|
|
การศึกษาผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อศึกษาความก้าวหน้าของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านปางไม้แดง ตำบลบ้านช้าง อำเภอแม่แตง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 14 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 9 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 30 ข้อ เป็นแบบปรนัยชนิด 3 ตัวเลือก แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และแบบประเมิน ความพึงพอใจสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านปางไม้แดง ที่มีต่อการเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เป็นมาตรวัดแบบประมาณค่า (Rating Scale) และวิเคราะห์ข้อมูลแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยการหาความเที่ยงตรง โดยใช้ดัชนีความสอดคล้องของความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ด้วยวิธี E1/E2 หาค่าความยากง่ายของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนประกอบการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ด้วยเทคนิค 50% กลุ่มสูง กลุ่มต่ำ หาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ การอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ด้วยสูตร KR 20 เปรียบเทียบผลต่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนแต่ละคน โดยการหาค่าร้อยละความก้าวหน้าของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มประชากร วิเคราะห์หาความเชื่อมั่นของแบบประเมินความพึงพอใจสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านปางไม้แดง ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำ ตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้สูตรการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา ( - coefficient) ตามวิธีของคอร์นบาค และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรม การเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
สรุปผลการศึกษา
1. ผลการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ประสิทธิภาพ E1และ E2 มีค่าเท่ากับ 88.94/89.45 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนได้คะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 17.36 คิดเป็นร้อยละ 58.86 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 2.87 เมื่อนักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนได้คะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 26.93 คิดเป็นร้อยละ 89.76 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 1.73 โดยมีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นได้คะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 9.57 คิดเป็นร้อยละ 30.90 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 2.44
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.59 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.12
|
โพสต์โดย ฺ- : [6 ก.พ. 2562 เวลา 06:33 น.] อ่าน [4963] ไอพี : 171.4.232.203
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 9,108 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,353 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,035 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,937 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,139 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 29,009 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 118,678 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,301 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,221 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,079 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,560 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,938 ครั้ง ![มิวสิควิดีโอเพลง ดีใจได้เรียนฟรี ลุงตู่จัดให้ [Official MV] มิวสิควิดีโอเพลง ดีใจได้เรียนฟรี ลุงตู่จัดให้ [Official MV]](news_pic/p50984511305.jpg)
| เปิดอ่าน 11,160 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,813 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,622 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 9,832 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,809 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,926 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,228 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,405 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|