ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถ

ด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย ศิริพร สุยะวงค์

ปีที่วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาในการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดังนี้ 3.1) เพื่อหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรูภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3.2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนระหว่างก่อนและหลังการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรูภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3.3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรูภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา จำนวน 1 ห้อง นักเรียนจำนวน 35 คน โดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling)

เครื่องมือที่ใชในการวิจัย ประกอบดวย 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรูภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสถิติด้วย t-test (Dependent Sample)

ผลการวิจัยพบวา

1. ผลการศึกษาศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาจัดการเรียนรูภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้าง

ความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า กระบวนการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในปจจุบัน เนนไวยากรณทางภาษาเปนหลัก ทั้งนี้เพราะนักเรียนตองนําความรู้ไปใชในการสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การสอบระดับชาติ (O-NET) และการสอบเขาศึกษาตอในระดับที่สูงขึ้น ไมไดมุงเนนทางดานการสื่อสารภาษาอังกฤษ เน้นการทองคําศัพท บรรยากาศในการเรียน การสอนเครงเครียด มีแบบฝกหัดจํานวนมาก มีสื่อการเรียนการสอน คอนขางนอย สวนใหญเปน บัตรคํา ครูผูสอน ภาษาอังกฤษสวนใหญเปนครูผูสอนชาวไทย ใชภาษาไทยในการอธิบายหรือสื่อสารมากกวาใชภาษาอังกฤษ นักเรียนไมไดใช หรือใชภาษาอังกฤษนอยมากในการฝกทักษะการสื่อสารในชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ เมื่ออยู่นอกห้องเรียนก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารในชีวิตประจําวัน โรงเรียนมีกิจกรรมที่สงเสริมทักษะด้านการสื่อสารในการฟังและพูดภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนค่อนข้างน้อย

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรูภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้าน

การสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า รูปแบบการสอน มีองค์ประกอบ ดังนี้ 1) หลักการ แนวคิด ทฤษฎีพื้นฐาน 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง และ 6) ระบบสนับสนุน โดยมีขั้นตอนการสอน 5 ขั้น ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 ขั้นทบทวนประสบการณ์เดิม ขั้นที่ 2 ขั้นเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุปความรู้ ขั้นที่ 4 ขั้นการฝึกปฏิบัติ ขั้นที่ 5 ขั้นนำความรู้ไปประยุกต์ใช้

3. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรูภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้าน

การสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า 3.1) ผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรูภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เมื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพจากความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ มีค่าเท่ากับ 82.51/82.43 3.2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรูภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูด มีความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรูภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย Tiwly : [19 ส.ค. 2562 เวลา 20:56 น.]
อ่าน [102107] ไอพี : 223.24.169.54
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,184 ครั้ง
จ้ำม่ำอย่างไร? ลูกถึงแข็งแรง
จ้ำม่ำอย่างไร? ลูกถึงแข็งแรง

เปิดอ่าน 11,603 ครั้ง
แบบคำขอมีบัตร ประจำตัวข้าราชการ ตำแหน่ง ผอ.สพท.
แบบคำขอมีบัตร ประจำตัวข้าราชการ ตำแหน่ง ผอ.สพท.

เปิดอ่าน 1,036 ครั้ง
เลือกปิ่นโตญี่ปุ่นอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน !
เลือกปิ่นโตญี่ปุ่นอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน !

เปิดอ่าน 17,228 ครั้ง
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก

เปิดอ่าน 17,298 ครั้ง
นวดหน้าลดริ้วรอย
นวดหน้าลดริ้วรอย

เปิดอ่าน 12,866 ครั้ง
รักษารองเท้าหน้าฝน
รักษารองเท้าหน้าฝน

เปิดอ่าน 53,355 ครั้ง
ศัพท์บัญญัติการศึกษา
ศัพท์บัญญัติการศึกษา

เปิดอ่าน 15,925 ครั้ง
ดนตรีโมสาร์ทช่วยทารกโตเร็วขึ้น
ดนตรีโมสาร์ทช่วยทารกโตเร็วขึ้น

เปิดอ่าน 11,363 ครั้ง
กลิ่นกุหลาบช่วยกระตุ้นหน่วยความจำ
กลิ่นกุหลาบช่วยกระตุ้นหน่วยความจำ

เปิดอ่าน 11,117 ครั้ง
เปิดตัว "iPhone5" จอเรตินา 4 นิ้ว พร้อม iOS6 อัพเดทใหม่อีกเพียบ ไทยรอปลายปี
เปิดตัว "iPhone5" จอเรตินา 4 นิ้ว พร้อม iOS6 อัพเดทใหม่อีกเพียบ ไทยรอปลายปี

เปิดอ่าน 35,300 ครั้ง
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 17,201 ครั้ง
สาวเกาหลีเต้น กังนัมสไตล์
สาวเกาหลีเต้น กังนัมสไตล์

เปิดอ่าน 877 ครั้ง
ตอบข้อสงสัย ยื่นภาษีได้ถึงวันไหน ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
ตอบข้อสงสัย ยื่นภาษีได้ถึงวันไหน ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

เปิดอ่าน 18,398 ครั้ง
ใช้ข้อสอบเดียวกันตัดสินเด็กทั้งประเทศ ยุติธรรมแล้วหรือ!
ใช้ข้อสอบเดียวกันตัดสินเด็กทั้งประเทศ ยุติธรรมแล้วหรือ!

เปิดอ่าน 22,723 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของเครื่องดื่มเกลือแร่
ประโยชน์และโทษของเครื่องดื่มเกลือแร่

เปิดอ่าน 21,993 ครั้ง
ปัจจัยแห่งความล้มเหลว ในการปฏิรูปการศึกษาไทยคืออะไร โดย เพชร เหมือนพันธุ์
ปัจจัยแห่งความล้มเหลว ในการปฏิรูปการศึกษาไทยคืออะไร โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เปิดอ่าน 13,773 ครั้ง
22 จานเด็ด ลดเสี่ยงมะเร็ง
22 จานเด็ด ลดเสี่ยงมะเร็ง
เปิดอ่าน 16,121 ครั้ง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง
เปิดอ่าน 35,509 ครั้ง
ทำไมแมลงปอต้องบินไปแตะผิวน้ำ
ทำไมแมลงปอต้องบินไปแตะผิวน้ำ
เปิดอ่าน 12,510 ครั้ง
คำเรียกชื่อฤดูต่าง ๆ
คำเรียกชื่อฤดูต่าง ๆ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ