ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย มีวัตถุประสงค์ 4 ประการ ดังนี้ (1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย(2) เพื่อศึกษารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย(3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคายและ (4) เพื่อประเมินผลรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคายแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐานได้แก่ (1) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (2) หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (3) เอกสารเกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฎี หลักการ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการจัดการบริหารแบบมีส่วนร่วม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน (4) ผู้บริหาร จำนวน 2 คน (5) ครูที่ปฏิบัติหน้าที่การสอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 20 คน จากการเลือกแบบเจาะจง (6) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 12 คน จากการเลือกแบบเจาะจง โดยให้คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ไม่ใช่ผู้บริหารและครู (7) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 120 คน กรอบการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมด้วยวิธีการเชิงระบบประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ประกอบด้วยขั้นตอนที่ 1 การวิจัย (Research : R1) เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : A) การศึกษาศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Development : D1) เป็นการออกแบบและพัฒนา (Design and Development : D and D) สร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ขั้นตอนที่ 3 การวิจัย (Research : R2) เป็นการนำไปใช้ (Implement : I) การศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคายและขั้นตอนที่ 4 การพัฒนา (Development : D2) เป็นการประเมินและปรับปรุง (Evaluation : E) การประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบประเมินความสามารถในการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน แบบประเมินพฤติกรรมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัย พบว่า

1. ข้อมูลพื้นฐานในการสร้างและการพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคายพบว่าในการจัดกิจกรรมตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่จะส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนทั้ง 8 ด้าน ประกอบด้วย (1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ (2) ซื่อสัตย์สุจริต (3) ความมีวินัย (4) ใฝ่เรียนรู้ (5) อยู่อย่างพอเพียง (6) มุ่งมั่นในการทำงาน (7) รักความเป็นไทย และ (8) จิตสาธารณะ จำเป็นต้องใช้กระบวนการสร้างความร่วมมือกันของผู้บังคับบัญชากับสมาชิกในองค์การในการคิด และตัดสินใจ ร่วมกันวางแผน ร่วมมือปฏิบัติงาน ร่วมมือในการรับผลประโยชน์ การติดตาม ประเมินผลโดยการแบ่งอำนาจหน้าที่ของบังคับบัญชาให้ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนำพาองค์กรไปสู่ เป้าหมายที่วางไว้ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

2. รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคายที่เรียกว่า “CADAB Model” กระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วม 5 ขั้นตอน คือ (1) การร่วมการคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ (Critical Thinking: A) (2) การร่วมตระหนัก (Awareness: A) (3) การร่วมตัดสินใจ (Decision Making: D) (4) การร่วมดำเนินการ (Acting: A) และ (5) การร่วมรับผลประโยชน์ (Benefits: B) พบว่าผลการตรวจสอบความสมเหตุ สมผลเชิงทฤษฎี ความเป็นไปได้และความสอดคล้อง อยู่ระหว่าง 0.80-1.00 ซึ่งเป็นค่าแสดงหลักฐานของความเหมาะสม และความสอดคล้อง ทั้งนี้ในทุกประเด็นมีค่าดัชนีความสอดคล้องตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถนำไปใช้ได้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย พบว่า (1) ความสามารถของครูในการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน หลังใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย โดยภาพรวมพบว่า ครูมีความสามารถในการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน อยู่ในระดับสูง (2) ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน หลังใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ทุกด้าน ทุกข้ออยู่ในระดับคุณภาพ ดี และโดยภาพรวมก็อยู่ในระดับคุณภาพ ดี เช่นเดียวกัน และ(3) ความพึงพอใจของผู้บริหาร ครู และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคายอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ฐิติวรดา จันทำมา : [18 ก.พ. 2565 เวลา 08:06 น.]
อ่าน [862] ไอพี : 1.2.229.63
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,457 ครั้ง
สายตาสั้น
สายตาสั้น

เปิดอ่าน 10,447 ครั้ง
หนังสือ 108 คำถาม พนักงานราชการ 2
หนังสือ 108 คำถาม พนักงานราชการ 2

เปิดอ่าน 1,416 ครั้ง
เตือน!กลโกงคนใกล้ตัว ระวังเซ็นเอกสารอาจเสียทรัพย์ เป็นหนี้หมดตัว
เตือน!กลโกงคนใกล้ตัว ระวังเซ็นเอกสารอาจเสียทรัพย์ เป็นหนี้หมดตัว

เปิดอ่าน 67,591 ครั้ง
ทำไมจึงไม่ควรให้ผู้ไม่มีใบประกอบอาชีพครูมีสิทธิสอบครูได้ : โดย รศ.ดร.สมาน อัศวภูมิ
ทำไมจึงไม่ควรให้ผู้ไม่มีใบประกอบอาชีพครูมีสิทธิสอบครูได้ : โดย รศ.ดร.สมาน อัศวภูมิ

เปิดอ่าน 14,708 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 46 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
จดหมายฉบับที่ 46 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 20,153 ครั้ง
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"

เปิดอ่าน 24,323 ครั้ง
เหตุผลที่ต้องซื้อ "กล้องดิจิตอล"
เหตุผลที่ต้องซื้อ "กล้องดิจิตอล"

เปิดอ่าน 23,953 ครั้ง
การตัดแต่งต้นไม้
การตัดแต่งต้นไม้

เปิดอ่าน 10,245 ครั้ง
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏

เปิดอ่าน 59,608 ครั้ง
เด็กเก่ง "อุดรพิทยานุกูล" สอบติดมหาลัยยกชั้น 5 ห้องรวด เรียนแพทย์ 44 คน
เด็กเก่ง "อุดรพิทยานุกูล" สอบติดมหาลัยยกชั้น 5 ห้องรวด เรียนแพทย์ 44 คน

เปิดอ่าน 8,594 ครั้ง
กำหนดมาตรฐานใหม่เครื่องชาร์จ ครอบจักรวาล ใช้ได้ทุกยี่ห้อ
กำหนดมาตรฐานใหม่เครื่องชาร์จ ครอบจักรวาล ใช้ได้ทุกยี่ห้อ

เปิดอ่าน 15,631 ครั้ง
5 สมุนไพรเพื่อวัยสูงอายุ
5 สมุนไพรเพื่อวัยสูงอายุ

เปิดอ่าน 54,125 ครั้ง
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา

เปิดอ่าน 12,101 ครั้ง
"มัสมั่น"ของไทยคว้าแชมป์จานอร่อยจาก 50 อันดับเมนูเด็ดทั่วโลก
"มัสมั่น"ของไทยคว้าแชมป์จานอร่อยจาก 50 อันดับเมนูเด็ดทั่วโลก

เปิดอ่าน 9,547 ครั้ง
หลากหลายวิธี ช่วยให้อารมณ์ดีทันตาเห็น
หลากหลายวิธี ช่วยให้อารมณ์ดีทันตาเห็น

เปิดอ่าน 8,830 ครั้ง
ทำไมคนเราถึงฝัน
ทำไมคนเราถึงฝัน
เปิดอ่าน 74,076 ครั้ง
อำนาจหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด
อำนาจหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด
เปิดอ่าน 11,168 ครั้ง
อาหารเพิ่มน้ำหนักลูก
อาหารเพิ่มน้ำหนักลูก
เปิดอ่าน 20,126 ครั้ง
พบดาวฤกษ์ดวงใหม่ สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 10 ล้านเท่า
พบดาวฤกษ์ดวงใหม่ สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 10 ล้านเท่า
เปิดอ่าน 26,601 ครั้ง
4 วิธีบังคับให้ตัวเองออมเงินได้จริง
4 วิธีบังคับให้ตัวเองออมเงินได้จริง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
Koi360
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ