ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริงของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผล

ตามสภาพจริงของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

ชื่อผู้ศึกษา นางรุ่งนภา แซ่ส้อ

หน่วยงาน โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14

ปีการศึกษา 2560

รายงานการประเมินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง ของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อประเมินคุณลักษณะของครูผู้เข้าร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง ด้านความรู้

และทักษะ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย

เมื่อเริ่มต้นและหลังสิ้นสุดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง จำนวน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และภาษาต่างประเทศ 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน

ของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัยด้านต่าง ๆ ที่มีต่อโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง เมื่อเริ่มต้นและหลังสิ้นสุดโครงการ กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจากตารางเครจซี่

และมอร์แกน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ครูจำนวน 108 คน นักเรียนจำนวน 340 คน และผู้ปกครองนักเรียนจำนวน 340 คน ของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย

ปีการศึกษา 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย แบบทดสอบด้านความรู้ครู

1 ฉบับ แบบปรนัยเลือกตอบ จำนวน 25 ข้อ แบบสอบถาม จำนวน 4 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1

เป็นแบบสอบถามด้านคุณลักษณะครูเกี่ยวกับทักษะครูในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ( ) ตั้งแต่ .30 ถึง .82 มีค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับเท่ากับ .90

ฉบับที่ 2 แบบสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อโครงการ จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ( ) ตั้งแต่ .30 ถึง .85 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .92 ฉบับที่ 3 แบบสอบถาม

ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อโครงการ จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ( ) ตั้งแต่ .32 ถึง .85 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .95 ฉบับที่ 4 แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ปกครอง

ที่มีต่อโครงการ จำนวน 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ( ) ตั้งแต่ .35 ถึง .89 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .96 ที่ผู้ประเมินสร้างขึ้นโดยประมวลแนวความคิดที่ได้ศึกษาวิเคราะห์จากเอกสาร

และงานประเมินที่เกี่ยวข้อง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( )

ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t - test)

ผลการศึกษาค้นคว้า สรุปได้ดังนี้

1) ผลการประเมินคุณลักษณะของครูที่เข้าร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผล

และประเมินผลตามสภาพจริง ด้านความรู้ เมื่อเริ่มต้นโครงการผลการประเมินความรู้ของครูด้านการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 55.58 หลังสิ้นสุดโครงการผลการประเมินความรู้ของครู ด้านการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 89.50 และด้านทักษะ เมื่อเริ่มต้นโครงการผลการประเมินด้านทักษะของครู ด้านการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 54.62 หลังสิ้นสุดโครงการผลการประเมิน ด้านทักษะของครู ด้านการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 90.96

2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนทุกระดับชั้น จำนวน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้

คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และภาษาต่างประเทศ ระดับชั้น เมื่อเริ่มต้นโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง

มีผลการเรียนเฉลี่ย 74.10 (ผลสัมฤทธิ์ปีการศึกษา 2559 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีค่าเฉลี่ย 72.00 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีค่าเฉลี่ย 68.75 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

มีค่าเฉลี่ย 74.25 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มีค่าเฉลี่ย 78.75 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มีค่าเฉลี่ย 76.75) และหลังสิ้นสุดโครงการนักเรียนทุกระดับชั้น

มีผลการเรียนเฉลี่ย 75.55 (ผลสัมฤทธิ์ปีการศึกษา 2560 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีค่าเฉลี่ย 71.50 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีค่าเฉลี่ย 70.75 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

มีค่าเฉลี่ย 74.50 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มีค่าเฉลี่ย 79.50 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มีค่าเฉลี่ย 81.50) เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างกันของนักเรียนทุกระดับชั้น เมื่อเริ่มต้นโครงการและหลังสิ้นสุดโครงการ ปรากฏว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยหลังสิ้นสุดโครงการสูงกว่าเมื่อเริ่มต้นโครงการทุกระดับชั้น

3) ผลการการประเมินความพึงพอใจของครู นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน ด้านต่าง ๆ

ที่มีต่อโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง เมื่อเริ่มต้นโครงการ

ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการจัดโครงการของครู นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน

มีความพึงพอใจต่อโครงการโดยภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.21) และหลังสิ้นสุดโครงการ ครู นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อโครงการโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผล

ตามสภาพจริงของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

ชื่อผู้ศึกษา นางรุ่งนภา แซ่ส้อ

หน่วยงาน โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14

ปีการศึกษา 2560

รายงานการประเมินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง ของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อประเมินคุณลักษณะของครูผู้เข้าร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง ด้านความรู้

และทักษะ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย

เมื่อเริ่มต้นและหลังสิ้นสุดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง จำนวน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และภาษาต่างประเทศ 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน

ของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัยด้านต่าง ๆ ที่มีต่อโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง เมื่อเริ่มต้นและหลังสิ้นสุดโครงการ กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจากตารางเครจซี่

และมอร์แกน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ครูจำนวน 108 คน นักเรียนจำนวน 340 คน และผู้ปกครองนักเรียนจำนวน 340 คน ของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย

ปีการศึกษา 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย แบบทดสอบด้านความรู้ครู

1 ฉบับ แบบปรนัยเลือกตอบ จำนวน 25 ข้อ แบบสอบถาม จำนวน 4 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1

เป็นแบบสอบถามด้านคุณลักษณะครูเกี่ยวกับทักษะครูในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ( ) ตั้งแต่ .30 ถึง .82 มีค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับเท่ากับ .90

ฉบับที่ 2 แบบสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อโครงการ จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ( ) ตั้งแต่ .30 ถึง .85 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .92 ฉบับที่ 3 แบบสอบถาม

ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อโครงการ จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ( ) ตั้งแต่ .32 ถึง .85 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .95 ฉบับที่ 4 แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ปกครอง

ที่มีต่อโครงการ จำนวน 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ( ) ตั้งแต่ .35 ถึง .89 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .96 ที่ผู้ประเมินสร้างขึ้นโดยประมวลแนวความคิดที่ได้ศึกษาวิเคราะห์จากเอกสาร

และงานประเมินที่เกี่ยวข้อง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( )

ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t - test)

ผลการศึกษาค้นคว้า สรุปได้ดังนี้

1) ผลการประเมินคุณลักษณะของครูที่เข้าร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผล

และประเมินผลตามสภาพจริง ด้านความรู้ เมื่อเริ่มต้นโครงการผลการประเมินความรู้ของครูด้านการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 55.58 หลังสิ้นสุดโครงการผลการประเมินความรู้ของครู ด้านการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 89.50 และด้านทักษะ เมื่อเริ่มต้นโครงการผลการประเมินด้านทักษะของครู ด้านการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 54.62 หลังสิ้นสุดโครงการผลการประเมิน ด้านทักษะของครู ด้านการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 90.96

2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนทุกระดับชั้น จำนวน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้

คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และภาษาต่างประเทศ ระดับชั้น เมื่อเริ่มต้นโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง

มีผลการเรียนเฉลี่ย 74.10 (ผลสัมฤทธิ์ปีการศึกษา 2559 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีค่าเฉลี่ย 72.00 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีค่าเฉลี่ย 68.75 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

มีค่าเฉลี่ย 74.25 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มีค่าเฉลี่ย 78.75 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มีค่าเฉลี่ย 76.75) และหลังสิ้นสุดโครงการนักเรียนทุกระดับชั้น

มีผลการเรียนเฉลี่ย 75.55 (ผลสัมฤทธิ์ปีการศึกษา 2560 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีค่าเฉลี่ย 71.50 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีค่าเฉลี่ย 70.75 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

มีค่าเฉลี่ย 74.50 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มีค่าเฉลี่ย 79.50 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มีค่าเฉลี่ย 81.50) เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างกันของนักเรียนทุกระดับชั้น เมื่อเริ่มต้นโครงการและหลังสิ้นสุดโครงการ ปรากฏว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยหลังสิ้นสุดโครงการสูงกว่าเมื่อเริ่มต้นโครงการทุกระดับชั้น

3) ผลการการประเมินความพึงพอใจของครู นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน ด้านต่าง ๆ

ที่มีต่อโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง เมื่อเริ่มต้นโครงการ

ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการจัดโครงการของครู นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน

มีความพึงพอใจต่อโครงการโดยภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.21) และหลังสิ้นสุดโครงการ ครู นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อโครงการโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผล

ตามสภาพจริงของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

ชื่อผู้ศึกษา นางรุ่งนภา แซ่ส้อ

หน่วยงาน โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14

ปีการศึกษา 2560

รายงานการประเมินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง ของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อประเมินคุณลักษณะของครูผู้เข้าร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง ด้านความรู้

และทักษะ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย

เมื่อเริ่มต้นและหลังสิ้นสุดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง จำนวน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และภาษาต่างประเทศ 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน

ของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัยด้านต่าง ๆ ที่มีต่อโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง เมื่อเริ่มต้นและหลังสิ้นสุดโครงการ กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจากตารางเครจซี่

และมอร์แกน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ครูจำนวน 108 คน นักเรียนจำนวน 340 คน และผู้ปกครองนักเรียนจำนวน 340 คน ของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย

ปีการศึกษา 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย แบบทดสอบด้านความรู้ครู

1 ฉบับ แบบปรนัยเลือกตอบ จำนวน 25 ข้อ แบบสอบถาม จำนวน 4 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1

เป็นแบบสอบถามด้านคุณลักษณะครูเกี่ยวกับทักษะครูในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ( rxy) ตั้งแต่ .30 ถึง .82 มีค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับเท่ากับ .90

ฉบับที่ 2 แบบสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อโครงการ จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy ) ตั้งแต่ .30 ถึง .85 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .92 ฉบับที่ 3 แบบสอบถาม

ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อโครงการ จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy ) ตั้งแต่ .32 ถึง .85 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .95 ฉบับที่ 4 แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ปกครอง

ที่มีต่อโครงการ จำนวน 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy ) ตั้งแต่ .35 ถึง .89 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .96 ที่ผู้ประเมินสร้างขึ้นโดยประมวลแนวความคิดที่ได้ศึกษาวิเคราะห์จากเอกสาร

และงานประเมินที่เกี่ยวข้อง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (x̄ )

ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t - test)

ผลการศึกษาค้นคว้า สรุปได้ดังนี้

1) ผลการประเมินคุณลักษณะของครูที่เข้าร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผล

และประเมินผลตามสภาพจริง ด้านความรู้ เมื่อเริ่มต้นโครงการผลการประเมินความรู้ของครูด้านการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 55.58 หลังสิ้นสุดโครงการผลการประเมินความรู้ของครู ด้านการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 89.50 และด้านทักษะ เมื่อเริ่มต้นโครงการผลการประเมินด้านทักษะของครู ด้านการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 54.62 หลังสิ้นสุดโครงการผลการประเมิน ด้านทักษะของครู ด้านการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง มีค่าเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 90.96

2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนทุกระดับชั้น จำนวน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้

คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และภาษาต่างประเทศ ระดับชั้น เมื่อเริ่มต้นโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง

มีผลการเรียนเฉลี่ย 74.10 (ผลสัมฤทธิ์ปีการศึกษา 2559 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีค่าเฉลี่ย 72.00 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีค่าเฉลี่ย 68.75 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

มีค่าเฉลี่ย 74.25 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มีค่าเฉลี่ย 78.75 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มีค่าเฉลี่ย 76.75) และหลังสิ้นสุดโครงการนักเรียนทุกระดับชั้น

มีผลการเรียนเฉลี่ย 75.55 (ผลสัมฤทธิ์ปีการศึกษา 2560 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีค่าเฉลี่ย 71.50 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีค่าเฉลี่ย 70.75 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

มีค่าเฉลี่ย 74.50 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มีค่าเฉลี่ย 79.50 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มีค่าเฉลี่ย 81.50) เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างกันของนักเรียนทุกระดับชั้น เมื่อเริ่มต้นโครงการและหลังสิ้นสุดโครงการ ปรากฏว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยหลังสิ้นสุดโครงการสูงกว่าเมื่อเริ่มต้นโครงการทุกระดับชั้น

3) ผลการการประเมินความพึงพอใจของครู นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน ด้านต่าง ๆ

ที่มีต่อโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง เมื่อเริ่มต้นโครงการ

ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการจัดโครงการของครู นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน

มีความพึงพอใจต่อโครงการโดยภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง ( x̄= 3.21) และหลังสิ้นสุดโครงการ ครู นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อโครงการโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.85)

โพสต์โดย rung : [18 มี.ค. 2562 เวลา 06:49 น.]
อ่าน [3892] ไอพี : 61.19.27.195
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,233 ครั้ง
วิกฤติการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
วิกฤติการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 17,131 ครั้ง
แนวทางการประเมินคุณภาพรอบสี่
แนวทางการประเมินคุณภาพรอบสี่

เปิดอ่าน 14,805 ครั้ง
วิธีฝึกสมาธิเพื่อให้เรียนหนังสือเก่ง
วิธีฝึกสมาธิเพื่อให้เรียนหนังสือเก่ง

เปิดอ่าน 50,424 ครั้ง
ประโยชน์จาก "ส้มตำ"
ประโยชน์จาก "ส้มตำ"

เปิดอ่าน 25,864 ครั้ง
ไม้ดอกไม้ประดับ (สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30)
ไม้ดอกไม้ประดับ (สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30)

เปิดอ่าน 22,691 ครั้ง
ลักษณะนิ้วมือบ่งบอกอะไร?
ลักษณะนิ้วมือบ่งบอกอะไร?

เปิดอ่าน 72,225 ครั้ง
เฉลยที่มาคำถาม ... "อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน .. วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์"
เฉลยที่มาคำถาม ... "อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน .. วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์"

เปิดอ่าน 9,678 ครั้ง
แนวปฏิบัติการจัดทำสัญญาค้ำประกันที่เกี่ยวข้องกับการผ่อนชำระของเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.ใหม่
แนวปฏิบัติการจัดทำสัญญาค้ำประกันที่เกี่ยวข้องกับการผ่อนชำระของเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.ใหม่

เปิดอ่าน 14,017 ครั้ง
เกิดทันไหม ประกาศผลเอ็นทรานซ์ ยุคเริ่มแรกและ ยุคปี 2530
เกิดทันไหม ประกาศผลเอ็นทรานซ์ ยุคเริ่มแรกและ ยุคปี 2530

เปิดอ่าน 41,294 ครั้ง
พระประจำวันเกิด
พระประจำวันเกิด

เปิดอ่าน 18,777 ครั้ง
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ

เปิดอ่าน 504,999 ครั้ง
จรรยาบรรณในวิชาชีพครู
จรรยาบรรณในวิชาชีพครู

เปิดอ่าน 13,831 ครั้ง
มาดามคูรี : เคมี
มาดามคูรี : เคมี

เปิดอ่าน 16,830 ครั้ง
ฤกษ์ออกรถปี 2555
ฤกษ์ออกรถปี 2555

เปิดอ่าน 25,360 ครั้ง
ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ - Linux
ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ - Linux

เปิดอ่าน 11,117 ครั้ง
มันมากับ กาแฟ ไม่ใช่คาเฟอีน!!
มันมากับ กาแฟ ไม่ใช่คาเฟอีน!!
เปิดอ่าน 10,114 ครั้ง
ของใช้สำคัญที่ควรจัดไว้ในทุกทริปการเดินทาง
ของใช้สำคัญที่ควรจัดไว้ในทุกทริปการเดินทาง
เปิดอ่าน 145,056 ครั้ง
ตุ๊กตา "เฟอร์บี้" คืออะไร ทำไมมีราคาแพงและเป็นที่นิยมนัก
ตุ๊กตา "เฟอร์บี้" คืออะไร ทำไมมีราคาแพงและเป็นที่นิยมนัก
เปิดอ่าน 13,537 ครั้ง
กินผลไม้พื้นบ้านต้านโรค
กินผลไม้พื้นบ้านต้านโรค
เปิดอ่าน 50,455 ครั้ง
GPS คืออะไร
GPS คืออะไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ