|
|
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฏีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความรู้ความสามารถทางทักษะกีฬาฟุตซอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความรู้ความสามารถทางทักษะกีฬาฟุตซอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อเปรียบเทียบความรู้ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถด้านทักษะปฏิบัติของกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความรู้ ความสามารถทางทักษะกีฬาฟุตซอล ก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความรู้ความสามารถทางทักษะกีฬาฟุตซอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 โรงเรียนเทศบาล ๑ ตลาดบางลี่ (พานิชอุทิศ) สังกัดเทศบาลเมืองสองพี่น้อง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความรู้ความสามารถทางทักษะกีฬาฟุตซอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 คู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอน ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ คู่มือครูผู้สอน คู่มือสำหรับนักเรียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (ความรู้ความเข้าใจ) และแบบทดสอบวัดทักษะปฏิบัติกีฬาฟุตซอล (ด้านความสามารถทางทักษะกีฬาฟุตซอล) การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ แบบไม่อิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. นักเรียน ครูและผู้เกี่ยวข้อง มีความคิดเห็นว่าการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความรู้ความสามารถทางทักษะกีฬาฟุตซอล โดยเน้นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การสร้างความรู้ด้วยการฝึกปฏิบัติ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น กิจกรรมกลุ่ม เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน จากแบบฝึก ใบความรู้ ใบกิจกรรม รูปภาพ เกมส์ วีดีทัศน์ มีการวัดผลโดยการทดสอบและประเมินผลจากการปฏิบัติ และแผนผังความคิด
2. รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่ารูปแบบการเรียนการสอน PARCSE Modelโดยมีองค์ประกอบด้งนี้ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สาระหลัก สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม หลักการตอบสนองและสิ่งสนับสนุน รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีกระบวนการเรียนการสอน 6 ขั้นตอนคือ 1) ขั้นเตรียมความพร้อมและกระตุ้นจูงใจในการเรียน (Preparing and Motivating:P) 2) ขั้นเรียนรู้และฝึกปฏิบัติ (LearningandAction:A) 3) ขั้นสะท้อนความรู้ (Reflection Knowledge:R) 4) ขั้นสร้างความรู้ (Construction:C) 5) ขั้นสรุป (Summarizing:S) และ6) ขั้นประเมินผล (Evaluating:E) และรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฏีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความรู้ ความสามารถทางทักษะกีฬาฟุตซอล มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.91/83.96 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฏว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
3. ความสามารถในการสร้างความรู้ของนักเรียน ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฏีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความรู้ความสามารถทางทักษะกีฬาฟุตซอล กลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษาและพลศึกษา ด้านความรู้ ความสามารถทางทักษะปฏิบัติ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีความรู้ ความสามารถทางทักษะปฏิบัติหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความรู้ความสามารถทางทักษะกีฬาฟุตซอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เพราะนักเรียนเรียนรู้จากการสร้างความรู้และการปฏิบัติด้วยตนเองและร่วมกันเรียนรู้กับผู้อื่น มีปฏิสัมพันธ์และแสงหาข้อมูลจากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย ครูเรียงเนื้อหาและกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม และสรุปความรู้เชื่อมโยงนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
|
โพสต์โดย นายนัฐพงศ์ สุดโต : [11 ก.ย. 2564 เวลา 15:23 น.] อ่าน [1898] ไอพี : 118.173.94.171
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 16,535 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,553 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,092 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,957 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,120 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,629 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,972 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,742 ครั้ง
| เปิดอ่าน 43,928 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,531 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,943 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,178 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,887 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,709 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,603 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 10,869 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,870 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,482 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,034 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,224 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|