ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 3 เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” โดยชุดกิจกรรม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายของการวิจัย 4 ประการ คือ 1) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 3 เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โดยใช้ชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียนวิชาฟิสิกส์ 3 เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โดยใช้ชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E 3) เพื่อหาค่าประสิทธิภาพและ ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนวิชาฟิสิกส์ 3 เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โดยใช้ชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้สอนเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 33 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ใช้เวลาในการทดลอง 16 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลา ที่ใช้ในการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ ชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E วิชาฟิสิกส์3 เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 8 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 1 ฉบับ 40 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากตั้งแต่ 0.32 ถึง 0.57 และค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.27 ถึง 0.59 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.756 และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรม จำนวน 15 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.936 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างคะแนน ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียน โดยใช้ชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E ใช้สูตร t-test (Dependent Sample)

สรุปผลการวิจัย

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 3 เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม ตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E วัดจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าคะแนนเฉลี่ย 34.21 คิดเป็นร้อยละ 85.53 ผ่านเกณฑ์ระดับดีร้อยละ 93.94 และเมื่อวัดจากคะแนนของแบบทดสอบหลังเรียนเมื่อเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E แต่ละชุด นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการผ่านเกณฑ์ระดับดีมากกว่าก่อนเรียนทั้ง 8 ชุด และวัดจากการทำกิจกรรมในชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E แต่ละชุด มีนักเรียนผ่านเกณฑ์ระดับดีคิดเป็นร้อยละ 80 ขึ้นไป ทั้ง 8 ชุด

2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การเรียนวิชาฟิสิกส์ 3 รหัสวิชา ว32203 หน่วยการเรียนรู้เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” โดยใช้ชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และคะแนนค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทั้ง 8 ชุดก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้

3. ประสิทธิภาพและดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ สรุปจากผลการเปรียบเทียบคะแนนกิจกรรมระหว่างเรียนกับคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้ชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E หน่วยการเรียนรู้เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์พบว่า มีร้อยละ 87.11/85.53 แสดงว่า ชุดกิจกรรม หน่วยการเรียนรู้เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 และดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรม มีค่าเท่ากับ 0.7723 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 77.23 แสดงว่า ชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E หน่วยการเรียนรู้เรื่อง แสงและการมองเห็น ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการเรียนโดยชุดกิจกรรม หน่วยการเรียนรู้เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ที่สูงขึ้นจริง สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้

4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ ชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E พบว่า โดยรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.39 (x̄ = 4.39 , S.D.= 0.61) สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้

โดยสรุป ชุดกิจกรรมตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E วิชาฟิสิกส์ 3 หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ มีประโยชน์ต่อกิจกรรมการเรียนรู้นักเรียนสามารถเรียนได้ด้วยตนเองและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

โพสต์โดย ครูบี : [1 ก.ย. 2562 เวลา 14:32 น.]
อ่าน [3245] ไอพี : 182.232.128.174
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,151 ครั้ง
ขนุนอินโดนีเซีย
ขนุนอินโดนีเซีย

เปิดอ่าน 35,450 ครั้ง
การจัดคนเข้าพักบ้านราชการ
การจัดคนเข้าพักบ้านราชการ

เปิดอ่าน 14,311 ครั้ง
ระวัง! ของกินเล่นพลังงานสูง
ระวัง! ของกินเล่นพลังงานสูง

เปิดอ่าน 33,654 ครั้ง
"ผู้บ่าวขาเรียน" เพลงแก้ "ผู้สาวขาเลาะ"
"ผู้บ่าวขาเรียน" เพลงแก้ "ผู้สาวขาเลาะ"

เปิดอ่าน 10,687 ครั้ง
8 ข้อปฏิบัติอยู่อย่างเป็นสุข
8 ข้อปฏิบัติอยู่อย่างเป็นสุข

เปิดอ่าน 12,595 ครั้ง
กิจกรรมวันสงกรานต์
กิจกรรมวันสงกรานต์

เปิดอ่าน 18,541 ครั้ง
คลิปสาธิตเทคนิคการพับผ้า แบบประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋า
คลิปสาธิตเทคนิคการพับผ้า แบบประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋า

เปิดอ่าน 13,049 ครั้ง
นาฬิกาชีวิต องค์รวมสุขภาพแบบ A.M./P.M.
นาฬิกาชีวิต องค์รวมสุขภาพแบบ A.M./P.M.

เปิดอ่าน 7,762 ครั้ง
"ฟุตบอล"...สอนอะไร
"ฟุตบอล"...สอนอะไร

เปิดอ่าน 64,393 ครั้ง
โดเรมี : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
โดเรมี : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน

เปิดอ่าน 13,995 ครั้ง
อาหารต้านสารก่อมะเร็งที่พบบ่อยในธรรมชาติ
อาหารต้านสารก่อมะเร็งที่พบบ่อยในธรรมชาติ

เปิดอ่าน 9,471 ครั้ง
คนนอนกรนไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจไม่เกี่ยวพันกับโรคหัวใจและหลอดเลือด
คนนอนกรนไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจไม่เกี่ยวพันกับโรคหัวใจและหลอดเลือด

เปิดอ่าน 29,833 ครั้ง
สอนให้เก่งพีชคณิต ต้องออกท่าออกทาง
สอนให้เก่งพีชคณิต ต้องออกท่าออกทาง

เปิดอ่าน 17,267 ครั้ง
ทำไมหนังสือที่เก็บไว้นาน ๆ กระดาษมักกลายเป็นสีเหลือง
ทำไมหนังสือที่เก็บไว้นาน ๆ กระดาษมักกลายเป็นสีเหลือง

เปิดอ่าน 51,868 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 13 การเตะโทษ
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 13 การเตะโทษ

เปิดอ่าน 12,745 ครั้ง
"เดอะ ฮ็อบบิท" กับทฤษฎีวิวัฒนาการมนุษย์
"เดอะ ฮ็อบบิท" กับทฤษฎีวิวัฒนาการมนุษย์
เปิดอ่าน 12,981 ครั้ง
เพลงลูกเทวดา ฮอตฮิต! ถูกค้นมากสุดในปี
เพลงลูกเทวดา ฮอตฮิต! ถูกค้นมากสุดในปี '53
เปิดอ่าน 29,985 ครั้ง
อากาศร้อนจัด นักวิชาการมหิดล เตือน ฮีทสโตรค อันตราย
อากาศร้อนจัด นักวิชาการมหิดล เตือน ฮีทสโตรค อันตราย
เปิดอ่าน 15,485 ครั้ง
ลายมือนักธุรกิจเงินล้าน
ลายมือนักธุรกิจเงินล้าน
เปิดอ่าน 12,631 ครั้ง
คู่มือการใช้งานบัตรเครดิตราชการ
คู่มือการใช้งานบัตรเครดิตราชการ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ