ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตามขั้นตอนของโพลยาร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง บัญญัติไตรยางศ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนของโพลยาร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง บัญญัติไตรยางศ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง บัญญัติไตรยางศ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยนักเรียนจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป 3) เพื่อศึกษาทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง บัญญัติไตรยางศ์ ของนักเรียนที่ผ่านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตามขั้นตอนของโพลยาร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง บัญญัติไตรยางศ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตามขั้นตอนของโพลยาร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง บัญญัติไตรยางศ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 40 คน ใช้รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวงจรปฏิบัติ 3 วงจร เครื่องมือที่ใช้การในวิจัยแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ ได้แก่แผนการจัดการเรียนรู้ ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตามขั้นตอนของโพลยาร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง บัญญัติไตรยางศ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 12 แผน แต่ละแผนใช้เวลาสอน 1 ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบบันทึกผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม การจัดการเรียนรู้ของครู แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน แบบฝึกทักษะ แบบสัมภาษณ์ผู้เรียนและแบบทดสอบท้ายวงจร 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ ได้แก่แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง บทประยุกต์ เป็นแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ แบบทดสอบวัดทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เป็นอัตนัยจำนวน 2 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสรุปความเรียง

ผลการวิจัยพบว่า

1. พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนของโพลยาร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง บัญญัติไตรยางศ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีขั้นตอนในการจัดกิจกรรม 5 ขั้น ดังนี้ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน เป็นการสร้างความสนใจให้นักเรียนเกิดความสนใจใฝ่เรียนรู้ โดยใช้เกมหรือสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อการเตรียมความพร้อมนักเรียน ในขั้นนี้จะแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบและทบทวนความรู้เดิม เพื่อให้เชื่อมโยงกับความรู้ใหม่ที่จะเรียนต่อไป 2) ขั้นพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา ผู้สอนนำเสนอบทเรียนหรือเนื้อหาใหม่ และเสนอกระบวนการที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตามแนวขั้นตอนโพลยา ประกอบด้วยขั้นตอนย่อยได้แก่ ขั้นที่ 1 การทําความเข้าใจปัญหา (Understanding the problem) เป็นการคิด(Think) โดยครูกระตุ้นความคิดของนักเรียน ด้วยการป้อนคําถามหรือสังเกตการณ์นักเรียนควรใช้เวลาคิดสักครู่เพื่อที่จะใช้ความคิดเกี่ยวกับคําถามซึ่งใช้ร่วมกับขั้นตอนของโพลยา ขั้นแรกคือ การทําความเข้าใจปัญหา เป็นการมองไปที่ตัวปัญหาโดยพิจารณาว่าโจทย์ถามอะไรโจทย์กําหนดอะไรมาให้บ้าง ขั้นที่ 2 การวางแผนการแก้ปัญหา (Devising a plan) เป็นขั้นตอนที่จะต้องพิจารณาว่าจะแก้ปัญหาด้วยวิธีใด จะแก้ปัญหาอย่างไร โดยใช้ความร่วมมือโดยการจับคู่ (Pair) ใช้การจับคู่กันตามที่กําหนดให้ เช่น จับคู่กับเพื่อนที่นั่งใกล้ ๆ กัน หรือ การจับคู่โดยครูผู้สอนจัดให้นักเรียนกลุ่มเก่งกับกลุ่มอ่อนนักเรียนแต่ละคู่ร่วมกันพูดคุยเกี่ยวกับคําถามที่แต่ละคนหามาได้ แล้วเปรียบเทียบความรู้ที่ได้จากความคิดของแต่ละคนหรือจากบันทึกสั้น ๆ ที่แต่ละคนบันทึกพิจารณาว่าคําถามของฝ่ายไหนที่คิดว่าเป็นคําตอบที่ดีที่สุด น่าเชื่อถือมากที่สุด และมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุด ขั้นที่ 3 การดําเนินการตามแผน (Carrying out the plan) เป็นขั้นตอนที่ลงมือปฏิบัติการตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้ได้คําตอบของปัญหา ขั้นที่ 4 การตรวจสอบ โดยการแลกเปลี่ยนความรู้ (Share) หลังจากที่นักเรียนช่วยกันคิดภายในคู่ของตนเอง ครูจะเรียกนักเรียนแต่ละคู่มาแลกเปลี่ยนความคิดในคู่ของตนกับเพื่อนในห้องเรียนและร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง โดยการตรวจสอบผล (Looking back) เป็นการมองย้อนกลับไปที่ขั้นตอนต่างๆ ที่ผ่านมาเป็นการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ที่ได้ถูกต้องสมบูรณ์ 3) ขั้นสรุป นักเรียนและครูร่วมกันสรุปแนวคิดและหลักการเพื่อเลือกแนวทางและวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด และครูช่วยสรุปเพิ่มเติม ถ้าเห็นว่านักเรียนสรุปได้ไม่ครอบคลุมเนื้อหา 4) ขั้นฝึกทักษะ นักเรียนฝึกทักษะจากบัตรกิจกรรมที่ครูสร้างขึ้นมีสถานการณ์ที่หลากหลาย นักเรียนเลือกแนวคิดที่เหมาะสมเพื่อใช้ในการแก้ปัญหา และสามารถอธิบายวิธีการแก้ปัญหาของตนเองได้ นักเรียนแต่ละคนอาจจะเลือกใช้วิธีการในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันซึ่งการฝึกทักษะจะช่วยให้นักเรียนมีความคงทนในการจำและพัฒนาความคิดอย่างมีเหตุผล 5) ขั้นวัดและประเมินผล เป็นการประเมินความรู้ความเข้าใจในการแก้ปัญหาและวิธีการหาคำตอบของนักเรียนจากการร่วมกิจกรรมจากการปฏิบัติกิจกรรมและการทำแบบฝึกทักษะและตรวจสอบว่านักเรียนได้ผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้

ผลที่ได้จากการสังเกตการณ์จัดกิจกรรมการเรียนรู้พบว่านักเรียนมีโอกาสได้ฝึก การทำงานร่วมกัน มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน กล้าแสดงความคิดเห็น มีความสุข ในการร่วมกิจกรรม มีความสามัคคีมีน้ำใจ มีความรับผิดชอบและความเป็นระเบียบวินัยในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นและมีทัศนคติที่ดีต่อการจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์

2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 77.50 และนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 87.50 ของนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 70 ขึ้นไป

3. นักเรียนมีคะแนนทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ จากแบบทดสอบการวัด

ทักษะการแก้ปัญหา ดังนี้ 1) ขั้นทำความเข้าใจปัญหานักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 81.88 2) ขั้นวางแผนแก้ปัญหา นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 72.50 3) ขั้นดำเนินการแก้ปัญหา นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 73.33 4) ขั้นแสดงการตรวจสอบคำตอบ นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 78.75 และคะแนนเฉลี่ยทั้งชั้นร้อยละ 75.88

4. นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์โดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตามขั้นตอนของโพลยาร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง บัญญัติไตรยางศ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากเท่ากับ 4.36 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.72

โพสต์โดย นุช : [19 ก.พ. 2565 เวลา 08:19 น.]
อ่าน [1783] ไอพี : 124.122.19.102
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 56,174 ครั้ง
20 คุณลักษณะของครูที่เด็กต้องการ
20 คุณลักษณะของครูที่เด็กต้องการ

เปิดอ่าน 30,573 ครั้ง
เข้าทางใครบางคนแน่ๆ นักวิจัยเผย "มนุษย์ชอบทำห้องรก" ยิ่งวางของเกะกะยิ่งฉลาด
เข้าทางใครบางคนแน่ๆ นักวิจัยเผย "มนุษย์ชอบทำห้องรก" ยิ่งวางของเกะกะยิ่งฉลาด

เปิดอ่าน 12,334 ครั้ง
ซึ้งมาก! บัณฑิตจุฬาฯ ก้มกราบพ่อพนง.ขับรถเก็บขยะทั้งชุดครุย พร้อมเล่าเรื่องประทับใจ
ซึ้งมาก! บัณฑิตจุฬาฯ ก้มกราบพ่อพนง.ขับรถเก็บขยะทั้งชุดครุย พร้อมเล่าเรื่องประทับใจ

เปิดอ่าน 140,110 ครั้ง
ตุ๊กตา "เฟอร์บี้" คืออะไร ทำไมมีราคาแพงและเป็นที่นิยมนัก
ตุ๊กตา "เฟอร์บี้" คืออะไร ทำไมมีราคาแพงและเป็นที่นิยมนัก

เปิดอ่าน 1,722 ครั้ง
ประโยชน์ของโหระพา
ประโยชน์ของโหระพา

เปิดอ่าน 291,581 ครั้ง
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่

เปิดอ่าน 43,498 ครั้ง
เผยแพร่เอกสารและคลิปสาธิตเทคนิคการคิดเลขเร็วแบบอินเดีย (เวทคณิต)
เผยแพร่เอกสารและคลิปสาธิตเทคนิคการคิดเลขเร็วแบบอินเดีย (เวทคณิต)

เปิดอ่าน 20,978 ครั้ง
"ท่าออกกำลัง" ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
"ท่าออกกำลัง" ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน

เปิดอ่าน 19,778 ครั้ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง

เปิดอ่าน 9,293 ครั้ง
ฤดูฝน กับยางของท่าน
ฤดูฝน กับยางของท่าน

เปิดอ่าน 3,471 ครั้ง
น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาต่างกันอย่างไร
น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาต่างกันอย่างไร

เปิดอ่าน 9,862 ครั้ง
สิ่งที่ลูกได้จากน้ำนมแม่
สิ่งที่ลูกได้จากน้ำนมแม่

เปิดอ่าน 12,379 ครั้ง
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!

เปิดอ่าน 28,322 ครั้ง
สรุปสูตรการเลื่อนแกนทางขนาน
สรุปสูตรการเลื่อนแกนทางขนาน

เปิดอ่าน 28,037 ครั้ง
พุทธธรรมสำหรับการพัฒนาชีวิตครู
พุทธธรรมสำหรับการพัฒนาชีวิตครู

เปิดอ่าน 32,280 ครั้ง
มาตรฐานห้องสมุดและตัวบ่งชี้ เพื่อพัฒนาห้องสมุดโรงเรียน สังกัด สพฐ.
มาตรฐานห้องสมุดและตัวบ่งชี้ เพื่อพัฒนาห้องสมุดโรงเรียน สังกัด สพฐ.
เปิดอ่าน 10,747 ครั้ง
วิธีแก้ง่วง....เวลาทำงาน ได้ผล 100%
วิธีแก้ง่วง....เวลาทำงาน ได้ผล 100%
เปิดอ่าน 12,873 ครั้ง
คลิปการทำให้เสื้อที่ซักเรียบเหมือนรีด ด้วยน้ำแข็งเพียง 3ก้อน
คลิปการทำให้เสื้อที่ซักเรียบเหมือนรีด ด้วยน้ำแข็งเพียง 3ก้อน
เปิดอ่าน 13,009 ครั้ง
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ
เปิดอ่าน 11,129 ครั้ง
แก้ปัญหา รักแร้ดำ
แก้ปัญหา รักแร้ดำ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ