ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน
และการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้รายงาน นางสาวกาญจนา พังภักดี
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
ปีที่พิมพ์ 2562
บทคัดย่อ
การสร้างและพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการรายงานเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านสะอาดนาพังศรีเจริญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคำนวณหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติ t-test (Dependent Sample) ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 7 เล่ม มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.76/85.79 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รวม 7 เล่ม มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.67.73 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 67.73
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในกลุ่มสาระเรียนการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่าผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนจากการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน ( = 25.79) สูงกว่าก่อนเรียน ( =16.95) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้