 ครั้ง
ธงชาติไทยเอกลักษณ์ความเป็นชาติ
ธงชาติไทยเอกลักษณ์ความเป็นชาติ

เปิดอ่าน 27,343 ครั้ง
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 9,426 ครั้ง
เผย"แรม"รุ่นใหม่-มาตรฐานใหม่ต้องเก็บความจำไว้ได้แม้ไม่มีไฟฟ้า
เผย"แรม"รุ่นใหม่-มาตรฐานใหม่ต้องเก็บความจำไว้ได้แม้ไม่มีไฟฟ้า

เปิดอ่าน 993 ครั้ง
สมเด็จพระสังฆราช พระราชทานพรปีใหม่ 2567
สมเด็จพระสังฆราช พระราชทานพรปีใหม่ 2567

เปิดอ่าน 9,735 ครั้ง
มองโลกแบบวิกรม ตอน เจาะลึก การศึกษาไต้หวัน (1)
มองโลกแบบวิกรม ตอน เจาะลึก การศึกษาไต้หวัน (1)

เปิดอ่าน 12,350 ครั้ง
เปิด 10 เมนูสุขภาพ รับปี 2556 สไตล์อายุรวัฒน์
เปิด 10 เมนูสุขภาพ รับปี 2556 สไตล์อายุรวัฒน์

เปิดอ่าน 11,744 ครั้ง
ว.วชิรเมธี – มาร์ค ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ปี 2553
ว.วชิรเมธี – มาร์ค ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ปี 2553

เปิดอ่าน 26,721 ครั้ง
การพัฒนาการวิจัยโดยใช้รูปแบบ
การพัฒนาการวิจัยโดยใช้รูปแบบ
เปิดอ่าน 21,725 ครั้ง
5 เทคนิคเริ่มอาชีพเสริมอย่างมั่นใจ
5 เทคนิคเริ่มอาชีพเสริมอย่างมั่นใจ
เปิดอ่าน 9,632 ครั้ง
สามเณรน้อย ท่องบทธัมมจักกัปปวัตตนสูตรคล่องมาก ทึ่งสวดมนต์ตั้งแต่ยังอ่านไม่ออก
สามเณรน้อย ท่องบทธัมมจักกัปปวัตตนสูตรคล่องมาก ทึ่งสวดมนต์ตั้งแต่ยังอ่านไม่ออก
เปิดอ่าน 16,669 ครั้ง
สายตาสั้น
สายตาสั้น
เปิดอ่าน 12,056 ครั้ง
เชื่อไหมว่าเรามียาดีประจำบ้าน ก็เกลือที่อยู่ในครัวนี่เอง
เชื่อไหมว่าเรามียาดีประจำบ้าน ก็เกลือที่อยู่ในครัวนี่เอง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ