ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ

ชื่อผลงาน การพัฒนารูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย เตือนใจ ครองญาติ โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ตามแนวคิดซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ 80/80 (3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ (4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 35 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) รูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 16 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ 3) แบบสอบถามครูและผู้เชี่ยวชาญ และ แบบสอบถามความความคิดเห็น จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าที ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สรุปได้ดังนี้ 1) ด้านครูผู้สอนเน้นการสอนแบบบรรยาย 2) ด้านผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ 3) ด้านสื่อและแหล่งเรียนรู้มีน้อยมาก 4) ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 5) ใช้รูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดลพัฒนาทักษะการคิด และ 6) ประเมินผลให้หลากหลายตามสภาพจริง มีรายละเอียดดังนี้

1.1 ผลจากการวิเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เป็นนวัตกรรมทางการศึกษาในรูปแบบหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยผ่านกระบวนการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนมีการแลกเปลี่ยนความรู้ จัดระเบียบความรู้เพื่อให้จำได้ง่าย มีการทำกิจกรรมกลุ่ม

1.2 ผลการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน พบว่า ความต้องการในการใช้รูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ มีดังนี้ 1) ความต้องการด้านรูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล มาใช้ในการจัดการเรียนรู้ 2) ความต้องการด้านเนื้อหาที่มีปัญหาในการเรียนรู้ของนักเรียน 3) ความต้องการด้านการจัดกิจกรรมเน้นทักษะกระบวนการ 4) ความต้องการด้านการใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้ 5) ความต้องการด้านการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงที่มีความหลากหลาย 6) ความต้องการจัดการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการและการฝึกปฏิบัติ และ 7) ความต้องการด้านระยะเวลา

2. ผลการสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนการสอน 5 ขั้นคือ 1) ขั้นสร้างความรู้/ทบทวนความรู้เดิม 2) ขั้นศึกษาหาความรู้ใหม่ 3) ขั้นแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 4) ขั้นสรุปผล/แสดงผลงาน 5) ขั้นประยุกต์นำไปใช้ และมีประสิทธิภาพโดยรวมเท่ากับ 87.21/84.95

3. ผลการใช้รูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” วัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ผลการประเมินรูปแบบการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญ ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ระดับมาก ( = 4.46) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า รูปแบบการสอนตามแนวคิดซิปปาโมเดลเกือบทุกข้ออยู่ในระดับมาก และข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ( = 4.83) รองลงมาคือ รูปแบบการสอนมีความเหมาะสมในการนำมาใช้ส่งเสริมทักษะการคิด ( = 4.60) และส่งเสริมให้นักเรียนมีความคิดวิเคราะห์ในการจัดแสดงผลงาน ( = 4.57) ตามลำดับ

โพสต์โดย somjit : [7 ส.ค. 2561 เวลา 17:46 น.]
อ่าน [2323] ไอพี : 223.24.144.48
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,803 ครั้ง
สมุนไพรฤทธิ์เย็น ตัวช่วยดูแลผิว ประหยัด..ช่วงปลายฝนต้นหนาว
สมุนไพรฤทธิ์เย็น ตัวช่วยดูแลผิว ประหยัด..ช่วงปลายฝนต้นหนาว

เปิดอ่าน 7,999 ครั้ง
สตรีผู้ทรงอิทธิพลปี 2009
สตรีผู้ทรงอิทธิพลปี 2009

เปิดอ่าน 7,910 ครั้ง
สารอาหารแห่งอนาคต
สารอาหารแห่งอนาคต

เปิดอ่าน 824 ครั้ง
จัดบ้านให้ปลอดภัยต่อวัยสูงอายุ
จัดบ้านให้ปลอดภัยต่อวัยสูงอายุ

เปิดอ่าน 21,859 ครั้ง
"นอนห้อยหัว" วันละ 10 นาที ช่วยสมองดี แก่ช้า หน้าใส ไกลอัมพาต
"นอนห้อยหัว" วันละ 10 นาที ช่วยสมองดี แก่ช้า หน้าใส ไกลอัมพาต

เปิดอ่าน 10,831 ครั้ง
ออกกำลังกายคลายเครียดในออฟฟิศ เหนื่อยนักก็พักหน่อย
ออกกำลังกายคลายเครียดในออฟฟิศ เหนื่อยนักก็พักหน่อย

เปิดอ่าน 22,406 ครั้ง
ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก
ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก

เปิดอ่าน 51,949 ครั้ง
ประวัติ....ซานตาคลอส
ประวัติ....ซานตาคลอส

เปิดอ่าน 29,421 ครั้ง
การนำ e - Learning ไปใช้ประกอบกับการเรียนการสอน
การนำ e - Learning ไปใช้ประกอบกับการเรียนการสอน

เปิดอ่าน 40,280 ครั้ง
โบราณคดีพระราชวังจันทร์ พิษณุโลก
โบราณคดีพระราชวังจันทร์ พิษณุโลก

เปิดอ่าน 10,340 ครั้ง
รายงานการวิจัยพัฒนาการจัดค่ายอย่างสร้างสรรค์
รายงานการวิจัยพัฒนาการจัดค่ายอย่างสร้างสรรค์

เปิดอ่าน 7,513 ครั้ง
รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี การสร้างพลังใจครูทั้งแผ่นดิน
รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี การสร้างพลังใจครูทั้งแผ่นดิน

เปิดอ่าน 22,149 ครั้ง
โหมดสี
โหมดสี

เปิดอ่าน 22,006 ครั้ง
วิธีระงับความโกรธ
วิธีระงับความโกรธ

เปิดอ่าน 35,799 ครั้ง
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก

เปิดอ่าน 14,767 ครั้ง
แนวปฏิบัติการเสนอหนังสือราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แนวปฏิบัติการเสนอหนังสือราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เปิดอ่าน 15,786 ครั้ง
วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยแดงเป็นระเรื่อ แลดูสุขภาพดี
วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยแดงเป็นระเรื่อ แลดูสุขภาพดี
เปิดอ่าน 70,699 ครั้ง
การเรียนรู้ตลอดชีวิต คืออะไรและสำคัญตรงไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับปรัชญาพิพัฒนาการนิยม
การเรียนรู้ตลอดชีวิต คืออะไรและสำคัญตรงไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับปรัชญาพิพัฒนาการนิยม
เปิดอ่าน 18,488 ครั้ง
ทำไมคำว่า"ไทย" ต้องมี "ย" ยักษ์
ทำไมคำว่า"ไทย" ต้องมี "ย" ยักษ์
เปิดอ่าน 19,736 ครั้ง
ประวัติจังหวัดอำนาจเจริญ
ประวัติจังหวัดอำนาจเจริญ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
Koi360
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ