ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การวิจัยและพัฒนาทักษะการเรียนรู้และทักษะการสร้างความคิดรวบยอดโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ร่วมกับการสร้างแผนผังความคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาแ

บทคัดย่อ

การวิจัยและพัฒนาทักษะการเรียนรู้และทักษะการสร้างความคิดรวบยอดโดย การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ร่วมกับการสร้างแผนผังความคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ พลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดรามประดิษฐ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อสร้างและ หาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการเรียนรู้และทักษะการสร้างความคิดรวบยอด กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน ก่อนและหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการเรียนรู้และทักษะการสร้างความคิดรวบยอด กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 3. เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของผู้เรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการเรียนรู้และทักษะการสร้างความคิดรวบยอด กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 4. เพื่อศึกษาทักษะความคิดรวบยอดของผู้เรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการเรียนรู้และทักษะการสร้างความคิดรวบยอด กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1

ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ใช้กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลวัดรามประดิษฐ์ สังกัดเทศบาลเมืองปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 24 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการเรียนรู้และทักษะการสร้างความคิดรวบยอด กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 20 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 3) ใบกิจกรรมแผนผังความคิด จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 ใบกิจกรรม

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการเรียนรู้และทักษะการสร้างความคิดรวบยอด กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 86.9/85.97 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดคือ 80/80 แสดงว่า แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการเรียนรู้และทักษะการสร้างความคิดรวบยอด กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด

2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนของแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการเรียนรู้และทักษะการสร้างความคิดรวบยอด กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่าคะแนนเฉลี่ยของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน แตกต่างกันนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .0005 โดยค่าวิกฤต t ที่ระดับ .0005, df 23 ได้ค่า t = 3.767 ส่วนค่า t-test ที่คำนวณได้ = 45.47 ซึ่งค่า t จากการคำนวณมากกว่าค่า t จากตาราง ซึ่งสอดคล้องกับสมติฐานการวิจัยข้อ 2 โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

3. ผลการศึกษาดัชนีประสิทธิผลของผู้เรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการเรียนรู้และทักษะการสร้างความคิดรวบยอด กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 พบว่าโดยรวม นักเรียนมีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.7415 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7415 หรือคิดเป็นร้อยละ74.15 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด

4. ผลการศึกษาทักษะความคิดรวบยอดของผู้เรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการเรียนรู้และทักษะการสร้างความคิดรวบยอด กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 มีคะแนนการการสร้างทักษะความคิดรวบยอด ได้คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 86.78 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด

โพสต์โดย ภี : [22 พ.ค. 2563 เวลา 16:10 น.]
อ่าน [3095] ไอพี : 1.47.65.64
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,021 ครั้ง
โซเชียลทำพิษ... 5 โรคฮิตของคนติดจอ
โซเชียลทำพิษ... 5 โรคฮิตของคนติดจอ

เปิดอ่าน 19,491 ครั้ง
เรียนรู้จากนิราศ
เรียนรู้จากนิราศ

เปิดอ่าน 11,986 ครั้ง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง

เปิดอ่าน 26,020 ครั้ง
ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวสมาชิก ช.พ.ค.
ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวสมาชิก ช.พ.ค.

เปิดอ่าน 12,835 ครั้ง
สมองเสื่อมหรือ... ขี้ลืมธรรมดาๆ
สมองเสื่อมหรือ... ขี้ลืมธรรมดาๆ

เปิดอ่าน 309,834 ครั้ง
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบการกระทำของสกินเนอร์
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบการกระทำของสกินเนอร์

เปิดอ่าน 30,401 ครั้ง
ใครมีปัญหาเก็บเงินไม่อยู่มือ เรามีวิธีเก็บเงินให้อยู่มือมาฝาก
ใครมีปัญหาเก็บเงินไม่อยู่มือ เรามีวิธีเก็บเงินให้อยู่มือมาฝาก

เปิดอ่าน 21,097 ครั้ง
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้

เปิดอ่าน 18,563 ครั้ง
แชร์ทั่วเน็ต!!! วิธีสยบมดง่ายๆ แค่เปลือกไข่ย่างไฟ
แชร์ทั่วเน็ต!!! วิธีสยบมดง่ายๆ แค่เปลือกไข่ย่างไฟ

เปิดอ่าน 1,128 ครั้ง
อยากเป็นติวเตอร์ ครูสอนพิเศษหางานสอนพิเศษที่ไหนดี?
อยากเป็นติวเตอร์ ครูสอนพิเศษหางานสอนพิเศษที่ไหนดี?

เปิดอ่าน 16,078 ครั้ง
กรุงศรีอยุธยา
กรุงศรีอยุธยา

เปิดอ่าน 18,663 ครั้ง
วิธีการลดขนาดภาพ โดยลดขนาดความกว้างของภาพหลายภาพในครั้งเดียว
วิธีการลดขนาดภาพ โดยลดขนาดความกว้างของภาพหลายภาพในครั้งเดียว

เปิดอ่าน 10,530 ครั้ง
ม.44 ดัน "ศึกษาธิการจังหวัด" เดินหน้าหรือถอยหลังปฏิรูปศึกษา
ม.44 ดัน "ศึกษาธิการจังหวัด" เดินหน้าหรือถอยหลังปฏิรูปศึกษา

เปิดอ่าน 427,885 ครั้ง
หมดยุค"ปริญญาแปะฝาบ้าน"!! "ทักษะอาชีพ-ชีวิต"สำคัญกว่า?
หมดยุค"ปริญญาแปะฝาบ้าน"!! "ทักษะอาชีพ-ชีวิต"สำคัญกว่า?

เปิดอ่าน 44,103 ครั้ง
"มะละกอ" มีถิ่นกำเนิดจากที่ใด?
"มะละกอ" มีถิ่นกำเนิดจากที่ใด?

เปิดอ่าน 13,141 ครั้ง
คู่มือกระตุ้นจินตนาการครูและผู้ปกครองโหลดฟรี
คู่มือกระตุ้นจินตนาการครูและผู้ปกครองโหลดฟรี
เปิดอ่าน 14,052 ครั้ง
ADSL ทำงานอย่างไร?
ADSL ทำงานอย่างไร?
เปิดอ่าน 102,147 ครั้ง
เว็บไซต์เขตพื้นที่การศึกษาทั้งหมด
เว็บไซต์เขตพื้นที่การศึกษาทั้งหมด
เปิดอ่าน 14,071 ครั้ง
การศึกษาไทยภายใต้รัฐบาล คสช. 3 ปี ที่วังเวงและเคว้งคว้าง
การศึกษาไทยภายใต้รัฐบาล คสช. 3 ปี ที่วังเวงและเคว้งคว้าง
เปิดอ่าน 26,289 ครั้ง
ISO นั้นสำคัญไฉน
ISO นั้นสำคัญไฉน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ