ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD

ประกอบชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ผู้ศึกษา โสภา บุญศักดิ์

สังกัด โรงเรียนสายธารวิทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เฉพาะดังต่อไปนี้ 1) เพื่อศึกษาสำรวจข้อมูลพื้นฐานการจัดการเรียนการสอนรายวิชาฟิสิกส์พื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการสำรวจข้อมูลพื้นฐาน คือ 1)รายงานการประเมินคุณภาพการศึกษา โรงเรียนสายธารวิทยา ปีการศึกษา 2559 และปีการศึกษา 2560 2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสายธารวิทยา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 15 คน แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 คือ 1) ผู้เชี่ยวชาญที่ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย จำนวน 5 คน 2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกุดเสลาวิทยาคม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 12 คน 3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสายธารวิทยา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 30 คน และแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสายธารวิทยา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) แบบสัมภาษณ์นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เกี่ยวกับการเรียนรายวิชาฟิสิกส์ 2) แบบสังเกตและประเมินพฤติกรรมนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในการเรียนวิชาฟิสิกส์พื้นฐาน 3)ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 4) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบ ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สถิติที่ใช้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการวิจัยพบว่า

1. การสำรวจข้อมูลพื้นฐานเพื่อศึกษาสำรวจข้อมูลพื้นฐานการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ในสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นักเรียนมีปัญหาด้านการเรียนการสอน คือ เด็กขาดความสนใจในการเรียน โดยมีสาเหตุมาจากเนื้อหาของรายวิชาวิทยาศาสตร์มีลักษณะเป็นนามธรรมยากต่อการทำความเข้าใจ อีกทั้งยังขาดสื่อการเรียน การสอนส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ

2. การสร้างและการหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ได้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 ชุด และแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 แผน ซึ่งรูปแบบนี้มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.91/83.19

3. การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุด

ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

พบว่า

3.1 รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรม

ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.7156 หรือ ร้อยละ 71.56

3.2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับร้อยละ 40.88 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับร้อยละ 83.19 คะแนนความก้าวหน้า เท่ากับร้อยละ 42.31 แสดงว่านักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความก้าวหน้าทางการเรียน

3.3 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย โส : [2 ก.ย. 2561 เวลา 12:30 น.]
อ่าน [4359] ไอพี : 1.1.227.120
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,466 ครั้ง
ทางรอดประเทศไทย : เปลี่ยนระบบการเรียนรู้
ทางรอดประเทศไทย : เปลี่ยนระบบการเรียนรู้

เปิดอ่าน 21,835 ครั้ง
วิธีดูสุริยุปราคาที่ถูกต้อง
วิธีดูสุริยุปราคาที่ถูกต้อง

เปิดอ่าน 12,424 ครั้ง
ทานผลไม้ ก็ช่วยป้องกันผมร่วงก่อนวัยได้
ทานผลไม้ ก็ช่วยป้องกันผมร่วงก่อนวัยได้

เปิดอ่าน 22,766 ครั้ง
อึ้ง!! สมุนไพรไทย 2,000 ตำรับ รักษามะเร็งได้จริง เตรียมเผยแพร่ผ่านหมอพื้นบ้านกันต่างชาติขโมยสูตร
อึ้ง!! สมุนไพรไทย 2,000 ตำรับ รักษามะเร็งได้จริง เตรียมเผยแพร่ผ่านหมอพื้นบ้านกันต่างชาติขโมยสูตร

เปิดอ่าน 10,594 ครั้ง
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..

เปิดอ่าน 22,673 ครั้ง
เหรียญราชการชายแดน
เหรียญราชการชายแดน

เปิดอ่าน 29,268 ครั้ง
อาหาร 7 อย่างที่กินแล้วกระปรี้กระเปร่าสุด ๆ
อาหาร 7 อย่างที่กินแล้วกระปรี้กระเปร่าสุด ๆ

เปิดอ่าน 10,202 ครั้ง
10 วิธีรักษาเงินสด
10 วิธีรักษาเงินสด

เปิดอ่าน 30,321 ครั้ง
แฟลช และเทคนิคการถ่ายภาพด้วยแสงแฟลช
แฟลช และเทคนิคการถ่ายภาพด้วยแสงแฟลช

เปิดอ่าน 11,203 ครั้ง
ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของญี่ปุ่น
ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 13,288 ครั้ง
ปัญหาศึกษาไทยใหญ่กว่าฟรี12 หรือ15 ปี
ปัญหาศึกษาไทยใหญ่กว่าฟรี12 หรือ15 ปี

เปิดอ่าน 9,427 ครั้ง
พระสังฆราชประทานพระโอวาทวันอาสาฬหบูชา
พระสังฆราชประทานพระโอวาทวันอาสาฬหบูชา

เปิดอ่าน 12,947 ครั้ง
กว่าจะเป็น เวียงจันทน์เกมส์
กว่าจะเป็น เวียงจันทน์เกมส์

เปิดอ่าน 7,792 ครั้ง
สุดเจ๋ง! หนุ่มจบ ม.6 ประดิษฐ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ยกหมู่บ้าน
สุดเจ๋ง! หนุ่มจบ ม.6 ประดิษฐ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ยกหมู่บ้าน

เปิดอ่าน 10,044 ครั้ง
วิลล่า เมดิคา พาอัพเดท ดูแลสุขภาพแนวใหม่
วิลล่า เมดิคา พาอัพเดท ดูแลสุขภาพแนวใหม่

เปิดอ่าน 16,439 ครั้ง
สุดยอดอาหารช่วยให้ผอมเร็วขึ้น แถมยังช่วยล้างพิษด้วย
สุดยอดอาหารช่วยให้ผอมเร็วขึ้น แถมยังช่วยล้างพิษด้วย
เปิดอ่าน 14,868 ครั้ง
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา
เปิดอ่าน 16,117 ครั้ง
ช้อน-ส้อม จุ่มน้ำร้อนหม้อหุงข้าว ฆ่าเชื้อโรคไม่ตาย
ช้อน-ส้อม จุ่มน้ำร้อนหม้อหุงข้าว ฆ่าเชื้อโรคไม่ตาย
เปิดอ่าน 11,549 ครั้ง
ตำแหน่ง "สิว" บอกสุขภาพ
ตำแหน่ง "สิว" บอกสุขภาพ
เปิดอ่าน 24,167 ครั้ง
ความลี้ลับของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ความลี้ลับของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ