การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การเรียนรู้ที่ใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับแนวคิดเมตาคอกนิชัน เรื่อง ไฟฟ้ากระแส มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยการเรียนรู้ที่ใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับแนวคิดเมตาคอกนิชัน ให้ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 กลุ่มเป้าหมายในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนระยองวิทยาคม จังหวัดระยอง แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ จำนวน 1 ห้องเรียน ที่เรียนรายวิชาฟิสิกส์4 รหัสวิชา ว32204 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวนนักเรียน 37 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับแนวคิดเมตาคอกนิชัน เรื่อง ไฟฟ้ากระแส จำนวน 6 แผน 9 ชั่วโมง 2) แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา โดยใช้กลวิธีเมตาคอกนิชัน จำนวน 3 ชุด 3) แบบทดสอบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ ลักษณะแบบทดสอบจะเป็นแบบอัตนัย 2 ข้อ จำนวน 3 ชุด 4) แบบสังเกตความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เป็นลักษณะแบบไม่มีโครงสร้าง การศึกษาครั้งนี้ใช้รูปแบบของวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน (Classroom Action Research) ผ่านการดำเนินการตามกระบวนการ PLC ของกลุ่ม “การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การเรียนรู้ที่ใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับแนวคิดเมตาคอกนิชัน เรื่อง ไฟฟ้ากระแส” ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ซึ่งมีวงจรการปฏิบัติ 3 วงจร ได้แก่ วงจรปฏิบัติการที่ 1 ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 - 2 วงจรปฏิบัติการที่ 2 ใช้แผนการ จัดการเรียนรู้ที่ 3 - 4 วงจรปฏิบัติการที่ 3 ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 - 6 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการพรรณนาวิเคราะห์

ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับแนวคิดเมตาคอกนิชัน เรื่อง ไฟฟ้ากระแส มีความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ที่ได้ตั้งไว้ ในแต่ละวงจรปฏิบัติการ ดังนี้ วงจรปฏิบัติการที่ 1 มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 29.73 วงจรปฏิบัติการที่ 2 มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 51.35 และวงจรปฏิบัติการที่ 3 มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 62.16 จากการสังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า ในวงจรปฏิบัติการที่ 2 – 3 นักเรียนมีความมั่นใจในการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ด้วยตนเองเพิ่มมากขึ้น สามารถทำโจทย์ด้วยตนเองโดยไม่ต้องขอคำแนะนำจากครูเพิ่มมากขึ้น และการจัดการเรียนรู้ที่เริ่มจากการใช้สถานการณ์ปัญหาให้นักเรียนได้สืบเสาะความรู้ผ่านการทดลอง ช่วยให้นักเรียนเกิดแนวคิดวิทยาศาสตร์ในเรื่องนั้นๆ ได้ดีขึ้น จึงสามารถประยุกต์ความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์ได้ และจากการวิเคราะห์ผลการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์ของนักเรียน พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่มีปัญหาในการวิเคราะห์ปริมาณที่โจทย์กำหนดให้จากสถานการณ์ จากผลการศึกษาสามารถสรุปได้ว่า การจัดการเรียนรู้ที่ใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับแนวคิดเมตาคอกนิชัน เรื่อง ไฟฟ้ากระแส ช่วยพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนได้

เว็บน่าสนใจ