ชื่อผลงาน : การพัฒนาความมีวินัยของนักเรียน โดยใช้ WINAI MODEL โรงเรียนวัดป่าประดู่จังหวัดระยอง ปีการศึกษา 2562-2563
ผู้รายงาน : นายพรศักดิ์ ทิพย์วงษ์ทอง
ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดป่าประดู่
ปีที่รายงาน : ปีการศึกษา 2562-2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาความมีวินัยของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์ WINAI MODEL โรงเรียนวัดป่าประดู่หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 2) ศึกษาคุณลักษณะความมีวินัยของนักเรียน โรงเรียนวัดป่าประดู่หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563
3) ศึกษาคุณภาพผู้เรียนของนักเรียนโรงเรียนวัดป่าประดู่หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 จำแนกเป็น 3.1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา (คะแนนเฉลี่ย GPA) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนวัดป่าประดู่ปีการศึกษา 2562-2563 3.2) ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของนักเรียน ทั้ง 5 ด้าน ตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดป่าประดู่ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 3.3) ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนทั้ง 8 ประการ ตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดป่าประดู่ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 4) ศึกษาความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครู ผู้ปกครอง และพระสงฆ์ต่อการพัฒนาความมีวินัยของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์ WINAI MODEL หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย นักเรียนปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จำนวน 335 คน ครู ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จำนวน 102 คน ผู้ปกครอง
ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จำนวน 335 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จำนวน 13 คน และพระสงฆ์ ปีการศึกษา 2562 และ
ปีการศึกษา 2563 จำนวน 18 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลรวมทั้งสิ้น จำนวน 6 ฉบับ ได้แก่ แบบสอบถามคุณภาพการพัฒนาความมีวินัยของนักเรียน แบบบันทึกผลการสังเกตคุณลักษณะความมีวินัย แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา (คะแนนเฉลี่ย GPA) แบบบันทึกสมรรถนะสำคัญของนักเรียน แบบบันทึกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน และแบบประเมินความ- พึงพอใจ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง .873-.887 สถิติ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS
ผลการวิจัย พบว่า
1. การพัฒนาความมีวินัยของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์ WINAI MODEL โรงเรียน วัดป่าประดู่หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และพระสงฆ์ พบว่า
ปีการศึกษา 2562 โดยรวมทุกกลุ่มผู้ประเมิน อยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̄ = 3.93 , S.D. = 0.16) อยู่ในระดับปานกลาง รองลงมา คือ กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน (x̄ = 3.37 , S.D. = 0.77) อยู่ในระดับปานกลาง และกลุ่มที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ กลุ่มครู (x̄ = 2.86 , S.D. = 0.7) อยู่ในระดับปานกลางเช่นกัน
ปีการศึกษา 2563 โดยรวมทุกกลุ่มผู้ประเมิน อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็น รายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( x̄= 4.24 , S.D. = 0.53) อยู่ในระดับมาก รองลงมา คือ กลุ่มพระสงฆ์ ( x̄= 3.91 , S.D. = 0.67) อยู่ในระดับมาก และกลุ่มที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด
คือ กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ( x̄= 3.69 , S.D. = 0.70) อยู่ในระดับมากเช่นกัน
สอดคล้องตามสมมติฐาน
2. คุณลักษณะความมีวินัยของนักเรียน โรงเรียนวัดป่าประดู่หลังการพัฒนา ปีการศึกษา
2562-2563 ตามความคิดเห็นของครู และผู้ปกครอง พบว่า
ปีการศึกษา 2562 โดยรวมทั้งสองกลุ่มผู้ประเมิน อยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̄ = 3.30, S.D. = 0.49) รองลงมา คือ กลุ่มครู (x̄ = 3.11 , S.D. = 0.27)
ปีการศึกษา 2563 โดยรวมทั้งสองกลุ่มผู้ประเมิน อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( x̄= 3.85 , S.D. = 0.70 ) รองลงมา คือ กลุ่มครู ( x̄= 3.72 , S.D. = 0.64) สอดคล้องตามสมมติฐาน
3. คุณภาพผู้เรียนของนักเรียนโรงเรียนวัดป่าประดู่หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 จำแนกเป็น
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา (คะแนนเฉลี่ย GPA) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนวัดป่าประดู่ปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า
ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ย GPA มีค่าเท่ากับ 3.39 เมื่อพิจารณาแยกเป็นระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-3) และระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) พบว่า ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-3) มีค่าคะแนนเฉลี่ย GPA 3.36 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) มีค่าคะแนนเฉลี่ย GPA มีค่าเท่ากับ 3.33
ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ย GPA มีค่าเท่ากับ 3.54 เมื่อพิจารณาแยกเป็นระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-3) และระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) พบว่า ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-3) มีค่าคะแนนเฉลี่ย GPA มีค่าเท่ากับ 3.43 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) มีค่าคะแนนเฉลี่ย GPA มีค่าเท่ากับ 3.65 แสดงให้เห็นว่า ปีการศึกษา 2561 มีค่าพัฒนาสูงกว่า ปีการศึกษา 2560 สอดคล้องตามสมมติฐาน
3.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินสมรรถนะสำคัญของนักเรียน ทั้ง 5 ด้าน ตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดป่าประดู่หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า
ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมคะแนนเฉลี่ยร้อยละผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของนักเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดป่าประดู่ อยู่ในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 82.68 และเมื่อพิจารณาจำแนกเป็นรายสมรรถนะย่อย พบว่า สมรรถนะด้านความสามารถในการคิด มีคุณภาพอยู่ในระดับดีขึ้นไปสูงสุดร้อยละ 83.02 รองลงมาได้แก่ สมรรถนะด้านความสามารถในการแก้ปัญหา มีคุณภาพอยู่ในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 82.82 ส่วนสมรรถนะด้านความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต มีคุณภาพอยู่ในระดับดีขึ้นไป ต่ำสุด ร้อยละ 82.35
ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมคะแนนเฉลี่ยร้อยละผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของนักเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดป่าประดู่ อยู่ในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 86.48 และเมื่อพิจารณาจำแนกเป็นรายสมรรถนะ พบว่า สมรรถนะด้านความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มีคุณภาพอยู่ในระดับดีขึ้นไป สูงสุด ร้อยละ 86.83 รองลงมา ได้แก่ ด้านสมรรถนะด้านความสามารถ ในการแก้ปัญหา มีคุณภาพอยู่ในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 86.68 ส่วนด้านสมรรถนะด้านความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต มีคุณภาพอยู่ในระดับดีขึ้นไปต่ำสุด ร้อยละ 86.18
3.3 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนทั้ง
8 ประการ ตามหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดป่าประดู่หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า
ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมผลการประเมินมีคุณภาพอยู่ในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 92.06 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าคุณลักษณะด้านจิตสาธารณะ/จิตอาสา มีค่าเฉลี่ยระดับดี ขึ้นไป สูงสุดร้อยละ 94.29 รองลงมาได้แก่ คุณลักษณะด้านซื่อสัตย์ สุจริต ร้อยละ 94.00 ส่วนคุณลักษณะด้านอยู่อย่างพอเพียง มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ร้อยละ 90.90
ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมผลการประเมินมีคุณภาพอยู่ในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 92.58 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า คุณลักษณะด้านจิตสาธารณะ/จิตอาสา มีค่าเฉลี่ย ระดับดีขึ้นไป สูงสุด ร้อยละ 94.00 รองลงมาได้แก่ คุณลักษณะด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ร้อยละ 92.78 ส่วนคุณลักษณะด้านใฝ่เรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยระดับดีขึ้นไป ร้อยละต่ำสุด ร้อยละ 91.05 สอดคล้องตามสมมติฐาน
4. ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครู ผู้ปกครอง และพระสงฆ์ ต่อการพัฒนาความมีวินัยของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์ WINAI MODEL หลังการพัฒนา
ปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า
ปีการศึกษา 2562 ภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดย กลุ่มพระสงฆ์ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̄ = 3.67 , S.D. = 0.56) อยู่ในระดับมาก รองลงมา คือกลุ่มผู้ปกครอง ( x̄= 3.64 , S.D. = 0.58) อยู่ในระดับมาก และกลุ่มที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ครู (x̄ = 3.52 , S.D. =
0.64) อยู่ในระดับมากเช่นกัน
ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด โดยกลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( x̄= 4.64 , S.D. = 0.49) อยู่ในระดับมากที่สุดรองลงมา คือ กลุ่มพระสงฆ์ (x̄ = 4.63 , S.D. = 0.64) อยู่ในระดับมากที่สุด และกลุ่มที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ กลุ่มครู (x̄ = 4.55 , S.D. = 0.56) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน สอดคล้องตามสมมติฐาน
บทสรุป
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวัดป่าประดู่ จังหวัดระยอง ปีการศึกษา 2562-2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านสภาพแวดล้อม ประเมินด้านปัจจัยนำเข้า ประเมินด้านกระบวนการ และประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบคุณภาพการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ พฤติกรรมการมีนิสัยรักการอ่านของนักเรียน หลังการดำเนินโครงการ ผลสัมฤทธิ์ระดับสถานศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หลังการดำเนินโครงการ ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของนักเรียน หลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2562-2563 ความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะ กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อการดำเนินโครงการ และผลการประเมินตนเอง เพื่อการประเมินภายในสถานศึกษาเมื่อดำเนินโครงการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมิน ประกอบด้วยนักเรียน ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จำนวน 335 คน ครู ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จำนวน 103 คน ผู้ปกครองปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2562 จำนวน 335 คน คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2562 จำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน รวมทั้งสิ้น 9 ฉบับ มีลักษณะเป็นแบบบันทึกผลการประเมินตามสภาพจริง จำนวน 2 ฉบับ เป็นแบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 7 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.966-0.982 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม SPSS
ผลการประเมินพบว่า
1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนวัดป่าประดู่ ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด อยู่ในระดับมาก และมากที่สุด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน
2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้าโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนวัดป่าประดู่ ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของครู โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวม และ ทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการในการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนวัดป่าประดู่ ปีการศึกษา 2562-2563 ตาม ความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน
4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนวัดป่าประดู่ ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง หลังเสร็จสิ้นโครงการ จำแนกตามตัวชี้วัด พบว่า
4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับคุณภาพการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนวัดป่าประดู่ ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ กำหนด อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน
4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับพฤติกรรมการมีนิสัยรักการอ่านของนักเรียน หลังดำเนินโครงการ โรงเรียนวัดป่าประดู่ ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน
4.3 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิต จำแนกเป็น
4.3.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับ ผลสัมฤทธิ์ระดับสถานศึกษา หลังดำเนินโครงการ พบว่า ปีการศึกษา 2562 มีค่าคะแนนเฉลี่ย (GPA ) ทุกระดับชั้นเท่ากับ 3.39 ปีการศึกษา 2563 มีค่าคะแนนเฉลี่ย (GPA ) ทุกระดับชั้นเท่ากับ 3.54 มีค่าการพัฒนาเพิ่มขึ้นเท่ากับ 0.15 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4.3.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับสมรรถนะสำคัญของนักเรียน ตามหลักสูตรสถานศึกษา พบว่า ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมมีคุณภาพระดับดีขึ้นไปร้อยละ 82.68 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมมีคุณภาพระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 82.68 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4.4 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนวัดป่าประดู่ ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็น ของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยภาพรวมทั้งทุกกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด อยู่ในระดับมาก และมากที่สุด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน
5. การเปรียบเทียบการประเมินตนเองด้านคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียน เพื่อการประเมินภายในสถานศึกษา เมื่อดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนวัดป่าประดู่ ปีการศึกษา 2562-2563 พบว่าปีการศึกษา 2562 เมื่อเริ่มดำเนินโครงการ โดยรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.41 อยู่ในระดับมาก และปีการศึกษา 2563 เมื่อสิ้นสุดโครงการโดยรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.02
 
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้
1. โรงเรียนควรนำผลการประเมินโครงการ มาวิเคราะห์หาจุดเด่นจุดที่ควรพัฒนาเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้เหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของโรงเรียน
2. โรงเรียนควรจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนอย่างหลากหลาย ทันสมัยและตรงกับความสนใจของนักเรียน โดยจัดกิจกรรมให้ครอบคลุมสาระสำคัญของกิจกรรมสร้างสรรค์ ทั้ง 4 ลักษณะ ได้แก่ กิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่เน้นทักษะการอ่าน กิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่เน้นการเผยแพร่ข่าวสาร กิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่เน้นการแก้ไขและพัฒนา และกิจกรรมส่งเสริม การอ่านเน้นพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง
3. ผู้บริหาร คณะครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของโครงการและควรยกย่องเชิดชูเกียรติ ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ ชื่อเสียงผลงานของบุคคลกลุ่มบุคคล หน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนโครงการ ด้วยรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม
ข้อเสนอแนะเพื่อการประเมินครั้งต่อไป
1. ควรศึกษารูปแบบหรือแนวทางการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ ที่นอกเหนือจากรูปแบบซิปป์โมเดล (CIPP model) เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมิน
2. ควรมีการศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ ตามสภาพบริบทของโรงเรียนที่แตกต่างกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนาดำเนินงานตามโครงการต่อไป
3. ควรมีการศึกษาการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะในเชิงคุณภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกอันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป
 
กิตติกรรมประกาศ
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวัดป่าประดู่ จังหวัดระยอง ปีการศึกษา 2562-2563 ฉบับนี้สำเร็จได้ด้วยดี เกิดจากความร่วมมือหลายฝ่าย ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงการอย่างราบรื่นและบรรลุวัตถุประสงค์
ขอขอบคุณ ดร. สุรัตน์ ไชยชมภู อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยบูรพา ดร.สมศักดิ์ ทองเนียม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 ดร.สุรชาติ มานิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17 ดร.สุกิจ โพธิ์ศิริกุล ผู้อำนวยการวิทยาฐานะเชี่ยวชาญโรงเรียนบ้านค่าย และดร.ทวีสิทธิ์ อิสรเดช อดีตผู้อำนวยการวิทยฐานะเชี่ยวชาญ โรงเรียนวัดป่าประดู่ ที่กรุณาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบเครื่องมือ ให้ข้อเสนอแนะ ที่เป็นประโยชน์ในการรายงานโครงการเป็นอย่างดี รวมทั้งตรวจสอบรายงานผลการดำเนินโครงการ
ขอขอบคุณ คณะครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และนักเรียน โรงเรียนวัดป่าประดู่ ที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมตามโครงการและเก็บรวบรวมข้อมูลที่ใช้ ในการรายงานโครงการครั้งนี้ รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่กรุณาให้คำปรึกษาช่วยเหลือและเป็นกำลังใจ จนผลงานสำเร็จลุล่วงด้วยดี
พรศักดิ์ ทิพย์วงษ์ทอง