การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย
1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะพื้นฐาน กีฬาตะกร้อสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังเรียน โดยใช้ แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาตะกร้อ
3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาตะกร้อ
การวิจัยครั้งนี้มีวิธีดำเนินการวิจัย 2 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 การสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาตะกร้อสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน พิจารณาความเหมาะสม แล้วจึงนำไปหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ขั้นตอนที่ 2 การทดลองใช้กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนปทุมคงคา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 33 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษา เรื่อง ทักษะพื้นฐานกีฬาตะกร้อ ใช้แบบแผนการทดลองแบบ One Group Pretest Posttest Design และแบบประเมินความคิดเห็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบค่าเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ t-test แบบ Dependent และศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างเดิม
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาตะกร้อสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด และมีประสิทธิภาพ 82.79/84.43 ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาตะกร้อสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาตะกร้อ คือ แบบฝึกทักษะช่วยส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักคิดแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองรู้จักคิดวิเคราะห์ในการแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนและสามารถนำข้อบกพร่องในการฝึกปฏิบัติแต่ละขั้นตอนมาปรับปรุงและพัฒนาตนเองได้ นักเรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมการเรียนการสอนนักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในบทเรียนเรื่องทักษะพื้นฐานกีฬาตะกร้อได้ดียิ่งขึ้นและสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้