ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อม ทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนอนุบาลปีที่ 2

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อม

ทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนอนุบาลปีที่ 2

ผู้วิจัย นางสงกรานต์ ปราบนอก ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่น

ปีที่วิจัย 2559

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยเพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดประสบการณ์เพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนอนุบาลปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์และศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดประสบการณ์ด้วยรูปแบบการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนอนุบาลปีที่ 2 ประชากรที่ใช้ในวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีจำนวน 4 ห้อง รวมนักเรียนทั้งหมด 126 คน กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2/2 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 1 ห้องเรียน รวมนักเรียน 40 คน ได้มาจากการสุ่มห้องเรียนด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี ดังนี้ 1. แผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ จำนวน 20 แผน แผนละ 40 นาที 2. เกมการศึกษา เป็นเกมศึกษาที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นเพื่อพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ใน จำนวน 20 เกม 3. แบบฝึกทักษะ เป็นแบบฝึกทักษะที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นเพื่อพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ใน จำนวน 20 แบบฝึกทักษะ 4. แบบสังเกตพฤติกรรมในการเรียนของนักเรียน จำนวน 10 ข้อ 5. แบบทดสอบย่อย เป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ วัดความพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ มี 5 ฉบับ ฉบับละ 8 ข้อ และ 6. แบบทดสอบรวม เป็นแบบทดสอบที่เป็นแบบเลือกตอบวัดตามจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ ในเรื่อง การเปรียบเทียบ การจำแนก การจัดหมวดหมู่ การเรียงลำดับ และการบอกตำแหน่ง เป็นแบบทดสอบแบบอิงเกณฑ์ มี 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ

ผลการวิจัยพบว่า

1. เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนอนุบาลปีที่ 2 พบว่า นักเรียนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องการให้มีการพัฒนาเกมการศึกษา โดยให้มีรูปแบบที่เหมาะสม วิธีการเล่นให้มีหลากหลายวิธี เวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ที่นำมาพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ และรูปแบบการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ ยังสอดคล้องกับหน่วยการเรียนการสอนหลักสูตร โดยเรียนรู้จากการปฏิบัติ โดยเรื่องที่นำมาพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ มีเนื้อหาจากความต้องการและความสนใจของนักเรียนเป็นสำคัญ ควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนโดยยึดนักเรียนเป็นสำคัญ ควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนโดยยึดนักเรียนเป็นสำคัญและความแตกต่างระหว่างบุคคล

2. ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนอนุบาลปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ (E1/ E2) เท่ากับ 82.00/80.63 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ที่ 80/80

3. นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีความพร้อมทางคณิตศาสตร์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยรวมทั้ง 5 ด้าน แสดงว่าการใช้เกมการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ทำให้นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีความพร้อมทางคณิตศาสตร์เพิ่มขึ้นทุกด้าน

4. ผลการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ และศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อ การจัดประสบการณ์ด้วยเกมการศึกษา

โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย ดังนี้

4.1 ผลการเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ก่อนและหลังเรียนของทักษะ

การเปรียบเทียบ พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน ทำให้ผู้เรียนมีทักษะการเปรียบเทียบเพิ่มขึ้น

4.2 ผลการเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ก่อนและหลังเรียนของทักษะ

การจำแนก พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังได้รับการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนเรียน ทำให้ผู้เรียนมีทักษะการจำแนกเพิ่มขึ้น

4.3 ผลการเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ก่อนและหลังเรียนของทักษะ

การจัดหมวดหมู่ พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนได้รับการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนเรียน ทำให้ผู้เรียนมีทักษะ

การจัดหมวดหมู่เพิ่มขึ้น

4.4 ผลการเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ก่อนและหลังเรียนของทักษะ

การเรียงลำดับ พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ทำให้ผู้เรียนมีทักษะการเรียงลำดับเพิ่มขึ้น

4.5 ผลการเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ก่อนและหลังเรียนของทักษะการบอกตำแหน่ง พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังได้รับการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนเรียน ทำให้ผู้เรียนมีทักษะการบอกตำแหน่งเพิ่มขึ้น

โพสต์โดย ศิริ : [31 ส.ค. 2561 เวลา 07:28 น.]
อ่าน [3115] ไอพี : 223.206.246.69
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,383 ครั้ง
เพลงลอยกระทง
เพลงลอยกระทง

เปิดอ่าน 56,704 ครั้ง
ระบบการสอนของเคมพ์ (Jerrold/Kemp)
ระบบการสอนของเคมพ์ (Jerrold/Kemp)

เปิดอ่าน 10,683 ครั้ง
แอปเปิลเปิดตัว iPhone 5S และ iPhone 5C อย่างเป็นทางการ(10ก.ย.56)
แอปเปิลเปิดตัว iPhone 5S และ iPhone 5C อย่างเป็นทางการ(10ก.ย.56)

เปิดอ่าน 382,373 ครั้ง
ปรัชญาและคุณธรรมสำหรับครู และลักษณะครูที่ดี
ปรัชญาและคุณธรรมสำหรับครู และลักษณะครูที่ดี

เปิดอ่าน 11,795 ครั้ง
ชวนดู ฝนดาวตกสิงโต หรือฝนดาวตกลีโอนิดส์ 17-18 พ.ย.
ชวนดู ฝนดาวตกสิงโต หรือฝนดาวตกลีโอนิดส์ 17-18 พ.ย.

เปิดอ่าน 16,114 ครั้ง
การตากข้าว สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 3
การตากข้าว สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 3

เปิดอ่าน 19,386 ครั้ง
15 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ ปาก และ ฟัน
15 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ ปาก และ ฟัน

เปิดอ่าน 21,238 ครั้ง
กุ้งเดินขบวน Unseen in Thailand มหัศจรรย์ธรรมชาติ อ.น้ำยืน
กุ้งเดินขบวน Unseen in Thailand มหัศจรรย์ธรรมชาติ อ.น้ำยืน

เปิดอ่าน 53,467 ครั้ง
Verb Tenses (Past Tenses )
Verb Tenses (Past Tenses )

เปิดอ่าน 20,188 ครั้ง
17 ประโยคที่ผู้นำมักพูดทุกวัน
17 ประโยคที่ผู้นำมักพูดทุกวัน

เปิดอ่าน 9,642 ครั้ง
คลิปการทดลองน่าทึ่ง เมื่อคนแปลกหน้าขอแบ่งของกินจากขอทาน
คลิปการทดลองน่าทึ่ง เมื่อคนแปลกหน้าขอแบ่งของกินจากขอทาน

เปิดอ่าน 61,675 ครั้ง
ประวัติ มหาตมะ คานธี
ประวัติ มหาตมะ คานธี

เปิดอ่าน 25,893 ครั้ง
วิวัฒนาการมนุษย์
วิวัฒนาการมนุษย์

เปิดอ่าน 50,604 ครั้ง
คำว่า "สวัสดี" เริ่มใช้อย่างเป็นทางการในไทย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พ.ศ.2486
คำว่า "สวัสดี" เริ่มใช้อย่างเป็นทางการในไทย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พ.ศ.2486

เปิดอ่าน 15,549 ครั้ง
แว่นกันแดดแฟชั่น สวย เสี่ยง
แว่นกันแดดแฟชั่น สวย เสี่ยง

เปิดอ่าน 21,645 ครั้ง
รู้จักวิตามิน H
รู้จักวิตามิน H
เปิดอ่าน 11,273 ครั้ง
โยคะดีกับผิว เหมาะกับวัย
โยคะดีกับผิว เหมาะกับวัย
เปิดอ่าน 12,669 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษา : มุ่งการขยายโครงสร้าง คือเลือกทางสู่ความล้มเหลว โดย ประเสริฐ ตันสกุล
ปฏิรูปการศึกษา : มุ่งการขยายโครงสร้าง คือเลือกทางสู่ความล้มเหลว โดย ประเสริฐ ตันสกุล
เปิดอ่าน 34,346 ครั้ง
“ไมโครกรีน” ผักจิ๋ว แต่คุณประโยชน์สูง...ทางเลือกใหม่ของผู้รักสุขภาพ “ทานน้อยแต่ได้ประโยชน์มาก”
“ไมโครกรีน” ผักจิ๋ว แต่คุณประโยชน์สูง...ทางเลือกใหม่ของผู้รักสุขภาพ “ทานน้อยแต่ได้ประโยชน์มาก”
เปิดอ่าน 10,881 ครั้ง
ทำไมสัตวแพทย์ต้องดึงหนังระหว่างหัวไหล่ของสุนัข
ทำไมสัตวแพทย์ต้องดึงหนังระหว่างหัวไหล่ของสุนัข

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ