ชื่อเรื่อง การพัฒนาแนวทางบริหารการจัดการและดูแลให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะครูโรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี
ผู้รายงาน สิริมา งามศุภกร
หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาล ๕
ปีที่ทำวิจัย 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การพัฒนาแนวทางบริหารการจัดการและดูแลให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะครูโรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพแนวทางบริหารการจัดการและดูแลให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะครูโรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และ 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของแนวทางบริหารการจัดการและดูแลให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะครูโรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี โดย 2.1) เปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับสมรรถนะครูระดับประถมศึกษาก่อนและหลังการใช้แนวทางบริหารการจัดการและดูแลให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะครูโรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี 2.2) ศึกษาพัฒนาการความสามารถในการจัดการเรียนรู้และคุณลักษณะเฉพาะครูระดับประถมศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ที่เรียนรู้โดยใช้แนวทางบริหารการจัดการและดูแลให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะครูโรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และ 2.3) ศึกษาความพึงพอใจของครูระดับประถมศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ที่มีต่อการใช้แนวทางบริหารการจัดการและดูแลให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะครูโรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ซึ่งการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development)
ผลการวิจัยพบว่า
1. การเปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับสมรรถนะครูประถมศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนคร สุราษฎร์ธานี ก่อนและหลังการใช้แนวทางบริหารการจัดการและดูแลให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะครูโรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน (X ̅ = 25.90, S.D. = 2.47และ X ̅ = 12.45, S.D. = 3.24) ตามลำดับ
2. ผลการประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้ตามรายการประเมิน พบว่า ครูประถมศึกษา/ ผู้ได้รับการดูแลให้คำปรึกษามีคะแนนพัฒนาการจัดการเรียนรู้ โดยรวมมีคะแนนเฉลี่ยแต่ละรายการประเมินการจัดการเรียนรู้ (X ̅ = 74.10, S.D. = 1.47 คิดเป็นร้อยละ 74.10) ระยะที่ 1 -4 สูงขึ้นตามลำดับ โดยระยะที่ 1 มีคะแนนการจัดการเรียนรู้ (X ̅ = 47.78, S.D. = 0.80 คิดเป็นร้อยละ 47.78) ระยะที่ 2 มีคะแนนการจัดการเรียนรู้ (X ̅ = 70.80, S.D. = 1.02 คิดเป็นร้อยละ 70.80) ระยะที่ 3 มีคะแนนการจัดการเรียนรู้ (X ̅ = 88.39, S.D. = 0.68 คิดเป็นร้อยละ 88.36) และระยะที่ 4 มีคะแนนการจัดการเรียนรู้ (X ̅ = 89.46, S.D. = 0.63 คิดเป็นร้อยละ 89.46) ตามลำดับ
3. ผลการสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการใช้แนวทางบริหารการจัดการและดูแลให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะครูโรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี
ลำดับที่ 1 ด้านสื่อการสอนในระดับมาก (X ̅= 4.46, S.D. = 0.65) โดยมีรายการประเมินย่อยลำดับแรก คือ ด้านสื่อและวัสดุอุปกรณ์ที่ให้ความรู้และฝึกปฏิบัติมีความทันสมัย (X ̅= 4.49, S.D. = 0.60) และลำดับสุดท้าย คือ ด้านสื่อการสอนมีความหลากหลาย ครบถ้วนเพียงพอ และเหมาะสมที่จะนำมาใช้ประกอบการเรียนการสอน (X ̅= 4.41, S.D. = 0.67)
ลำดับที่ 2 ด้านประโยชน์ที่ได้รับในระดับมาก (X ̅= 4.45, S.D. = 0.68) โดยมีรายการประเมินย่อยลำดับแรก คือ ด้านการเรียนรู้ตามกระบวนการเรียนการสอนโดยใช้แนวทางบริหารการจัดการและดูแลให้คำปรึกษาฯ ช่วยส่งเสริมให้ครูมีสมรรถนะครูประถมศึกษา (X ̅ = 4.46, S.D. = 0.71) และลำดับสุดท้าย คือ ด้านความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้ตามแนวทางบริหารการจัดการและดูแลให้คำปรึกษาฯ ในภาพรวม (X ̅ = 4.45, S.D. = 0.69)
ลำดับที่ 3 ด้านเนื้อหาในระดับมาก (X ̅ = 4.43, S.D. = 0.57) โดยมีรายการประเมินย่อยลำดับแรก คือ ด้านเนื้อหาครบถ้วนตามคำอธิบายรายวิชา สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายรายวิชาและการส่งเสริมสมรรถนะครูประถมศึกษา (X ̅= 4.48, S.D. = 0.59) และลำดับสุดท้าย คือ ด้านเนื้อหาเป็นปัจจุบันและนำไปใช้ได้จริง (X ̅ = 4.39, S.D. = 0.58)
ลำดับที่ 4 ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนในระดับมาก (X ̅ = 4.42, S.D. = 0.64) โดยมีรายการประเมินย่อยลำดับแรก คือ ด้านสื่อและวัสดุอุปกรณ์ที่ให้ความรู้และฝึกปฏิบัติมีความทันสมัย (X ̅ = 4.51, S.D. = 0.60) และลำดับสุดท้าย คือ ด้านการได้รับการโค้ชและให้คำปรึกษา