ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค TAI เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่

เรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค TAI เรื่อง การเขียนโปรแกรม

เบื้องต้น เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นางจินตนา มีสุข

ปีที่ศึกษา 2561

_________________________________________________________________

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาหาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคTAI เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคTAI เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 3) เพื่อทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคTAI เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคTAI เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในประเด็นต่อไปนี้ (4.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุดกิจกรรมก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ (4.2) เพื่อประเมินพฤติกรรมการร่วมมือกันทำงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุดกิจกรรมก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ (4.3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค TAI เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 34 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม ด้วยการจับฉลาก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค TAI แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน แบบประเมินพฤติกรรมการร่วมมือกันทำงาน การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ การคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าร้อยละ (P) ค่าเฉลี่ย ( × ̅ ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และการทดสอบค่าที (Dependent Samples t - test)

สรุปผลการวิจัย

การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคTAI เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้วิจัยสามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบร่วมมือ เทคนิค TAI เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องการให้มีการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้จัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค TAI เป็นรายบุคคลที่ผู้เรียนมีโอกาสศึกษาด้วยตนเองและเนื้อหาและตัวอย่างควรครอบคลุมทุกคำสั่งในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนการสอนมีกิจกรรมที่หลากหลาย มีองค์ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้ คำนำ คำชี้แจง สารบัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ ใบความรู้ แบบฝึกตัวอย่าง แบบฝึกปฏิบัติ ประเมินผล คู่มือครูแผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบ แบบประเมินพฤติกรรมการร่วมมือกันทำงาน รูปภาพควรมีสีสันสดใส ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง และแสวงหาความรู้จากสื่อต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ และสามารถเขียนโปรแกรมเพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนเกี่ยวกับวิชาการเขียนโปรแกรมในขั้นสูงต่อไป

2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค TAI เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 77.62/79.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่กำหนดไว้

3. ผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค TAI เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ผลการทดลองใช้พบว่า ผู้เรียนส่วนใหญ่เมื่อนักเรียนได้ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ นักเรียนให้ความสนใจในการเรียนรู้และฝึกกระบวนการร่วมมือกันทำงาน จึงทำให้ผู้เรียนส่วนใหญ่มีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียนรู้ นักเรียนมีความสุขและสนุกกับการเรียน

4. ผลการประเมินและปรับปรุงชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค TAI เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีขั้นตอน ดังนี้

4.1 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุดกิจกรรมก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ พบว่า ผลการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4.2 พฤติกรรมการร่วมมือกันทำงานของนักเรียน ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดกิจกรรมแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TAI เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น พบว่า นักเรียนมีพฤติกรรมการร่วมมือกันทำงานอยู่ใน ระดับดี ( x ̅ = 3.97) ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 79.35

4.3 ผลการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค TAI เรื่องการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรม พบว่า ภาพรวมมีระดับความคิดเห็นในระดับเห็นด้วยมาก

คำสำคัญ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมแบบร่วมมือ เทคนิค TAI

การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น

โพสต์โดย Jan : [18 ส.ค. 2564 เวลา 19:53 น.]
อ่าน [63605] ไอพี : 49.230.178.67
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,748 ครั้ง
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร

เปิดอ่าน 18,364 ครั้ง
การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ตอน1
การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ตอน1

เปิดอ่าน 102,137 ครั้ง
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก

เปิดอ่าน 15,951 ครั้ง
สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ใช้พระนาม "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ"
สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ใช้พระนาม "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ"

เปิดอ่าน 13,785 ครั้ง
ปวดท้องแบบไหน เป็นไส้ติ่งอักเสบ
ปวดท้องแบบไหน เป็นไส้ติ่งอักเสบ

เปิดอ่าน 14,353 ครั้ง
หน้ากากอนามัย ใช้อย่างไรให้ถูกวิธี
หน้ากากอนามัย ใช้อย่างไรให้ถูกวิธี

เปิดอ่าน 11,052 ครั้ง
อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?
อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?

เปิดอ่าน 2,476 ครั้ง
สอบถามรายละเอียดประกันรถให้ชัวร์ ประกันแต่ละชั้นต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะกับคุณ
สอบถามรายละเอียดประกันรถให้ชัวร์ ประกันแต่ละชั้นต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะกับคุณ

เปิดอ่าน 18,676 ครั้ง
ภัยร้ายความเค็มสะสมจากพริกน้ำปลา
ภัยร้ายความเค็มสะสมจากพริกน้ำปลา

เปิดอ่าน 31,595 ครั้ง
แนวโน้มนโยบายด้านการศึกษาของโดนัลด์ ทรัมพ์
แนวโน้มนโยบายด้านการศึกษาของโดนัลด์ ทรัมพ์

เปิดอ่าน 1,090 ครั้ง
5 ขั้นตอนการทำ ICSI ที่ต้องรู้ ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา
5 ขั้นตอนการทำ ICSI ที่ต้องรู้ ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา

เปิดอ่าน 17,092 ครั้ง
แผ่นดินไหวปากีสถานดัน"เกาะ"โผล่กลางทะเล
แผ่นดินไหวปากีสถานดัน"เกาะ"โผล่กลางทะเล

เปิดอ่าน 2,427 ครั้ง
4 จุดภายในบ้าน ที่ควรตรวจสอบ ป้องกันผู้สูงวัยลื่นล้ม เสี่ยงอันตราย
4 จุดภายในบ้าน ที่ควรตรวจสอบ ป้องกันผู้สูงวัยลื่นล้ม เสี่ยงอันตราย

เปิดอ่าน 3,251 ครั้ง
Blog คืออะไร
Blog คืออะไร

เปิดอ่าน 26,645 ครั้ง
ทายนิสัยจากฤดูที่ชอบ
ทายนิสัยจากฤดูที่ชอบ

เปิดอ่าน 7,732 ครั้ง
"หรือฉันจะเป็นแม่ที่แย่ที่สุด" คลิปดูแล้วอาจจะน้ำตาไหล โดยเฉพาะคนเป็นแม่
"หรือฉันจะเป็นแม่ที่แย่ที่สุด" คลิปดูแล้วอาจจะน้ำตาไหล โดยเฉพาะคนเป็นแม่
เปิดอ่าน 10,659 ครั้ง
ทำไม ชีวจิต ถึงไม่แนะนำให้รับประทานเนื้อสัตว์
ทำไม ชีวจิต ถึงไม่แนะนำให้รับประทานเนื้อสัตว์
เปิดอ่าน 15,043 ครั้ง
"โกสน" ช่วยดูดพิษในอากาศ
"โกสน" ช่วยดูดพิษในอากาศ
เปิดอ่าน 13,443 ครั้ง
9 หนทางสู่การลดน้ำหนักแบบทันใจ
9 หนทางสู่การลดน้ำหนักแบบทันใจ
เปิดอ่าน 15,802 ครั้ง
ประเทศไทยเคยเกิด "ฮีทเวฟ" หรือไม่ ?
ประเทศไทยเคยเกิด "ฮีทเวฟ" หรือไม่ ?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ