การพัฒนารูปแบบการสอนคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อส่งเสริมการคิด
เชิงประมวลผล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนคอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงประมวลผล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงประมวลผล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอนคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงประมวลผล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 3 และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการสอนคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อส่งเสริมการคิด
เชิงประมวลผล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้เป็นนักเรียนเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 26 คน โรงเรียนเทศบาล 3 บ้านเหล่า เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบประชุมกลุ่มย่อย แบบประชุมการมีส่วนร่วม แบบประเมินร่างรูปแบบการสอนคอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบการสอนคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป แบบทดสอบวัดการคิดเชิงประมวลผล และแบบประเมินรูปแบบการสอนคอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) (t-test dependent samples) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
1. รูปแบบการสอนคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงประมวลผล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (CODE MODEL) ซึ่งการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยคำนึงถึงองค์ประกอบ ได้แก่ การสร้างองค์ความรู้ (Constructivist : C) การลงมือปฏิบัติงาน (Operative : O) การดำเนินงาน (Doing) การวัดและประเมินผล (Evaluation : E) องค์ประกอบของรูปแบบการสอน ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นกระบวนการจัดการเรียนรู้
4) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 5) การวัดและประเมินผล ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป (PRCLS) มี 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) สร้างสถานการณ์ปัญหา (Problem Base : P) 2) ศึกษาแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม (Resource : R) 3) เรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaboration : C) 4) การเรียนรู้จริง (Learning Activity : L) และ 5) การแสดงผลงาน (Show Work : S) 2. การหาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงประมวลผล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.09/83.46 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
3. นักเรียนที่เรียนโดยรูปแบบการสอนคอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จ เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงประมวลผล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
4. ความสามารถด้านการคิดเชิงประมวลผลของนักเรียนที่เรียนด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงประมวลผล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ
ที่ระดับ .05
5. นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนคอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงประมวลผล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด