ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้แบบผสมผสาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการจัดทำโครงการวิชาชีพ ในรายวิชาการวิจัยเบื้องต้น สำหรับนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล

ผู้วิจัย นายทัศพล ลุสีดา ครูชำนาญการพิเศษ แผนกวิชาสามัญสัมพันธ์

วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทศบาลเมืองหนอหนองคาย

ปีที่ทำการวิจัย 2564

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎี การเรียนรู้แบบผสมผสาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการจัดทำโครงการวิชาชีพ ในรายวิชาการวิจัยเบื้องต้น สำหรับนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล 2) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน การดำเนินงานวิจัยมีขั้นตอน ดังนี้ขั้นตอนที่ 1 การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้แบบผสมผสาน โดยการสังเคราะห์รูปแบบการเรียนการสอนที่สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ขั้นตอนที่ 2 การทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษานักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 19 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม(Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) คู่มือการเขียนรายงานวิจัย ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบ t-test dependent

ผลการวิจัย พบว่า

1. รูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้แบบผสมผสานมีองค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอน ได้แก่ 1) ทฤษฏี/หลักการ/แนวคิดของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบ ประกอบด้วย 7 ขั้น คือ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นแจ้งวัตถุประสงค์ของบทเรียน ขั้นทบทวนความรู้เดิม ขั้นนำเสนอความรู้ใหม่ ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้/สะท้อนผลการเรียนรู้/สรุปผลการเรียนรู้ ขั้นประเมินผล และขั้นนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ 4) การวัดและประเมินผล

2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักศึกษาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) นักเรียนมีความคงทนในการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนการสอนระดับมากที่สุด ( = 4.62, S.D = 0.59)

คำสำคัญ : รูปแบบการเรียนการสอน, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, ความสามารถในการคิดวิเคราะห์,

ความคงทนในการเรียนรู้วิชาการวิจัยเบื้องต้น

เว็บน่าสนใจ