ชื่อเรื่อง การดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนสหมิตรวิทยา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3
ชื่อผู้ศึกษา นางสาววรกร สิงห์ทอง
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนสหมิตรวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือโรงเรียนสหมิตรวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2) ศึกษาความพึงพอใจของครูที่ปรึกษา นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนต่อการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนสหมิตรวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 3) ศึกษาปัญหา ความต้องการและข้อเสนอแนะของบุคลากรในการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนสหมิตรวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ประกอบด้วย ครูที่ปรึกษาจำนวน 10 คน นักเรียน จำนวน 112 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 112 คน รวมทั้งสิ้น 234 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง มีลักษณะเป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ได้ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.84 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. การดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนสหมิตรวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 โดยภาพรวมมีการดำเนินงานอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีการดำเนินงานอยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ด้านการคัดกรองนักเรียน ด้านการป้องกัน ช่วยเหลือและแก้ไข ด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน และด้านการส่งต่อนักเรียน ตามลำดับ
2. ครูที่ปรึกษา นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนสหมิตรวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ภาพรวมอยู่ในระดับมาก
3. ปัญหา ความต้องการและข้อเสนอแนะ การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนสหมิตรวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 สรุปเป็นรายด้านการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้ดังนี้
3.1 ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
ครูที่ปรึกษาเสนอประเด็นปัญหาการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล คือ ครูมีภาระงานมาก มีเวลาในการพบปะพูดคุยเพื่อศึกษานักเรียนน้อย ครูย้ายบ่อยมีการส่งต่อข้อมูลนักเรียนไม่สมบูรณ์และบันทึกข้อมูลไม่เป็นปัจจุบันในบางรายที่มีปัญหาหรือกลุ่มเสี่ยง ครูและนักเรียนต้องเรียนรู้กันใหม่อยู่บ่อยครั้ง นักเรียนไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นจริง และบางชั้นครูที่ปรึกษารับผิดชอบอัตราส่วนของครูกับนักเรียนมากเกินเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนดคือมากกว่า 1/20 เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงานเพื่อรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลไม่หลากหลายและผู้ตอบคำถามในเครื่องมือ SDQ ให้ข้อมูลที่ไม่เป็นจริง ไม่ได้รับความสะดวกในการประสานกับผู้ปกครองเพื่อพบปะพูดคุยและการออกเยี่ยมบ้านโรงเรียนจัดโครงการสนับสนุนงบประมาณในช่วงภาคเรียนแรก เมื่อเข้าภาคเรียนที่สองเปลี่ยนครูที่ปรึกษา ครูที่ปรึกษาต้องออกเยี่ยมบ้านนักเรียนอีกครั้งแต่ขาดการสนับสนุนด้านงบประมาณในการเดินทางไปเยี่ยมในเทอมสองเนื่องจากโครงการเสร็จสิ้นในภาคเรียนแรก
ผู้ปกครองให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล คือ ควรมีเครื่องมือในการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลอย่างหลากหลาย และบันทึกข้อมูลที่จำเป็นในการดูแลนักเรียนเป็นรายบุคคลเพื่อให้มีหลักฐานร่องรอยในการส่งต่อข้อมูลเมื่อครูย้าย และอาจจะให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมโดยการประสานสอบถามข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ปกครอง เพื่อนร่วมชั้น ครูแนะแนวและผู้ที่เกี่ยวข้อง
ครูที่ปรึกษาให้ข้อเสนอแนะผู้ปกครองควรประสานข้อมูลและติดตามบุตรหลานอย่างต่อเนื่องเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลนักเรียนในปกครองควรแจ้งทางโรงเรียนหรือครูที่ปรึกษาให้ทราบ เมื่อครูที่ปรึกษาออกเยี่ยมบ้านขอความร่วมมือให้ผู้ปกครองได้อยู่พบครูที่ปรึกษาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลนักเรียนให้เป็นปัจจุบัน
3.2 ด้านการคัดกรองนักเรียน
ผู้ปกครองประเด็นปัญหา การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้านการคัดกรองนักเรียน ผู้ปกครองส่วนใหญ่เป็นปู่ยาตายายอ่านหนังสือไม่ออก การตอบแบบประเมินพฤติกรรมนักเรียน SDQ ของนักเรียนจึงได้ข้อมูลที่ไม่จริงและทั้งผู้ปกครองไม่ให้ความสำคัญในการตอบแบบประเมิน
ครูที่ปรึกษาเสนอประเด็นปัญหาและเสนอแนะนักเรียนและผู้ปกครองไม่ให้ความสำคัญในการตอบแบบประเมินพฤติกรรมนักเรียน SDQ และครูใช้ผลการประเมินจากแบบประเมินเพียงวิธีเดียวในการคัดกรอง ครูผู้ดำเนินงานไม่สามารถปฏิบัติงานได้เต็มที่เนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจในแนวทางการคัดกรองนักเรียน ส่งผลให้ประสบปัญหาและทำให้การทำงานบางขั้นตอนล่าช้า
ผู้ปกครองเสนอแนะ เมื่อครูที่ปรึกษาทราบข้อมูลจากการคัดกรองนักเรียนแล้วขอให้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบข้อมูลโดยเฉพาะนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และมีปัญหาเพื่อผู้ปกครองจะได้ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสอดส่องดูแลบุตรหลานในปกครองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากบุตรหลานในปกครองบางคนอยู่ในโรงเรียนและที่บ้านมีพฤติกรรมแตกต่างกัน
3.3 ด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน
ผู้ปกครองเสนอประเด็นปัญหาการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียนผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนด้านงบประมาณน้อย ไม่ให้ความร่วมมือในโครงการกิจกรรมต่างๆที่โรงเรียนจัดเพื่อส่งเสริมและพัฒนานักเรียนเท่าที่ควร เนื่องจากมีฐานะยากจนและต้องทำมาหากินเพื่อปากท้อง
ครูที่ปรึกษาให้ข้อเสนอแนะการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน ควรสร้างความตระหนักแก่ผู้ปกครองและนักเรียนในการเข้าร่วมโครงการและกิจกรรมต่างๆที่โรงเรียนจัดขึ้น บางกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนโดยตรงขาดการสำรวจความต้องการของนักเรียน ครูขาดทักษะและความรู้ในการให้คำแนะนำปรึกษาและแก้ไขปัญหาแก่นักเรียนและโรงเรียนไม่มีสถานที่ที่เหมาะสมในการให้คำปรึกษาแก่นักเรียนที่มีปัญหา ผู้รับผิดชอบโครงการควรมีการประเมินจากหลายฝ่ายเช่น คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง นำผลการประเมินแจ้งให้ผู้ปกครอง นักเรียน คณะครูทราบเพื่อร่วมกันปรับปรุงการจัดกิจกรรมให้เหมาะสมต่อไป
3.4 ด้านการป้องกัน ช่วยเหลือและแก้ไข
ผู้ปกครองเสนอประเด็นปัญหาและให้ข้อเสนอแนะ การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้านการป้องกัน ช่วยเหลือและแก้ไข พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่มีเวลาในการดูแลบุตรหลานเนื่องจากทำงานต่างจังหวัด ปู่ย่าตายายจึงเป็นผู้ปกครองเด็กไม่เชื่อฟังไม่สามารถติดตามบุตรหลานได้ทันท่วงทีส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมเสี่ยงได้ง่าย ถ้าเด็กมีปัญหาหากไม่สามารถติดต่อกับผู้ปกครองได้ให้ประสานกับผู้นำชุมชนให้ช่วยติดตามและแจ้งผู้ปกครองทราบโดยเร็ว
ครูที่ปรึกษาเสนอปัญหาและให้ข้อเสนอแนะ ครูที่ปรึกษามีจำนวนคาบสอนและภาระงานอื่นที่มากเกินไปทำให้ไม่มีเวลาดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้เต็มที่ ผู้ปกครองไม่ได้อยู่ร่วมกับนักเรียนทำให้มีปัญหาต่อการประสานงานช่วยเหลือและแก้ไขปัญหานักเรียนล่าช้าไม่มีประสิทธิภาพทั้งการประสานงานระหว่างครูฝ่ายกิจการนักเรียน ครูผู้สอนและครูที่ปรึกษายังไม่สัมพันธ์กันเท่าที่ควร และครูที่ปรึกษาขาดทักษะ ความรู้และประสบการณ์การช่วยเหลือและแก้ไขพฤติกรรมนักเรียน ฝ่ายบริหารควรนิเทศติดตามอย่างต่อเนื่อง ให้ความรู้แก่ครูที่ปรึกษาในการช่วยเหลือและแก้ไขพฤติกรรมนักเรียน
3.5 ด้านการส่งต่อนักเรียน
ผู้ปกครองเสนอประเด็นปัญหาและให้ข้อเสนอแนะการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้านส่งต่อนักเรียน ผู้ปกครองส่วนใหญ่ขาดความตระหนักในการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมนักเรียนอย่างทันท่วงที โรงเรียนควรแจ้งผู้ปกครองให้ทราบถึงพฤติกรรมของเด็กอย่างรวดเร็วเมื่อจะส่งต่อภายนอกเช่นปัญหาด้านสุขภาพของผู้เรียน หากต้องมีการส่งต่อภายนอกครูที่ปรึกษาควรทำความเข้าใจและชี้แจงให้นักเรียนและผู้ปกครองทราบถึงความจำเป็นที่ต้องส่งต่อ
ครูที่ปรึกษาเสนอปัญหาและให้ข้อเสนอแนะ ครูที่ปรึกษาขาดการจดบันทึกและรายงานผลการส่งต่ออย่างเป็นระบบเนื่องจากภาระงานที่มาก และสำหรับนักเรียนที่ส่งต่อภายในให้ครูแนะแนว ครูฝ่ายปกครองพูดคุยเพื่อปรับแก้พฤติกรรมแล้วไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ผู้ปกครองควรร่วมติดตามและแก้ไขพฤติกรรมนักเรียนอย่างต่อเนื่อง และผู้ปกครองควรให้ความร่วมมือในการการส่งต่อผู้เชี่ยวชาญเมื่อโรงเรียนไม่สามารถแก้ไขปัญหานั้นได้