ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดี ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดี ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม 2) สร้างรูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดีในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดี ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม และ 4) ประเมินรูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดี ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม วิธีดำเนินการวิจัย เก็บรวบรวมข้อมูลจาก กลุ่มประชากร ได้แก่ ครู จำนวน 54 คน และคณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 15 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน กลุ่มละ 293 คน ผลการวิจัย พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นทั้งจากการวัดผลประเมินผลในระดับโรงเรียน และในระดับชาติ (O-NET) การวัดผลในระดับโรงเรียน นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 76.72 ได้ตามค่าเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด เมื่อเปรียบเทียบกับปีการศึกษา 2562 พบว่า นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผลในระดับชาติ (O-NET) ปีการศึกษา 2563 พบว่า โดยรวม มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 32.60 ต่ำกว่าค่าเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด เมื่อเปรียบเทียบกับปีการศึกษา 2562 พบว่า โดยรวมมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.59 คิดเป็นร้อยละ 5.13 โดยมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกรายวิชา ครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง มีความพึงพอใจในระดับมาก

บทนำ

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม จัดการเรียนการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 (เชียงราย-พะเยา) มุ่งให้บริการด้านการศึกษาอย่างทั่วถึง และพัฒนาผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ คุณธรรมมีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข แต่จากการศึกษาวิเคราะห์ผลการจัดการศึกษาของโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม จากเอกสารสารสนเทศของโรงเรียน ปีการศึกษา 2559 - 2560 และรายงานผลการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม พ.ศ. 2559 พบว่า การจัดการศึกษาของโรงเรียนไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ทั้งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการวัดผลประเมินผลโดยโรงเรียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบระดับชาติ (O-NET) ที่ดำเนินการโดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ซึ่งสอดคล้องกับผลการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม โดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ผลการประเมินพบว่า กลุ่มตัวบ่งชี้พื้นฐาน ตัวบ่งชี้ที่ 5 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน ได้คะแนน 5.41 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน อยู่ในระดับต้องปรับปรุง จากความสำคัญของปัญหาดังกล่าว ทำให้ผู้วิจัยในฐานะผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม ซึ่งมีหน้าที่ในการบริหารจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ ได้ตระหนักถึงความสำคัญในปัญหาดังกล่าวที่จะต้องได้รับการแก้ไขและพัฒนาอย่างเร่งด่วน เพื่อให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น จึงมีความสนใจศึกษาระบบบริหารที่เน้นคุณภาพทั่วทั้งองค์กร(Total Quality Management : TQM) การพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional learning community : PLC) และการปรับปรุงพัฒนาแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนให้เอื้อและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ของครูและการเรียนรู้ของนักเรียน เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

วัตถุประสงค์การวิจัย

1. เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

2. เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดีในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

3. เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดี ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

4. เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดีในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

สมมติฐานของการวิจัย

1. รูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดี ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม ช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม ให้สูงขึ้น

2. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดี ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม อยู่ในระดับมาก

กรอบแนวคิดการวิจัย

วิธีดำเนินการวิจัย

ขั้นตอนการวิจัย มี 4 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเรียน โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

ระยะที่ 2 การสร้างรูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดี ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม มีการดำเนินการ

ระยะที่ 3 การใช้รูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดีในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม มีรายละเอียด

ระยะที่ 4 การประเมินรูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดีในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

ประชากร ได้แก่

1. ครู โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม จำนวน 54 คน

2. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน

กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่

1. นักเรียน โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม จำนวน 293 คน

2. ผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม จำนวน293 คน

เครื่องมือวิจัย ได้แก่

1. แบบวิเคราะห์เอกสาร

2. แบบสนทนากลุ่ม เรื่อง สภาพปัญหาการบริหารและการจัดการเรียนการสอนที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

3. แบบประเมินรูปแบบฯ

4. แบบสอบถามความพึงพอใจ

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

1. การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

2. ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

ผลการวิจัย

ระยะที่ 1 ผลศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการในการผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ

นักเรียน โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม พบว่า นักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนต่ำ ทั้งจากการวัดผลประเมินผลในระดับโรงเรียนและในระดับชาติ (O-NET)

ระยะที่ 2 ผลการสร้างรูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดีในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการ

เรียนของนักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม พบว่า ยุทธศาสตร์ 3 ดี ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ดีที่ 1 ระบบการบริหารจัดการดีด้วยระบบคุณภาพ (TQM) ประกอบด้วย 1) ประเด็นยุทธศาสตร์ คือ บริหารเยี่ยมผลลัพธ์ยอด 2) เป้าหมายยุทธศาสตร์ คือ การบริหารจัดการภายในโรงเรียนมีประสิทธิภาพ 3) โครงการ มี 3 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพ (TQM) ประกอบด้วย กิจกรรมการบริหารด้วยระบบคุณภาพ (TQM) กิจกรรมการบริหารโดยหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี กิจกรรมการพัฒนาระบบ ICT เพื่อการบริหารจัดการ กิจกรรมการลดภาระงานธุรการของครู (2) โครงการพัฒนาระบบการนิเทศภายในโรงเรียน ประกอบด้วย กิจกรรมการนิเทศแบบ 360 องศา และกิจกรรม Coaching and Mentoring (3) โครงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางการศึกษา ประกอบด้วย กิจกรรมการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางการศึกษาในประเทศ กิจกรรมการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางการศึกษากับต่างประเทศ ยุทธศาสตร์ดีที่ 2 ครูจัดการเรียนรู้ดีด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ประกอบด้วย 1) ประเด็นยุทธศาสตร์ คือ ครูพลิกรูปแบบการเรียนเปลี่ยนการสอน 2) เป้าหมายยุทธศาสตร์ คือ ครูจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3) โครงการมี 1 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาครูด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ประกอบด้วย กิจกรรม 12 กิจกรรมคือ 1) กิจกรรมการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC 2) กิจกรรมการจัดทำแผนงานการขับเคลื่อน 3) กิจกรรมการสร้างความรู้ ความเข้าใจ 4) กิจกรรมการจัดทำคู่มือการขับเคลื่อน PLC 5) กิจกรรมการสร้างทีมงาน PLC 6) กิจกรรมการขับเคลื่อน PLC สู่การปฏิบัติพร้อมทั้งบันทึกลงใน LOG BOOK 7) กิจกรรมการสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานอื่น 8) กิจกรรมการติดตามความก้าวหน้า 9) กิจกรรมการส่งเสริม สนับสนุน 10) กิจกรรมการนำเสนอ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ 11) กิจกรรมการประเมินและสรุปผลการขับเคลื่อน PLC สู่สถานศึกษาในภาพรวม และ12) กิจกรรมการปรับปรุงพัฒนากระบวนการขับเคลื่อน PLC สู่สถานศึกษาโดยใช้กระบวนการทบทวนหลังปฏิบัติงาน AAR (After Action Review) และยุทธศาสตร์ดีที่ 3 แหล่งเรียนรู้ดีด้วยภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย 1) ประเด็นยุทธศาสตร์ คือ สร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือทางการศึกษาเพื่อพัฒนาแหล่งเรียนรู้ 2) เป้าหมายยุทธศาสตร์ คือ แหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนเอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน 3) โครงการ มี 2 โครงการ ได้แก่ 3.1) โครงการปรับปรุงพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน 3.2) โครงการศึกษาเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้นอก โดยกำหนดเป้าประสงค์ของรูปแบบ คือนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น โดยได้กำหนดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ได้จากการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 3 ดี ดังนี้ 1) ผลการทดสอบระดับโรงเรียน 2) ผลการทดสอบระดับชาติ (O-NET) 3) ผลงานนักเรียน และ 4) ผลงานโรงเรียน

ระยะที่ 3 ผลการใช้รูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดีในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นทั้งจากการวัดผลประเมินผลในระดับโรงเรียน และในระดับชาติ (O-NET) การวัดผลในระดับโรงเรียน นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 76.72 ได้ตามค่าเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด เมื่อเปรียบเทียบกับปีการศึกษา 2562 พบว่า นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผลในระดับชาติ (O-NET) ปีการศึกษา 2563 พบว่า โดยรวม มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 32.60 ต่ำกว่าค่าเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด เมื่อเปรียบเทียบกับปีการศึกษา 2562 พบว่า โดยรวมมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.59 คิดเป็นร้อยละ 5.13 โดยมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกรายวิชา ครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง มีความพึงพอใจในระดับมาก

ระยะที่ 4 ผลการประเมินรูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดีในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม พบว่า ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนมีความคิดเห็นต่อรูปแบบการบริหารโดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดีในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียน เชียงแสนวิทยาคม ในภาพรวม มีความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นประโยชน์ ละความเป็นไปได้ อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย นายยบุญเทพ พิศวง : [12 ม.ค. 2565 เวลา 15:50 น.]
อ่าน [1948] ไอพี : 61.7.228.130
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,439 ครั้ง
กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ
กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ

เปิดอ่าน 19,618 ครั้ง
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน นอกเหนือจากเงินเดือน (2)
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน นอกเหนือจากเงินเดือน (2)

เปิดอ่าน 15,592 ครั้ง
10 อาหารอุดมแคลเซียม ที่จะช่วยคุณลดน้ำหนักได้
10 อาหารอุดมแคลเซียม ที่จะช่วยคุณลดน้ำหนักได้

เปิดอ่าน 12,525 ครั้ง
ชีวิตยิ่งใช้ ยิ่งได้กำไรกลับคืน
ชีวิตยิ่งใช้ ยิ่งได้กำไรกลับคืน

เปิดอ่าน 12,552 ครั้ง
ปิดเทอมเพิ่มทักษะประสบการณ์อยู่ที่บ้านได้ความรู้คู่เพลิดเพลิน แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ เที่ยวไป เรียนไปกับ สสวท.
ปิดเทอมเพิ่มทักษะประสบการณ์อยู่ที่บ้านได้ความรู้คู่เพลิดเพลิน แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ เที่ยวไป เรียนไปกับ สสวท.

เปิดอ่าน 13,288 ครั้ง
"คนไร้ตัวตน" รายการตีสิบ 25 ก.ย.2555
"คนไร้ตัวตน" รายการตีสิบ 25 ก.ย.2555

เปิดอ่าน 11,272 ครั้ง
"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ
"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ

เปิดอ่าน 11,172 ครั้ง
สำคัญที่ผู้สอน (ครู, อาจารย์)
สำคัญที่ผู้สอน (ครู, อาจารย์)

เปิดอ่าน 32,045 ครั้ง
เส้นเลือดขอด และเส้นเลือดฝอยที่ขาแตก มีอันตรายมากน้อยแค่ไหน
เส้นเลือดขอด และเส้นเลือดฝอยที่ขาแตก มีอันตรายมากน้อยแค่ไหน

เปิดอ่าน 9,949 ครั้ง
ตรวจสอบคุณภาพยางรถ
ตรวจสอบคุณภาพยางรถ

เปิดอ่าน 40,357 ครั้ง
คิ้วตกปัญหาโหงวเฮ้งที่ต้องรีบแก้
คิ้วตกปัญหาโหงวเฮ้งที่ต้องรีบแก้

เปิดอ่าน 11,176 ครั้ง
คำสัญญาที่ว่างเปล่า
คำสัญญาที่ว่างเปล่า

เปิดอ่าน 55,478 ครั้ง
คลิปเด็กฝรั่งท่อง ก.ไก่จนจบ น่ารักมากครับ
คลิปเด็กฝรั่งท่อง ก.ไก่จนจบ น่ารักมากครับ

เปิดอ่าน 23,075 ครั้ง
เกมส์เรียงผลไม้
เกมส์เรียงผลไม้

เปิดอ่าน 3,418 ครั้ง
สลากออนไลน์ ขึ้นเงินอย่างไร
สลากออนไลน์ ขึ้นเงินอย่างไร

เปิดอ่าน 10,705 ครั้ง
สู่ความสำเร็จในการทำงานตามแนวพุทธ
สู่ความสำเร็จในการทำงานตามแนวพุทธ
เปิดอ่าน 8,024 ครั้ง
อุดมศึกษาไทยเสื้อไซซ์เดียว
อุดมศึกษาไทยเสื้อไซซ์เดียว
เปิดอ่าน 8,116 ครั้ง
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์
เปิดอ่าน 19,497 ครั้ง
อวสาน อ.ก.ค.ศ. โดย อดิศร เนาวนนท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
อวสาน อ.ก.ค.ศ. โดย อดิศร เนาวนนท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
เปิดอ่าน 3,965 ครั้ง
ต้นทองอุไร ไม้ดอกมงคล ปลูกง่าย โตไว
ต้นทองอุไร ไม้ดอกมงคล ปลูกง่าย โตไว

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ