ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทย สร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถ

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทย

สร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย นางสาวจิรวรรณ ยิ่งขจร

ปีการศึกษา 2563

การพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 1.1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 1.2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 1.3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อขยายผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในกลุ่มขยายผล 2.2) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง”กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในกลุ่มขยายผล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดชนาธิปเฉลิม) เทสบาลเมืองสตูล ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 35 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการขยายผลการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล ๔ ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยรูปแบบการจัดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการใช้กิจกรรมการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่แบบไม่อิสระและการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัย พบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ JOESH Model ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบเชิงหลักการและวัตถุประสงค์ องค์ประกอบเชิงกระบวนการและองค์ประกอบเชิงเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ JOESH Model ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Juicy : J) ขั้นที่ 2 ขั้นสอน (Operate : O) ขั้นที่ 3 ฝึกฝนนักเรียน (Educate : E) ขั้นที่ 4 สรุปความรู้ (Sum up : S) ขั้นที่ 5 การนำไปใช้ (Handle : H) ผลการตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ได้ค่าความเหมาะสม/สอดคล้องมีค่าเฉลี่ย ( ) ตั้งแต่ 4.60 – 4.80 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ตั้งแต่ 0.43 – 0.55 ซึ่งแสดงว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง”โดยใช้ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ JOESH Model กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสม/สอดคล้องเชิงโครงสร้าง สามารถนำไปทดลองใช้ได้และผลการหาประสิทธิภาพ (E1 / E2) โดยการทดลองภาคสนาม (Field Tryout) พบว่าประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง” โดยใช้ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ JOESH Model กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ 83.28 / 82.08 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80

2. ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง” โดยใช้ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ JOESH Model กลุ่มสาระเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีดังต่อไปนี้

2.1 หลังการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง” โดยใช้ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ JOESH Model กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยภาพอยู่ในระดับสูงมากและสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

2.2 ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง”กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : นาฏศิลป์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ JOESH Model ในภาพรวมผู้เรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด ( = 4.55, S.D. = 0.62)

3. ผลการขยายผลหลังการเรียนการสอน โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำบุหงากาหลง” โดยใช้ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ JOESH Model พบว่า

3.1 ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูงมาก และสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.2 ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในภาพรวม ผู้เรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด ( = 4.55, S.D. = 0.56)

โพสต์โดย ทราย : [19 ส.ค. 2564 เวลา 02:47 น.]
อ่าน [101228] ไอพี : 1.10.133.177
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 5,228 ครั้ง
ฮิคิโคโมริ ซินโดรม โรคเก็บตัวที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตุเมื่อลูกเริ่มหนีห่างจากสังคม
ฮิคิโคโมริ ซินโดรม โรคเก็บตัวที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตุเมื่อลูกเริ่มหนีห่างจากสังคม

เปิดอ่าน 28,159 ครั้ง
แบ่งชนชั้นโดยการศึกษา โดย วีรพงษ์ รามางกูร
แบ่งชนชั้นโดยการศึกษา โดย วีรพงษ์ รามางกูร

เปิดอ่าน 9,140 ครั้ง
คุณครูกับคนดี โดย กล้า สมุทวณิช
คุณครูกับคนดี โดย กล้า สมุทวณิช

เปิดอ่าน 11,460 ครั้ง
สมองที่ไร้ข้อมูล ความรู้และความคิด
สมองที่ไร้ข้อมูล ความรู้และความคิด

เปิดอ่าน 20,665 ครั้ง
VDO ดร บุญลือ ทองอยู่ บรรยายเรื่องวิทยฐานะเชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญพิเศษ
VDO ดร บุญลือ ทองอยู่ บรรยายเรื่องวิทยฐานะเชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญพิเศษ

เปิดอ่าน 39,174 ครั้ง
จริยธรรมที่เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
จริยธรรมที่เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ

เปิดอ่าน 13,848 ครั้ง
40 ปี โครงการหลวง สนุก ดี ใต้พระบารมีพ่อหลวง
40 ปี โครงการหลวง สนุก ดี ใต้พระบารมีพ่อหลวง

เปิดอ่าน 20,983 ครั้ง
คลิปข่าว ขึ้นเงินเดือนครูยกชุด ย้อนหลังถึง 1 ม.ค.55
คลิปข่าว ขึ้นเงินเดือนครูยกชุด ย้อนหลังถึง 1 ม.ค.55

เปิดอ่าน 77,760 ครั้ง
คอมพิวเตอร์กราฟิกกับการประยุกต์ใช้ในงานด้านต่าง ๆ
คอมพิวเตอร์กราฟิกกับการประยุกต์ใช้ในงานด้านต่าง ๆ

เปิดอ่าน 19,946 ครั้ง
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ

เปิดอ่าน 12,985 ครั้ง
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)

เปิดอ่าน 70,428 ครั้ง
ทำไมเครื่องบินกระดาษจึงบินได้
ทำไมเครื่องบินกระดาษจึงบินได้

เปิดอ่าน 19,222 ครั้ง
สร้าง logo Icon ใส่ใน Favorite
สร้าง logo Icon ใส่ใน Favorite

เปิดอ่าน 1,843 ครั้ง
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38

เปิดอ่าน 15,072 ครั้ง
วิธีใช้น้ำในห้องน้ำอย่างประหยัด
วิธีใช้น้ำในห้องน้ำอย่างประหยัด

เปิดอ่าน 14,972 ครั้ง
"หัวหมอ" ไม่อยากโดนใบสั่ง ใช้หลักฟิสิกส์เข้าสู้ตำรวจซะเลย
"หัวหมอ" ไม่อยากโดนใบสั่ง ใช้หลักฟิสิกส์เข้าสู้ตำรวจซะเลย
เปิดอ่าน 24,790 ครั้ง
Franck Muller นาฬิกาไม่เรียงเลข โดดไปมา คลิกดูซิว่าทำงานยังไง
Franck Muller นาฬิกาไม่เรียงเลข โดดไปมา คลิกดูซิว่าทำงานยังไง
เปิดอ่าน 24,618 ครั้ง
เครื่องหมาย *, # ในโทรศัพท์มีไว้ทำไม
เครื่องหมาย *, # ในโทรศัพท์มีไว้ทำไม
เปิดอ่าน 11,174 ครั้ง
เป็นปลื้มกับ 12 เรื่องแรกของลูก
เป็นปลื้มกับ 12 เรื่องแรกของลูก
เปิดอ่าน 33,951 ครั้ง
ทำไมแป้นพิมพ์ ไม่เรียง A B C
ทำไมแป้นพิมพ์ ไม่เรียง A B C

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ