ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา เพื่อส่งความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา

เพื่อส่งความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย นางลัดดา เชื้อฉ่ำหลวง

โรงเรียน โรงเรียนบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

สังกัด สำนักการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

ปีที่พิมพ์ 2562

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา เพื่อส่งเสริมความสมารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน จากการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน

แบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนในการประเมิน

รูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 จำนวน 40 คน โรงเรียนบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา สังกัดสำนักการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมีจำนวน 4 ชนิด คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 12 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีคำอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.33-0.67 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (KR-20) เท่ากับ 0.81 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.33-0.8 และคำความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (KR-20) เท่กับ 0.75 และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบมาตราประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 20 ข้อ มีคำอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.33-0.71 และคำความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (0) เท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย

ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที่ (t - test for Dependent Sample)

ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) มุ่งให้เยาวชนทุกคนได้เรียนรู้คณิตศาสตร์อย่างต่อเนื่องตามศักยภาพ เนื่องจากคณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาความคิด ทำให้คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ แบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้ ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหา และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และยังเป็นเครื่องมือ

ในการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและศาสตร์อื่น ๆ คณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ตีขึ้น และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข อีกทั้งรูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา เป็นวิธีหนึ่งที่ส่งเสริมความร่วมมือภายในกลุ่มที่มีความสามารถแตกต่างกันมาทำงานร่วมกัน มีการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ มีความรับผิดชอบร่วมกัน และสามารถทำให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ ให้เหตุผล สื่อความหมายและความถึงเทคนิคของโพลยาสามารถส่งเสริมการเชื่อมโยงความรู้ทางคณิตศาสตร์ในแต่ละขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนการสำรวจปัญหา ขั้นตอนการวางแผนแก้ปัญญา เชื่อมโยงความรู้เดิมและความรู้ใหม่ที่จะนำไปใช้ในขั้นตอนการแก้ปัญหาตามแผนและขั้นตอนการตรวจสอบผล สำหรับการสำรวจความต้องการของนักเรียนและครูผู้สอน พบว่าต้องการให้การจัดกิจกรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์

2. รูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเชื่อมโยงคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีขั้นดำเนินการสอนที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับของโพลยา มี 5 ชั้น คือ 1) ขั้นเตรียมความพร้อม 2) ขั้นนำเสนอบทเรียนและเทคนิคของโพลยา 3) ขั้นกิจกรรมกลุ่มและตรวจสอบผลงาน 4) ขั้นทดสอบย่อยและประเมินผลการทำงานกลุ่มและ 5) ขั้นสรุปบทเรียน รูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) ของรูปแบบการเรียนการสอน เท่ากับ 84.29/82.53 เมื่อเทียบกับเกณฑ์80/80 ปรากฏว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา

เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และนักเรียนมีความสามารถในการเชื่อมโยงคณิตศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. การประเมินรูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา เพื่อส่งเสริม

ความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียน

มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือร่วมกับเทคนิคของโพลยา

เพื่อส่งเสริมสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

อยู่ในระดับมาก (X-bar=4.82,S.D.=0.68)

โพสต์โดย ครูดา : [4 ก.พ. 2564 เวลา 03:12 น.]
อ่าน [63687] ไอพี : 223.205.218.231
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,757 ครั้ง
ทานหมูยอให้ปลอดภัย จากสารกันบูด
ทานหมูยอให้ปลอดภัย จากสารกันบูด

เปิดอ่าน 20,491 ครั้ง
แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก
แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก

เปิดอ่าน 13,888 ครั้ง
6 ตำรับธรรมชาติ เพื่อผิวสวยใส ไร้สารเคมี
6 ตำรับธรรมชาติ เพื่อผิวสวยใส ไร้สารเคมี

เปิดอ่าน 17,601 ครั้ง
หากสงสัยว่าเป็นโรคไขมันในตับให้กินผักชีล้อม
หากสงสัยว่าเป็นโรคไขมันในตับให้กินผักชีล้อม

เปิดอ่าน 13,661 ครั้ง
แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3
แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3

เปิดอ่าน 19,483 ครั้ง
คำว่า "ตายน้ำตื้น" มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ชมคลิป
คำว่า "ตายน้ำตื้น" มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ชมคลิป

เปิดอ่าน 10,046 ครั้ง
ครูพันธุ์ควอลิตี้
ครูพันธุ์ควอลิตี้

เปิดอ่าน 31,240 ครั้ง
"ซอกแจ" เด็กเกาหลีป.4 ที่ถูกเพื่อนๆ เพิกเฉย ไปดูกันว่า คุณครูช่วยแก้ปัญหานี้อย่างไร?
"ซอกแจ" เด็กเกาหลีป.4 ที่ถูกเพื่อนๆ เพิกเฉย ไปดูกันว่า คุณครูช่วยแก้ปัญหานี้อย่างไร?

เปิดอ่าน 219,036 ครั้ง
เทคนิคการคิดเลขเร็ว
เทคนิคการคิดเลขเร็ว

เปิดอ่าน 23,026 ครั้ง
ตรรกะ ในแบบของ "ไอน์สไตน์"
ตรรกะ ในแบบของ "ไอน์สไตน์"

เปิดอ่าน 15,288 ครั้ง
พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562
พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562

เปิดอ่าน 20,609 ครั้ง
10 อันดับเมืองที่มลพิษมากที่สุดในโลก
10 อันดับเมืองที่มลพิษมากที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 20,794 ครั้ง
ชมเลย แอนิเมชั่นการบริหารสมองเป็น 2 เท่า ด้วย Brain Activation
ชมเลย แอนิเมชั่นการบริหารสมองเป็น 2 เท่า ด้วย Brain Activation

เปิดอ่าน 9,281 ครั้ง
ประโยคเพื่อการสื่อสาร
ประโยคเพื่อการสื่อสาร

เปิดอ่าน 5,589 ครั้ง
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ

เปิดอ่าน 50,690 ครั้ง
ความเชื่อเกี่ยวกับแมวดำ
ความเชื่อเกี่ยวกับแมวดำ
เปิดอ่าน 14,207 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย
ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย
เปิดอ่าน 14,938 ครั้ง
ภัยลิปสติกเจล เสี่ยงมะเร็ง!
ภัยลิปสติกเจล เสี่ยงมะเร็ง!
เปิดอ่าน 55,612 ครั้ง
การทักทาย (Response) การตอบ
การทักทาย (Response) การตอบ
เปิดอ่าน 15,204 ครั้ง
ปัญหาหน้าห้องใหญ่กว่านาย ... การศึกษาไทยสะดุด
ปัญหาหน้าห้องใหญ่กว่านาย ... การศึกษาไทยสะดุด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ