ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองชุมแสง โดยใช้กลยุทธ์ NCS ปีการศึกษา 2562-2563

ชื่อผลงาน รายงานการประเมินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองชุมแสง โดยใช้กลยุทธ์ NCS ปีการศึกษา 2562-2563

ผู้รายงาน นายอนุชิต พงค์เกื้อ

ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองชุมแสง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2562-2563

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำ โดยใช้กลยุทธ์ NCS โรงเรียนบ้านหนองชุมแสง ปีการศึกษา 2562-2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินบริบทหรือสภาพแวดล้อมของโครงการเกี่ยวกับความต้องการจำเป็นในการดำเนินโครงการ ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ ความสอดคล้องกับนโยบายของต้นสังกัด และความเป็นไปได้ของโครงการ 2) ประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการเกี่ยวกับความพร้อมของบุคลากร ความเพียงพอของงบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ และอาคารสถานที่ ความเหมาะสมของการบริหารจัดการ และหน่วยงานที่สนับสนุนโครงการ 3) ประเมินกระบวนการดำเนินงานตามโครงการเกี่ยวกับการวางแผนการดำเนินงาน การดำเนินการจัดกิจกรรม การติดตามและประเมินผล และการนำผลการประเมินมาปรับปรุงพัฒนา และ 4) ประเมินผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย 4.1) คุณภาพในการดำเนินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองชุมแสง โดยใช้กลยุทธ์ NCS ปีการศึกษา 2562-2563 4.2) การมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองชุมแสง โดยใช้กลยุทธ์ NCS ปีการศึกษา 2562-2563 4.3) ทักษะอาชีพของนักเรียน ตามตัวบ่งชี้ที่โรงเรียนกำหนด ในปีการศึกษา 2562-2563 และ 4.4) ความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานต่อการดำเนินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองชุมแสง โดยใช้กลยุทธ์ NCS ปีการศึกษา 2562-2563 โดยประยุกต์ใช้รูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ของสตัฟเฟิลบีม มาใช้ในการประเมิน

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย กลุ่มตัวอย่างนักเรียน ปีการศึกษา 2562 จำนวน 118 คน ปีการศึกษา 2563 จำนวน 134 คน ประชากรครู ปีการศึกษา 2562 จำนวน 34 คน ปีการศึกษา 2563 จำนวน 32 คน กลุ่มตัวอย่างผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2562 จำนวน 118 คน และปีการศึกษา 2563 จำนวน 134 คน และกลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2562 จำนวน 13 คน ปีการศึกษา 2563 จำนวน 13 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 7 ฉบับ เครื่องมือทุกฉบับผ่านการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือได้ค่าความเชื่อมั่นแต่ละฉบับอยู่ระหว่าง 0.87- 0.92 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมวิเคราะห์ทางสถิติสำเร็จรูป

ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการประเมินด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อมของโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองชุมแสง โดยใช้กลยุทธ์ NCS ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ค่าน้ำหนัก 15% พบว่า ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก ( = 4.17, S.D. = 0.44) ส่วนกลุ่มครู อยู่ในระดับมากเช่นกัน ( = 4.12,  = 0.46) โดยทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.72,  = 0.18) ส่วนกลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ( = 4.71, S.D. = 0.21) โดยทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองชุมแสง โดยใช้กลยุทธ์ NCS ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของครู ค่าน้ำหนัก 15% พบว่า ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 4.12,  = 0.40) ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณาตามประเด็นตัวชี้วัด พบว่า ประเด็นตัวชี้วัดด้านหน่วยงานที่สนับสนุนโครงการ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก ( = 4.28,  = 0.48) รองลงมาคือ ด้านความพร้อมของบุคลากรอยู่ในระดับมาก ( = 4.21,  = 0.45) ส่วนด้านความเพียงพอของงบประมาณ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมากเช่นกัน ( = 3.94,  = 0.49) ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.71,  = 0.14) ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณาตามประเด็นตัวชี้วัด พบว่า ประเด็นตัวชี้วัดด้านวัสดุ อุปกรณ์และอาคารสถานที่ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.80,  = 0.20) รองลงมาคือ ด้านความพร้อมของบุคลากร อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.78,  = 0.28) ส่วนด้านความเพียงพอของงบประมาณ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ( = 4.60,  = 0.30)

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองชุมแสง โดยใช้กลยุทธ์ NCS ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ค่าน้ำหนัก 20% พบว่า ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก ( = 4.18, S.D. = 0.22) รองลงมาคือ กลุ่มครู อยู่ในระดับมาก ( = 4.13,  = 0.44) ส่วนกลุ่มนักเรียนและกลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดเท่ากัน คือกลุ่มนักเรียน อยู่ในระดับมาก ( = 4.08, S.D. = 0.52) และกลุ่มผู้ปกครอง อยู่ในระดับมากเช่นกัน ( = 4.08, S.D. = 0.55) โดยทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.78,  = 0.16) รองลงมาคือ กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.71, S.D. = 0.15) และกลุ่มผู้ปกครองอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.69, S.D. = 0.17) ส่วนกลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ( = 4.22, S.D. = 0.60) โดยทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ได้แก่

4.1 ระดับคุณภาพในการดำเนินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองชุมแสง โดยใช้กลยุทธ์ NCS ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ค่าน้ำหนัก 15% พบว่า ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( = 4.29, S.D. = 0.28) รองลงมาคือ กลุ่มนักเรียน มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( = 4.09, S.D. = 0.43) และกลุ่มผู้ปกครอง มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( = 4.08, S.D. = 0.43) ส่วนกลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด มีคุณภาพอยู่ในระดับมากเช่นกัน ( = 3.93,  = 0.42) โดยทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยสูงสุด มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.75, = 0.14) รองลงมาคือ กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.73, S.D. = 0.16) และกลุ่มนักเรียนมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.69, S.D. = 0.18) ส่วนกลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ( = 4.66, S.D. = 0.16) โดยทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.2 ระดับการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองชุมแสง โดยใช้กลยุทธ์ NCS ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ค่าน้ำหนัก 10% พบว่า ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด มีส่วนร่วมอยู่ในระดับมาก ( = 4.37, S.D. = 0.34) รองลงมาคือ กลุ่มนักเรียน มีส่วนร่วมอยู่ในระดับมาก ( = 4.06, S.D. = 0.35) และกลุ่มผู้ปกครอง มีส่วนร่วมอยู่ในระดับมาก ( = 4.05, S.D. = 0.39) ส่วนกลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด มีส่วนร่วมอยู่ในระดับมากเช่นกัน ( = 4.01,  = 0.41) โดยทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด มีส่วนร่วมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.77,  = 0.20) รองลงมาคือ กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีส่วนร่วมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.70, S.D. = 0.23) และกลุ่มนักเรียน มีส่วนร่วมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.67, S.D. = 0.17) ส่วนกลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด มีส่วนร่วมอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ( = 4.63, S.D. = 0.22) โดยทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.3 ทักษะอาชีพของนักเรียน ตามตัวบ่งชี้ที่โรงเรียนกำหนด ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของครูและผู้ปกครอง ค่าน้ำหนัก 15% พบว่า ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( = 4.09,  = 0.35) รองลงมาคือ กลุ่มผู้ปกครอง มีคุณภาพอยู่ในระดับมากเช่นกัน ( = 4.06, S.D. = 0.44) โดยทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.71,  = 0.17) รองลงมาคือ กลุ่มผู้ปกครอง มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ( = 4.70, S.D. = 0.19) โดยทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.4 ผลการประเมินความพึงพอใจในการดำเนินโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองชุมแสง โดยใช้กลยุทธ์ NCS ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ค่าน้ำหนัก 10% พบว่า ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.17,  = 0.41) รองลงมาคือ กลุ่มนักเรียน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.14, S.D. = 0.29) และกลุ่มผู้ปกครอง มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.12, S.D. = 0.32) ส่วนกลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากเช่นกัน ( = 4.02, S.D. = 0.42) โดยทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.80,  = 0.23) รองลงมาคือ กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.75, S.D. = 0.25) และกลุ่มนักเรียน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.73, S.D. = 0.16) ส่วนกลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ( = 4.71, S.D. = 0.18) โดยทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะเพื่อนำผลการประเมินไปใช้

โครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองชุมแสง โดยใช้กลยุทธ์ NCS เป็นกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านอาชีพที่หลากหลายรูปแบบ ภายใต้กลยุทธ์ 3 ด้าน เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์อาชีพของนักเรียน ซึ่งแต่ละด้านมีข้อเสนอแนะดังนี้

ด้าน Network Study : N (การสร้างเสริมประสบการณ์อาชีพนอกชั้นเรียน) ผู้บริหารสถานศึกษาควรส่งเสริมสนับสนุนให้ปราชญ์ชาวบ้าน และสถานประกอบการในชุมชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการวิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการ ร่วมวางแผนการดำเนินงาน และทำความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของปราชญ์ชาวบ้าน และสถานประกอบการในการดูแลนักเรียนที่ไปฝึกทักษะทางด้านอาชีพ ให้คำแนะนำในการปฏิบัติงาน ควบคุมดูแลการปฏิบัติงาน ร่วมมือในการแก้ปัญหาของนักเรียน ให้ความคิดเห็นและเสนอแนะเกี่ยวกับการฝึกทักษะอาชีพของนักเรียน และประเมินทักษะอาชีพของนักเรียนร่วมกับครูที่รับผิดชอบ

ด้าน Classroom Study : C (การสร้างเสริมประสบการณ์อาชีพในชั้นเรียน) ผู้บริหารสถานศึกษาควรชี้แจงทำความเข้าใจ สร้างความร่วมมือ สนับสนุนงบปะมาณให้เพียงพอสำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รวมถึงพัฒนาบุคลากรในสถานศึกษาให้สอดคล้องกับการจัดการเรียนการสอนด้านอาชีพ ในส่วนของครูควรกระตุ้นให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมทุกขั้นตอน

ด้าน Self Study : S (การสร้างเสริมประสบการณ์อาชีพด้วยตนเอง) ผู้บริหารสถานศึกษาและครู ควรจัดประชุมทำความเข้าใจกับนักเรียนถึงบทบาทหน้าที่ของนักเรียนในการเรียนรู้ทางด้านอาชีพตามรูปแบบที่โรงเรียนได้วางไว้ และครูต้องคอยเป็นพี่เลี้ยงให้กับนักเรียนขณะที่นักเรียนทำกิจกรรมสร้างเสริมประสบการณ์อาชีพด้วยตนเอง

การดำเนินการสร้างเสริมประสบการณ์อาชีพทั้ง 3 รูปแบบ ควรดำเนินการอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ มีการประสานงานที่ดีและเข้าใจตรงกันของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งควรมีการประเมินทักษะอาชีพของนักเรียน ตามตัวชี้วัดที่โรงเรียนกำหนดอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพให้กับนักเรียน

1.3 ควรสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการสร้างเสริมประสบการณ์อาชีพของนักเรียนอย่างหลากหลายตามความสนใจของนักเรียนแต่ละคน

2. ข้อเสนอแนะเพื่อการประเมินและวิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรศึกษารูปแบบการประเมินอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากรูปแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมิน

2.2 ควรมีการศึกษาถึงปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อความสำเร็จของโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการมีงานทำของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง

2.3 ควรมีการศึกษาวิจัย ประเมินโครงการอื่น ๆ ของโรงเรียนทุกโครงการ เพื่อให้การดำเนินโครงการทุกโครงการมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล

โพสต์โดย ผอ.อนุชิต : [5 ม.ค. 2565 เวลา 11:14 น.]
อ่าน [1829] ไอพี : 27.55.79.27
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 31,766 ครั้ง
10 สมุนไพรไทย ประโยชน์เยอะ ช่วยบรรเทา "โรคความดันสูง"
10 สมุนไพรไทย ประโยชน์เยอะ ช่วยบรรเทา "โรคความดันสูง"

เปิดอ่าน 66,361 ครั้ง
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม

เปิดอ่าน 53,125 ครั้ง
สมรรถนะวิชาชีพ (Vocational Competency)
สมรรถนะวิชาชีพ (Vocational Competency)

เปิดอ่าน 14,369 ครั้ง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง

เปิดอ่าน 58,017 ครั้ง
แนวปฏิบัติการดำเนินงานตาม พรบ. การศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545
แนวปฏิบัติการดำเนินงานตาม พรบ. การศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545

เปิดอ่าน 9,394 ครั้ง
How to Sync Keyboard Shortcuts with iCloud in iOS 6
How to Sync Keyboard Shortcuts with iCloud in iOS 6

เปิดอ่าน 26,453 ครั้ง
ภาษาฝรั่งเศส
ภาษาฝรั่งเศส

เปิดอ่าน 20,079 ครั้ง
10 ธุรกิจลงทุนจิ๊บๆ แค่ใช้ทักษะที่มีในตัวก็ทำเงินได้
10 ธุรกิจลงทุนจิ๊บๆ แค่ใช้ทักษะที่มีในตัวก็ทำเงินได้

เปิดอ่าน 18,523 ครั้ง
คลิปสาธิตเทคนิคการพับผ้า แบบประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋า
คลิปสาธิตเทคนิคการพับผ้า แบบประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋า

เปิดอ่าน 14,563 ครั้ง
ม.44 "มาสเตอร์คีย์ผ่าทางตัน"ปฏิรูปการศึกษา??
ม.44 "มาสเตอร์คีย์ผ่าทางตัน"ปฏิรูปการศึกษา??

เปิดอ่าน 16,932 ครั้ง
ประโยชน์ของทุเรียน
ประโยชน์ของทุเรียน

เปิดอ่าน 11,463 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2552
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2552

เปิดอ่าน 13,614 ครั้ง
เมื่อสุนัขตำรวจปลดเกษียณ สิ่งที่มนุษย์มอบให้คือ.....
เมื่อสุนัขตำรวจปลดเกษียณ สิ่งที่มนุษย์มอบให้คือ.....

เปิดอ่าน 83,579 ครั้ง
10 วิธีช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์
10 วิธีช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 4,229 ครั้ง
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลการปฏิบัติงานบุคลากร
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลการปฏิบัติงานบุคลากร

เปิดอ่าน 33,643 ครั้ง
ครูอุดรไอเดียแหวกสุดฮา ชวนเต้นยอดวิวเป็นแสน!
ครูอุดรไอเดียแหวกสุดฮา ชวนเต้นยอดวิวเป็นแสน!
เปิดอ่าน 10,207 ครั้ง
แนะนำแอพลิเคชัน escivocab : พจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี สสวท.
แนะนำแอพลิเคชัน escivocab : พจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี สสวท.
เปิดอ่าน 22,318 ครั้ง
เผด็จการคืออะไร
เผด็จการคืออะไร
เปิดอ่าน 50,955 ครั้ง
สรุปสูตรไฮเพอร์โบลา
สรุปสูตรไฮเพอร์โบลา
เปิดอ่าน 16,831 ครั้ง
ฮอร์โมนเพศชายDHT-ต้นตอศีรษะล้าน
ฮอร์โมนเพศชายDHT-ต้นตอศีรษะล้าน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ