ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับ เทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทั

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับ

เทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะ

กระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางกัลยาวีร์ อาจสาลี โรงเรียนประชาพัฒนศึกษา

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ(Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบ การสอนโดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้ 3.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3.2) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยผู้วิจัยใช้เนื้อหา เรื่อง ความน่าจะเป็น ในการวิจัย กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนประชาพัฒนศึกษา จำนวน 32 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลการประเมินโดยรวมเฉลี่ย 4.83 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.35 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ชนิดปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.33-0.77 มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.37-0.76 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.91 แบบทดสอบวัดความสามารถด้านทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เป็นแบบปรนัย 3 ข้อ ค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.52-0.54 มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.75-0.79 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.96 และแบบทดสอบความพึงพอใจ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ แบ่งเป็น 4 ด้าน รวม 20 ข้อ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติทีแบบไม่อิสระ (t - test dependent)

ผลการวิจัย พบว่า

ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ พบว่าสภาพการจัดการเรียนการสอนในปัจจุบัน ครูใช้วิธีการสอนแบบบรรยาย ยกตัวอย่างแล้วให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดส่งการบ้านในคาบถัดไป ครูเป็นฝ่ายป้อนข้อมูล นักเรียนรับข้อมูลและมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนน้อย ขาดแนวทางในการจัดการเรียนรู้เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนกล้าคิด กล้าแสดงออก และส่วนมากยังไม่ให้ความสำคัญ ในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ครูควรใช้เทคนิคการสอนที่หลากหลาย กระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนมากขึ้นและให้แนวทางนักเรียนเป็นผู้ศึกษาค้นคว้าวิธีการและหาคำตอบด้วยตนเอง ครูผู้สอนจึงจำเป็นที่จะต้อง จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ตอบคำถาม แสดงความคิดเห็น กระตุ้นโน้มน้าวให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย มีสื่อการเรียน การสอนที่ครูและนักเรียนได้ลงมือสร้างขึ้นด้วยตนเองและนำมาใช้ในกิจกรรม

ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า “PPGWE Model” ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ แนวคิดพื้นฐาน หลักการ วัตถุประสงค์ ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ประกอบด้วยการดำเนินการ 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นเตรียม (Preparation : P) 2) ขั้นนำเสนอบทเรียน (Presentation : P) 2.1 การกำหนดปัญหา 2.2 การแก้ปัญหา 2.2.1 ทำความเข้าใจปัญหา 2.2.2 วางแผนแก้ปัญหา 2.2.3 ดำเนินการตามแผน 2.2.4 ตรวจสอบผล 3) ขั้นกิจกรรมกลุ่ม (Group activities: G) 4) ขั้นตรวจผลงาน (Work Review : W) 5) ขั้นสรุปผลและประเมินผล (Conclusion and Evaluation : E) การวัดและประเมินผล

ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับ การจัดการเรียนรู้ตามแบบที่พัฒนาขึ้นหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสติที่ระดับ .05

2) นักเรียนที่ได้รับ การจัดการเรียนรู้ตามแบบที่พัฒนาขึ้นมีทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสติที่ระดับ .05

ขั้นตอนที่ 4 การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนที่บูรณาการแนวคิดแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับเทคนิคกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.85, S.D. 0.08)

โพสต์โดย เหมียว : [31 ม.ค. 2563 เวลา 09:27 น.]
อ่าน [5097] ไอพี : 180.183.195.185
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,148 ครั้ง
การกระทำระหว่างเซต (Operation Between Sets)
การกระทำระหว่างเซต (Operation Between Sets)

เปิดอ่าน 36,569 ครั้ง
เตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ นวัตกรรมไอเดียเด็ดเด็กใต้
เตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ นวัตกรรมไอเดียเด็ดเด็กใต้

เปิดอ่าน 18,212 ครั้ง
ลดน้ำหนักได้ด้วยกาแฟ
ลดน้ำหนักได้ด้วยกาแฟ

เปิดอ่าน 12,270 ครั้ง
อาหารเพื่อสุขภาพกระเพาะอาหาร
อาหารเพื่อสุขภาพกระเพาะอาหาร

เปิดอ่าน 19,352 ครั้ง
แชร์ว่อนเน็ต "บ้านหนูบ่ได้บ้านนอกเด้อ" โดยสาวสวย รักและภาคภูมิใจบ้านเกิด
แชร์ว่อนเน็ต "บ้านหนูบ่ได้บ้านนอกเด้อ" โดยสาวสวย รักและภาคภูมิใจบ้านเกิด

เปิดอ่าน 14,806 ครั้ง
แนวปฏิบัติในการโอนบุคลากรด้านการศึกษาในสถานศึกษาไป อปท.
แนวปฏิบัติในการโอนบุคลากรด้านการศึกษาในสถานศึกษาไป อปท.

เปิดอ่าน 122,575 ครั้ง
ตารางบัญชีเงินเดือนครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาม พ.ร.บ.เงินเดือนฯ (ฉบับที่2)พ.ศ.2554
ตารางบัญชีเงินเดือนครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาม พ.ร.บ.เงินเดือนฯ (ฉบับที่2)พ.ศ.2554

เปิดอ่าน 17,937 ครั้ง
การศึกษาไทยเชื่อแล้วว่า.."บ้าจริง"
การศึกษาไทยเชื่อแล้วว่า.."บ้าจริง"

เปิดอ่าน 3,051 ครั้ง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง

เปิดอ่าน 12,226 ครั้ง
9 วิธีเด็ด แก้หลับเวลากวดวิชา
9 วิธีเด็ด แก้หลับเวลากวดวิชา

เปิดอ่าน 11,676 ครั้ง
ทางรอดประเทศไทย : เปลี่ยนระบบการเรียนรู้
ทางรอดประเทศไทย : เปลี่ยนระบบการเรียนรู้

เปิดอ่าน 11,399 ครั้ง
รู้เท่าทันก่อนจะหันมาใช้ "บัตรเครดิต" โดย สคบ.
รู้เท่าทันก่อนจะหันมาใช้ "บัตรเครดิต" โดย สคบ.

เปิดอ่าน 9,700 ครั้ง
นี่ล่ะ..สังคมแรกของหนู
นี่ล่ะ..สังคมแรกของหนู

เปิดอ่าน 20,626 ครั้ง
ประโยชน์จากฟักเขียว
ประโยชน์จากฟักเขียว

เปิดอ่าน 10,772 ครั้ง
อะโวคาโด
อะโวคาโด

เปิดอ่าน 31,743 ครั้ง
ตะไคร้สมุนไพรใกล้ตัวแก้เวียนหัว
ตะไคร้สมุนไพรใกล้ตัวแก้เวียนหัว
เปิดอ่าน 38,380 ครั้ง
ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์และทหารรักษาพระองค์
ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์และทหารรักษาพระองค์
เปิดอ่าน 15,702 ครั้ง
ใช้เทคโนโลยีสร้าง "การคิดวิเคราะห์"
ใช้เทคโนโลยีสร้าง "การคิดวิเคราะห์"
เปิดอ่าน 13,801 ครั้ง
โรคความดันโลหิตสูง รักษาได้ แค่หลีกให้ไกลจากโซเดียม
โรคความดันโลหิตสูง รักษาได้ แค่หลีกให้ไกลจากโซเดียม
เปิดอ่าน 14,930 ครั้ง
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ