ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยใช้บริบทของท้องถิ่นอำเภอพิบูลมังสาหาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร

โดยใช้บริบทของท้องถิ่นอำเภอพิบูลมังสาหาร

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย นายเสนาะ คำเสียง

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

สถานศึกษา โรงเรียนพิบูลมังสาหาร สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี กรมส่งเสริมการ

ปกครองท้องถิ่น

ปีที่จัดทำ 2563

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับปัญหาและความต้องการจำเป็นในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) พัฒนารูปแบบการที่เน้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยใช้บริบทของท้องถิ่นอำเภอพิบูลมังสาหาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยใช้บริบทของท้องถิ่นอำเภอพิบูลมังสาหาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) ประเมินผล/ปรับปรุงรูปแบบการสอน ที่เน้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยใช้บริบทของท้องถิ่นอำเภอพิบูลมังสาหาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยการวิจัยครั้งนี้ได้ทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 40 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเน้นงานปฏิบัติ 2) แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 3) แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐานเพื่อการจัดการเรียนรู้ 4) แบบสัมภาษณ์ครูผู้สอนเพื่อรวบรวมแนวคิดในการจัดกิจกรรมรูปแบบการสอน 5) แบบทดสอบวัดความสามารถทางการพูดและเกณฑ์ประเมินการพูด และ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนที่เน้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ค่า t-test แบบ Dependent Samples และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1) ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน มีผู้ตอบแบบสอบถามเป็นนักเรียนหญิงมากกว่านักเรียนชาย นักเรียนได้ผลการเรียน 2.5 มากที่สุดเมื่อเรียนจบอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และได้ผลการเรียน 3.5 น้อยที่สุด โดยทั่วไปนักเรียนต้องการที่จะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้านการพูดมากที่สุด ในขณะที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้านการเขียนน้อยที่สุด นักเรียนชอบรูปแบบในการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารมากที่สุด สำหรับวิธีสอนแบบอภิปรายมีค่าร้อยละน้อยที่สุด นักเรียนต้องการเรียนจากตัวอย่างข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยมากที่สุด มีความชอบโครงสร้างไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ และการเขียนสรุปบทเพลงน้อยที่สุด นักเรียนต้องการเรียนด้วยสื่อชุดฝึกเสริมทักษะมากที่สุด และต้องการเรียนด้วยหนังสือเล่มเล็กน้อยที่สุด นักเรียนรู้สึกชอบและภาคภูมิใจในกิจกรรมการทำงานกลุ่มมากที่สุด ในขณะที่ชอบการร่วมแสดงบทบาทสมมติน้อยที่สุด จากการสัมภาษณ์ครูผู้มีประสบการณ์ในด้านการจัดการเรียนการสอนภาษา อังกฤษ สรุปความได้สอดคล้องกันว่า นักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 มีปัญหาการเรียนวิชาภาษาอังกฤษในทักษะการเขียนค่อนข้างสูง โดยนักเรียนบางคนขาดความรู้ความเข้าใจในวิชาภาษอังกฤษมาตั้งแต่ระดับประถมศึกษา ทำให้เกิดความท้อแท้และเบื่อหน่ายในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเรื่อยมา รวมถึงตัวนักเรียนขาดความขยันหมั่นเพียรในการท่องศัพท์ การจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพโดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนแต่ละคนสามารถทำงานกลุ่มร่วมกัน พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ส่งเสริมผู้เรียนให้สามารถฝึกเขียนได้อย่างสะดวกสบายซึ่งเป็นการจัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

2) ผลการพัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยใช้บริบทของท้องถิ่นอำเภอพิบูลมังสาหาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ได้รูปแบบกิจกรรมที่พัฒนาขึ้นมาโดยรูปแบบมีองค์ประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการกิจกรรม สิ่งที่เสริมการเรียนรู้ได้แก่ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน สำหรับกระบวนการจัดกิจกรรมรูปแบบการสอนที่เน้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยใช้บริบทของท้องถิ่นอำเภอพิบูลมังสาหาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีขั้นตอนดังนี้ 1) ขั้นสังเกตและรวบรวมข้อมูล (Gathering) 2) ขั้นวิเคราะห์และสรุปความรู้ (Processing) 3) ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังปฏิบัติ (Applying : A1) 4) ขั้นสื่อสารและนำเสนอ (Applying : A2) 5) ขั้นประเมินผลและแสดงผลงาน (Authentic Assessment Stage) ผลการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน มีความคิดเห็นต่อรูปแบบการสอนโดยรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด ( = 4.54, S.D.= 0.56) และผลการพัฒนารูปแบบการสอนมีประสิทธิภาพ E1/E2 = 80.32/81.83

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยใช้บริบทของท้องถิ่นอำเภอพิบูลมังสาหาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่านักเรียนมีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียน ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมเป็นอย่างดี นำเสนอผลงานเป็นที่น่าพอใจ และความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมิน/ปรับปรุงรูปแบบการสอนที่เน้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยใช้บริบทของท้องถิ่นอำเภอพิบูลมังสาหาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนที่เน้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยใช้บริบทของท้องถิ่นอำเภอพิบูลมังสาหาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และจากการปรับปรุงรูปแบบการสอนตามข้อคิดเห็นของนักเรียน เพื่อนครู และข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญทำให้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยใช้บริบทของท้องถิ่นอำเภอพิบูลมังสาหาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความสมบูรณ์และนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

โพสต์โดย ครูเสนาะ : [22 ก.พ. 2565 เวลา 20:03 น.]
อ่าน [1726] ไอพี : 223.205.241.29
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 8,889 ครั้ง
H1N1...ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
H1N1...ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

เปิดอ่าน 8,479 ครั้ง
ข้อสอบเด็กไทย...ปัญหาใหญ่ที่ต้องมอง
ข้อสอบเด็กไทย...ปัญหาใหญ่ที่ต้องมอง

เปิดอ่าน 16,016 ครั้ง
ไม่น่าเชื่อ! คลิปอาคารโรงเรียนบ้านพะเด๊ะ อ.แม่สอด จ.ตาก พังถล่มทั้งหลัง
ไม่น่าเชื่อ! คลิปอาคารโรงเรียนบ้านพะเด๊ะ อ.แม่สอด จ.ตาก พังถล่มทั้งหลัง

เปิดอ่าน 10,218 ครั้ง
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..

เปิดอ่าน 23,012 ครั้ง
ชมคลิป สำนักงาน ก.พ. ชี้แจงปรับเงินเดือนข้าราชการ 4% เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2558
ชมคลิป สำนักงาน ก.พ. ชี้แจงปรับเงินเดือนข้าราชการ 4% เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2558

เปิดอ่าน 11,563 ครั้ง
กระบวนการในการใช้หนังสือเพื่อการพัฒนาเด็กวัย 0-3 ปี
กระบวนการในการใช้หนังสือเพื่อการพัฒนาเด็กวัย 0-3 ปี

เปิดอ่าน 30,613 ครั้ง
10 อาชีพเสี่ยงตกงาน “สูง”!!!
10 อาชีพเสี่ยงตกงาน “สูง”!!!

เปิดอ่าน 18,285 ครั้ง
5 สุดยอดผักผลไม้ กินแล้วไม่แก่!
5 สุดยอดผักผลไม้ กินแล้วไม่แก่!

เปิดอ่าน 48,643 ครั้ง
ฟุตปาธ-บาทวิถี : ภาษาไทยน่ารู้
ฟุตปาธ-บาทวิถี : ภาษาไทยน่ารู้

เปิดอ่าน 9,120 ครั้ง
โรคภูมิแพ้ที่กิดจากอาหาร
โรคภูมิแพ้ที่กิดจากอาหาร

เปิดอ่าน 16,511 ครั้ง
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 2,944 ครั้ง
"ใส่ซองเท่าไหร่ดี" ปัญหานี้มีตัวช่วย TypeThai เครื่องช่วยคำนวณเงินใส่ซองให้เหมาะสมกับงานและฐานะตัวเอง
"ใส่ซองเท่าไหร่ดี" ปัญหานี้มีตัวช่วย TypeThai เครื่องช่วยคำนวณเงินใส่ซองให้เหมาะสมกับงานและฐานะตัวเอง

เปิดอ่าน 31,361 ครั้ง
ล้างพิษตับ ขับสารพิษ...เทรนด์สุขภาพสุดฮิต พ.ศ. นี้
ล้างพิษตับ ขับสารพิษ...เทรนด์สุขภาพสุดฮิต พ.ศ. นี้

เปิดอ่าน 35,198 ครั้ง
1 กรกฎาคม วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ
1 กรกฎาคม วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ

เปิดอ่าน 30,153 ครั้ง
รู้แล้ว สโตนเฮนจ์ มีไว้ทำไม
รู้แล้ว สโตนเฮนจ์ มีไว้ทำไม

เปิดอ่าน 30,360 ครั้ง
8 วิธีสุดฮิต พิชิตความรวยบนโลกออนไลน์
8 วิธีสุดฮิต พิชิตความรวยบนโลกออนไลน์
เปิดอ่าน 51,860 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 13 การเตะโทษ
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 13 การเตะโทษ
เปิดอ่าน 17,192 ครั้ง
ต้นไม้อะไรเหมาะกับ วันเกิดของคุณ
ต้นไม้อะไรเหมาะกับ วันเกิดของคุณ
เปิดอ่าน 25,142 ครั้ง
ชมย้อนหลัง แมทช์ประวัติศาตร์! น้องเมย์ล้มมือ1 คว้าแชมป์โลก ที่อายุน้อยที่สุด
ชมย้อนหลัง แมทช์ประวัติศาตร์! น้องเมย์ล้มมือ1 คว้าแชมป์โลก ที่อายุน้อยที่สุด
เปิดอ่าน 37,607 ครั้ง
5คำแนะนำป้องกันครูจากการเป็นหนี้
5คำแนะนำป้องกันครูจากการเป็นหนี้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ