ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมความสามารถทางดนตรี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 ที่เลือกเรียนก

นายวีระพล แดนโพธิ์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ (พัฒนาประชาอุปถัมภ์)

การวิจัยครั้งนี้เป็นการสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้การประดิษฐ์วงกลมบันไดเสียงเมเจอร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถทางดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 ที่เลือกเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชุมนุมดนตรีสากล โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 แล้วทดลองใช้เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และศึกษาระดับความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 ของโรงเรียนกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ (พัฒนาประชาอุปถัมภ์) ที่กำลังศึกษาอยู่ใน

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้การประดิษฐ์วงกลมบันไดเสียงเมเจอร์ จำนวน 5 เล่ม

แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้การประดิษฐ์วงกลมบันไดเสียงเมเจอร์ จำนวน 5 เล่ม คู่มือการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้การประดิษฐ์วงกลมบันไดเสียงเมเจอร์ จำนวน 1 เล่ม

แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน จำนวน 40 ข้อ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนหลังเรียน จำนวน 40 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน

โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้การประดิษฐ์วงกลมบันไดเสียงเมเจอร์ จำนวน 10 ข้อ ใช้ระยะเวลาทดลองทั้งสิ้น 15 ชั่วโมง โดยวิธีทดสอบก่อนเรียนด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน จำนวน 40 ข้อ แล้วจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้การประดิษฐ์วงกลมบันไดเสียงเมเจอร์ ทั้ง 5 เล่ม ติดต่อกันตามลำดับ หลังจากเรียนครบทั้ง 5 เล่มแล้ว ทดสอบหลังเรียนด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน จำนวน 40 ข้อ และวัดระดับความพึงพอใจ

ด้วยแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้การประดิษฐ์วงกลมบันไดเสียงเมเจอร์ จำนวน 10 ข้อ นำคะแนนวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน มาวิเคราะห์หาค่าสถิติพื้นฐาน คือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

แล้วเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจของนักเรียนก่อนกับหลังเรียนโดยหาค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.)

นำคะแนนวัดความพึงพอใจของนักเรียนมาวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แล้วนำค่าเฉลี่ยความพึงพอใจที่ได้ไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับความพึงพอใจที่กำหนดไว้ เสร็จแล้วนำเสนอผลในรูปตารางประกอบคำบรรยาย ผลการวิจัยพบว่า

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้การประดิษฐ์วงกลมบันไดเสียงเมเจอร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถทางดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 ที่เลือกเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชุมนุมดนตรีสากล โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย= 4.98, S.D. = 0.13) และมีประสิทธิภาพเท่ากับ 92.74/91.20 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ สรุปได้ว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดนี้สามารถนำไปใช้พัฒนาความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับบันไดเสียงเมเจอร์และช่วยส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความสามารถและทักษะทางดนตรีได้จริง

2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้การประดิษฐ์วงกลมบันไดเสียงเมเจอร์ เพื่อส่งเสริม

ความสามารถทางดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 ที่เลือกเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

ชุมนุมดนตรีสากล โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองมีค่าเท่ากับ 0.8781 ซึ่งชุดกิจกรรมการเรียนรู้การประดิษฐ์วงกลมบันไดเสียงเมเจอร์ มีความเป็นไปได้ที่จะช่วยให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบันไดเสียงเมเจอร์และช่วยส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความสามารถและทักษะทางดนตรี สูงขึ้นร้อยละ 87.81 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่นายวีระพล แดนโพธิ์ จัดทำขึ้นมีประสิทธิผลตามเกณฑ์ดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไป เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้การประดิษฐ์วงกลมบันไดเสียง

เมเจอร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถทางดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 ที่เลือกเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชุมนุมดนตรีสากล โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.36, S.D. = 0.41)

โพสต์โดย yorch : [7 ส.ค. 2563 เวลา 06:22 น.]
อ่าน [5064] ไอพี : 159.192.183.220
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,466 ครั้ง
ประโยชน์ของ "กล้วยหอมทอง" ที่มีต่อสุขภาพ
ประโยชน์ของ "กล้วยหอมทอง" ที่มีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 14,168 ครั้ง
พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562
พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562

เปิดอ่าน 16,618 ครั้ง
คลิปโจรกระจอก…โดนหนูน้อยยูโดยำน่วมคาลิฟท์
คลิปโจรกระจอก…โดนหนูน้อยยูโดยำน่วมคาลิฟท์

เปิดอ่าน 381,627 ครั้ง
สุภาษิตอิศรญาณ
สุภาษิตอิศรญาณ

เปิดอ่าน 304,471 ครั้ง
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ 30 ประโยคคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ 30 ประโยคคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 16,626 ครั้ง
ปฏิรูปประเทศ การปฏิรูปด้านการศึกษา (มัธยมศึกษา)
ปฏิรูปประเทศ การปฏิรูปด้านการศึกษา (มัธยมศึกษา)

เปิดอ่าน 11,871 ครั้ง
ตำนาน ชา
ตำนาน ชา

เปิดอ่าน 63,853 ครั้ง
การเบิกค่าเช่าบ้าน
การเบิกค่าเช่าบ้าน

เปิดอ่าน 29,219 ครั้ง
ใครที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ปวดเมื่อยแล้วนวดไม่หาย ต้องอ่านเรื่องนี้
ใครที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ปวดเมื่อยแล้วนวดไม่หาย ต้องอ่านเรื่องนี้

เปิดอ่าน 10,364 ครั้ง
ท่องเที่ยวอย่างไรให้สบายเท้า
ท่องเที่ยวอย่างไรให้สบายเท้า

เปิดอ่าน 30,323 ครั้ง
วรรณคดีมรดก
วรรณคดีมรดก

เปิดอ่าน 60,610 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 13 การเตะโทษ
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 13 การเตะโทษ

เปิดอ่าน 2,970 ครั้ง
"6 สัตว์น้ำปรับปรุงพันธุ์" เลี้ยงง่าย โตไว ให้ผลผลิตคุณภาพสูง
"6 สัตว์น้ำปรับปรุงพันธุ์" เลี้ยงง่าย โตไว ให้ผลผลิตคุณภาพสูง

เปิดอ่าน 12,757 ครั้ง
คลิปล้อเลียนวิถีชีวิตของคนไทย "เมื่อก่อน VS เดี๋ยวนี้"
คลิปล้อเลียนวิถีชีวิตของคนไทย "เมื่อก่อน VS เดี๋ยวนี้"

เปิดอ่าน 14,697 ครั้ง
"ผมร่วง" แก้ไขยังไงดี
"ผมร่วง" แก้ไขยังไงดี

เปิดอ่าน 699 ครั้ง
กรมอนามัย ย้ำ องุ่นไชน์มัสแคทยังคงปลอดภัย แนะเลือกกินผลไม้หลากหลายตามฤดูกาล ล้างผัก ผลไม้ตามคำแนะนำ มั่นใจทุกคำ ลดเสี่ยงสารพิษ
กรมอนามัย ย้ำ องุ่นไชน์มัสแคทยังคงปลอดภัย แนะเลือกกินผลไม้หลากหลายตามฤดูกาล ล้างผัก ผลไม้ตามคำแนะนำ มั่นใจทุกคำ ลดเสี่ยงสารพิษ
เปิดอ่าน 2,552 ครั้ง
บัตรเลือกตั้ง 2566
บัตรเลือกตั้ง 2566
เปิดอ่าน 14,689 ครั้ง
คลิป"เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัย" โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
คลิป"เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัย" โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เปิดอ่าน 14,869 ครั้ง
วิธีทำให้ความจำดีขึ้น
วิธีทำให้ความจำดีขึ้น
เปิดอ่าน 31,014 ครั้ง
แนวโน้มนโยบายด้านการศึกษาของโดนัลด์ ทรัมพ์
แนวโน้มนโยบายด้านการศึกษาของโดนัลด์ ทรัมพ์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ