|
|
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอน APIPA Model โดยใช้คลิปวีดิทัศน์ เพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอน APIPA Model โดยใช้คลิปวีดิทัศน์ เพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 4) เพื่อประเมินผล/ปรับปรุงรูปแบบการสอน APIPA Model โดยใช้คลิปวีดิทัศน์ เพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยการวิจัยครั้งนี้ได้ทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเบ็ตตี้ดูเมน 2 ช่องเม็ก องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 36 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) รูปแบบกิจกรรมการสอน APIPA Model 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐานเพื่อการจัดการเรียนรู้ 4) แบบสัมภาษณ์ครูผู้สอนเพื่อรวบรวมแนวคิดในการจัดกิจกรรมรูปแบบการสอน 5) แบบทดสอบวัดความสามารถทางการฟังภาษาอังกฤษ และ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอน APIPA Model การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ค่า t-test แบบ Dependent Samples และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1) ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า นักเรียนมีความสนใจในการจัดการเรียนการสอนด้วยการพัฒนารูปแบบการสอน APIPA Model โดยใช้คลิปวีดิทัศน์ เพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เนื่องจากนักเรียนต้องการที่จะพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และบทเรียนมัลติมีเดียมีความทันสมัยและสะดวกในการเรียน สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นสำคัญในการจัดการเรียนการสอน และกำหนดสมรรถนะหลักที่สำคัญให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนคือ ความสามารถเพื่อการสื่อสาร ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และความสามารถในการคิด ครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษเห็นด้วยกับรูปแบบการสอน APIPA Model ที่จะนำมาพัฒนาศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพเพื่อใช้แก้ปัญหาในการพัฒนาทักษะการฟังของนักเรียน
2) ผลการพัฒนารูปแบบการสอน APIPA Model โดยใช้คลิปวีดิทัศน์ เพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ได้รูปแบบกิจกรรมที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า APIPA Model โดยรูปแบบมีองค์ประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการกิจกรรม สิ่งที่เสริมการเรียนรู้ได้แก่ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน สำหรับกระบวนการจัดกิจกรรมรูปแบบการสอนแบบ APIPA Model โดยใช้โดยใช้คลิปวีดิทัศน์เพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษ มีขั้นตอนดังนี้ 1) ขั้นสร้างแรงจูงใจ (A : Arousing Presentation) 2) ขั้นทบทวนความพร้อมก่อนการฟัง (P : Pre-Listening) 3) ขั้นฟังอย่างละเอียด (I : Intensive-Listening) 4) ขั้นถ่ายโอนหลังการฟัง (P : Post-Listening) 5) ขั้นประเมินผล (A : Authentic Performance and Assessment) ผลการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน มีความคิดเห็นต่อรูปแบบการสอนโดยรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด ( =4.57, S.D.=0.56) และผลการพัฒนารูปแบบการสอนมีประสิทธิภาพ E1/E2 = 80.93/82.78
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอน APIPA Model โดยใช้คลิปวีดิทัศน์ เพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่านักเรียนมีความสนใจ และกระตือรือร้นในการเรียน ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมเป็นอย่างดี นำเสนอผลงานเป็นที่น่าพอใจ และความสามารถในการฟังภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินผลรูปแบบการสอน APIPA Model โดยใช้คลิปวีดิทัศน์ เพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนแบบ APIPA Model โดยใช้คลิปวีดิทัศน์ เพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.51, S.D. 0.64)
|
โพสต์โดย Kitikorn2520 : [13 ก.พ. 2562 เวลา 07:21 น.] อ่าน [2083] ไอพี : 118.174.45.177
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 13,210 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 113,248 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,461 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,666 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 26,158 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,730 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,151 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,227 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,578 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,461 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 110,974 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,206 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,134 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,446 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,925 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 15,112 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,138 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 36,841 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,434 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,045 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|