Advertisement
สงสัยกันมาตั้งนานว่า บรรพบุรุษของคนบนดินแดนอังกฤษสร้างสโตนเฮนจ์ขึ้นมาทำไม ในที่สุด ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงและดนตรีจากมหาวิทยาลัยฮัดเดอร์ฟิลด์ค้นพบว่า แท่งหินมหึมาที่ตั้งตระหง่านเป็นวงกลมเหนือเนินดินสามารถสะท้อนเสียงได้อย่างวิเศษ
อย่างที่หลายคนพอรู้มาบ้างแล้วว่า สโตนเฮนจ์เป็นชุมนุมของผู้ศรัทธาทางศาสนาพิธีกรรมในสมัยก่อน เมื่อมาถึงแล้วก็ชักชวนกันร้องเพลงสวดสไตล์แซมบ้า และเจ้าแท่งหินขนาดใหญ่กลุ่มนี้สามารถสะท้อนเสียงเพลงสวดได้ดีเสียด้วยซิ เหมาะที่จะนั่งล้อมวงฟังมนตราแพร่พลังจิต
อันดับแรก รูเพิร์ต ทิล นักวิจัยชาวอังกฤษและเพื่อนร่วมทีมใช้คอมพิวเตอร์จำลองคาดการณ์รูปแบบของเสียงสะท้อน ด้วยอยากรู้ว่าถ้าสโตนเฮนจ์ยังคงสมบูรณ์แบบเหมือน 5,000 ปีที่แล้ว มันจะสะท้อนเสียงได้อย่างที่คิดหรือเปล่า แต่หากจะทดลองกับสภาพของสโตนเฮนจ์ในปัจจุบันซึ่งพังลงมาบางส่วนอาจทำให้การทดลองคลาดเคลื่อนได้
สุดท้ายเลยชวนกันเดินทางไปเยือนสโตนเฮนจ์จำลองขนาดเท่าของจริงที่เมย์ฮิลล์ กรุงวอชิงตัน ซึ่งจำลองไว้เป็นอนุสรณ์สงคราม และปรับปรุงให้หินทุกก้อนวางเรียงกันในสภาพสมบูรณ์ น่าจะช่วยให้ผลทดสอบด้านเสียงสมบูรณ์แบบกว่า
ทีมวิจัยใช้ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเปรียบเทียบกับผลที่ได้จากการใช้คอมพิวเตอร์จำลองแบบ และการทดสอบกับแบบจำลองสโตนเฮนจ์ จนได้เสียงตัวอย่างที่คาดว่าน่าจะสะท้อนมาจากกลุ่มหิน เสียงสะท้อนที่ได้เหมือนจะบอกเป็นนัยว่า สถานที่แห่งนี้ต้องมีดนตรีบรรเลง นักวิจัยคาดว่าดนตรีที่เล่นกันบริเวณสโตนเฮนจ์คงเป็นเพลงที่มีจังหวะธรรมดาซ้ำๆ และให้สะท้อนก้องอยู่ในบริเวณนั้น
"จังหวะที่เล่นน่าจะเป็นจังหวะ 160 เคาะต่อนาที ค่อนข้างเร็ว มันน่าสนใจที่พวกเขาใช้เพลงจังหวะเร็วเหมือนแซมบ้าสำหรับเพลงสวด ถือเป็นจังหวะเร็วที่สุดสำหรับดนตรี และยังเป็นจังหวะเร็วที่สุดของการเต้นของหัวใจ เหมือนกับคนที่ออกกำลังกายมาอย่างหนัก หรือเต้นรำส่ายสะบัดเต็มที่" ทิล กล่าว
นักโบราณคดีทุ่มเถียงกันมานานแล้วว่า สโตนเฮนจ์ สถานที่ก่อนประวัติศาสตร์ยุคหินใหม่และยุคทองแดง ถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดมุ่งหมายใดกันแน่ สุดท้ายเหลือสองทฤษฎีหลักที่เข้าเค้ามากที่สุด ทฤษฎีแรกคือใช้เป็นสถานที่รักษา อีกทฤษฎีเชื่อว่าเป็นที่เผาศพ ทั้งสองทฤษฎีล้วนเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทั้งสิ้น และพิธีกรรมส่วนใหญ่มักมีดนตรีประกอบเสมอ
เสกวัตถุลอยตัวด้วยควอนตัมฟิสิกส์
ไม่ใช่มายากลของเดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ แต่นักวิทยาศาสตร์สหรัฐพบวิธีบังคับวัตถุขนาดเล็กให้ "ลอยตัว" โดยอาศัยแรงมหัศจรรย์ของกลศาสตร์ควอนตัม และอาจเป็นกลวิธีนำมาใช้สร้างเครื่องจักรกลระดับนาโน
ทีมวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติในสหรัฐ ศึกษาแรงที่กระทำในระดับโมเลกุล โดยนำโมเลกุลที่ออกแรงผลักกันมาประกอบกัน แรงผลักที่เกิดขึ้นทำให้วัตถุลอยตัว และทำให้ชิ้นส่วนอุปกรณ์จิ๋วเคลื่อนไหวโดยปราศจากแรงเสียดสีอย่างสิ้นเชิง
เฟเดอริโก คาปัสโซ นักฟิสิกส์ประยุกต์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แมสซาชูเซตส์ ตีพิมพ์งานวิจัยลงวารสารเนเจอร์ฉบับล่าสุด เชื่อว่า การค้นหาแรงรูปแบบดังกล่าว เปิดทางให้การพัฒนาอุปกรณ์จิ๋วชนิดใหม่
แม้ว่าทีมวิจัยยังไม่ได้ลงมือทดลองยกวัตถุลอยตัวให้เห็น อย่างน้อยตอนนี้พวกเขาก็ทราบวิธีปฏิบัติ และมั่นใจว่าสำเร็จแน่นอน การค้นพบดังกล่าวได้ยื่นจดสิทธิบัตรแล้ว
"หากลดแรงเสียดสีที่เกิดจากการเคลื่อนไหว และลดการสึกหรอของชิ้นส่วนได้ มันจะเป็นเทคนิคใหม่ซึ่งว่ากันตามทฤษฎีแล้ว จะช่วยปรับปรุงการทำงานของเครื่องจักรกลขนาดเล็กระดับไมครอน หรือเล็กระดับโมเลกุลด้วยซ้ำ" ดร.ฮวน อเล็กซานเดอร์ จากสถาบันสุขภาพเด็กและมนุษย์ สังกัดสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นไอเอช) กล่าว
เทคโนโลยีกลศาสตร์นาโนถูกจับตามองว่า เป็นเทคโนโลยีช่วยปรับปรุงงานวิจัยด้านการแพทย์ และสาขาอื่น การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของโมเลกุล และการนำโมเลกุลมาประกอบกันเป็นพื้นฐานของการประดิษฐ์เครื่องจักรกลจิ๋ว เพื่อใช้งานด้านการผ่าตัด การผลิตอาหารและเชื้อเพลิง ตลอดจนยังช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานประมวลผลรวดเร็วขึ้น
เบื้องหลังการค้นพบดังกล่าว เกี่ยวข้องกับความรู้ด้าน "กลศาสตร์ฟิสิกส์" หรือกฎเกณฑ์ที่ควบคุมพฤติกรรมของอนุภาคขนาดเล็กที่สุดของสสาร
การค้นพบล่าสุดเป็นงานวิจัยต่อเนื่องจากสมัยที่คาปัสโซ เป็นรองประธานการวิจัยด้านฟิสิกส์ที่เบลล์แล็บ หน่วยวิจัยของบริษัท ลูเซนท์ เทคโนโลยี ซึ่งหลังจากควบรวมกิจการเปลี่ยนชื่อเป็น อัลคาเทล-ลูเซนท์
"มันเริ่มจากที่ผมลองคิดดูว่า จะเอาแรงในทฤษฎีกลศาสตร์ควอนตัมที่น่าทึ่ง มาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร" คาปัสโซ กล่าว
ก่อนหน้านั้น เบลล์แล็บพยายามหาวิธีพัฒนาอุปกรณ์ชนิดใหม่ที่เรียกว่า เครื่องจักรจุลอิเล็กทรอนิกส์ หรือปัจจุบันรู้จักกันในวงการว่า "เมมส์" (MEMS) เป็นเทคโนโลยีที่ปรากฏอยู่ในเซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยของรถยนต์ เพื่อวัดระดับการลดความเร็วที่ผิดปกติของรถ ซึ่งอาจเกิดจากการชน เมมส์ยังใช้ประโยชน์ด้านอื่นอีกมากมาย เช่น เซ็นเซอร์วัดแรงดันโลหิตเส้นเลือดหัวใจ
เขารู้ดีว่า อุปกรณ์ในอนาคตจะมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ จนอาจตกอยู่ในสภาพที่เรียกว่า "แรงคาสซิเมียร์" เป็นแรงดึงดูดที่เกิดขึ้นเมื่อพื้นผิวโลหะขนาดเล็กสัมผัสกันใกล้ชิดมาก จนทำให้ชิ้นส่วนเคลื่อนไหวขยับไม่ได้ ต่อมา ทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียพบว่า แรงดึงดูดที่เกิดขึ้นอาจพลิกกลับให้เป็นแรงผลักได้ หากนำสสารบางอย่างมาผสมเข้ากัน
ในการทดลอง คาปัสโซและทีมงาน จุ่มลูกโลหะชุบทองลงในของเหลวชนิดหนึ่ง และวัดแรงกระทำที่เกิดขึ้นขณะที่ลูกโลหะเริ่มดูดกับแผ่นโลหะที่เตรียมไว้ แต่เมื่อวางกับแผ่นซิลิก้ากลับผลักออก ซึ่งเขามีแผนทดลองทำให้ลูกโลหะลอยตัวไว้แล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก คม ชัด ลึก
Advertisement
![สารปรุงแต่งอาหารและสารพิษในอาหาร สารปรุงแต่งอาหารและสารพิษในอาหาร](news_pic/p99688290943.jpg) เปิดอ่าน 244,935 ครั้ง ![ไขมันในร่างกาย ไขมันในร่างกาย](news_pic/p14237550111.jpg) เปิดอ่าน 1,068 ครั้ง ![การสื่อสารของแมลง : การเต้นรำของผึ้ง การสื่อสารของแมลง : การเต้นรำของผึ้ง](news_pic/p12442870917.jpg) เปิดอ่าน 18,523 ครั้ง ![ประโยชน์ของดวงอาทิตย์ ประโยชน์ของดวงอาทิตย์](news_pic/p90044720540.jpg) เปิดอ่าน 44,368 ครั้ง ![โครงสร้างอะตอม โครงสร้างอะตอม](news_pic/p24725520819.jpg) เปิดอ่าน 5,979 ครั้ง ![ไส้เดือนดิน ไส้เดือนดิน](news_pic/p39739211258.jpg) เปิดอ่าน 12,821 ครั้ง ![เคยเห็นมั๊ย? มดมหัศจรรย์พันธุ์ เก็บน้ำหวานจนท้องกลมป่อง เป็นเสบียงให้ฝูง เคยเห็นมั๊ย? มดมหัศจรรย์พันธุ์ เก็บน้ำหวานจนท้องกลมป่อง เป็นเสบียงให้ฝูง](news_pic/p29444381111.jpg) เปิดอ่าน 16,974 ครั้ง ![หนอนคืบ หนอนคืบ](news_pic/p83650820921.jpg) เปิดอ่าน 13,117 ครั้ง ![ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง](news_pic/p77555470654.jpg) เปิดอ่าน 16,346 ครั้ง ![IAUประกาศ 106 ชื่อดาวเคราะห์น้อยล่าสุด หนึ่งในนั้นมีชื่อคนไทย IAUประกาศ 106 ชื่อดาวเคราะห์น้อยล่าสุด หนึ่งในนั้นมีชื่อคนไทย](news_pic/p11075890731.jpg) เปิดอ่าน 10,594 ครั้ง ![รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ](news_pic/p37052690956.jpg) เปิดอ่าน 24,551 ครั้ง ![แผ่นดินไหว แผ่นดินไหว](news_pic/p38730880934.jpg) เปิดอ่าน 14,569 ครั้ง ![ก้อนอะไรกลมๆ บนดาวอังคาร? ก้อนอะไรกลมๆ บนดาวอังคาร?](news_pic/p35778721657.jpg) เปิดอ่าน 24,061 ครั้ง ![ปะการัง ปะการัง](news_pic/p26943951026.jpg) เปิดอ่าน 16,086 ครั้ง ![กล้องโทรทรรศน์โซเฟียค้นพบหลุมดำ 11 หลุมในอวกาศ กล้องโทรทรรศน์โซเฟียค้นพบหลุมดำ 11 หลุมในอวกาศ](news_pic/p82484890832.jpg) เปิดอ่าน 15,399 ครั้ง ![มข.ค้นพบยีสต์สายพันธุ์ใหม่ แบ่งตัวเร็ว ผลิตเอทานอลสูง มข.ค้นพบยีสต์สายพันธุ์ใหม่ แบ่งตัวเร็ว ผลิตเอทานอลสูง](news_pic/p31148110637.jpg) เปิดอ่าน 12,642 ครั้ง
|
![ระบบสุริยะอาจสูญสลาย! เมื่อนักดาราศาสตร์พบปรากฏการณ์ "ดาวมรณะ" กลืนดาวบริวาร ระบบสุริยะอาจสูญสลาย! เมื่อนักดาราศาสตร์พบปรากฏการณ์ "ดาวมรณะ" กลืนดาวบริวาร](news_pic/p46038270606.jpg)
เปิดอ่าน 14,835 ☕ คลิกอ่านเลย |
![ที่สุดของดาราศาสตร์ ที่สุดของดาราศาสตร์](news_pic/p86757040950.jpg)
เปิดอ่าน 16,142 ☕ คลิกอ่านเลย | ![อวกาศมีกลิ่นเหมือนอะไร? อวกาศมีกลิ่นเหมือนอะไร?](news_pic/p45304860201.jpg)
เปิดอ่าน 24,467 ☕ คลิกอ่านเลย | ![พืชที่ใช้ทำกระดาษ พืชที่ใช้ทำกระดาษ](news_pic/p19137161155.jpg)
เปิดอ่าน 61,802 ☕ คลิกอ่านเลย | ![เสริมการเรียนรู้วิทย์ คณิต ด้วย Project 14 ตรงตามหลักสูตร ตัวช่วยคุณครู ทบทวนความรู้เข้าใจง่าย เสริมการเรียนรู้วิทย์ คณิต ด้วย Project 14 ตรงตามหลักสูตร ตัวช่วยคุณครู ทบทวนความรู้เข้าใจง่าย](news_pic/p60309840534.jpg)
เปิดอ่าน 3,558 ☕ คลิกอ่านเลย | ![ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับทองคำ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับทองคำ](news_pic/p32524492133.jpg)
เปิดอ่าน 40,183 ☕ คลิกอ่านเลย | ![การวัดปริมาณน้ำฝน การวัดปริมาณน้ำฝน](news_pic/p28838030839.jpg)
เปิดอ่าน 31,115 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ ![การสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์ การสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์](news_pic/p57840331035.jpg)
เปิดอ่าน 34,884 ครั้ง | ![ความหมายของมัลติมีเดีย ความหมายของมัลติมีเดีย](news_pic/p63269311146.jpg)
เปิดอ่าน 22,226 ครั้ง | ![สมุนไพรช่วยลดความดัน สมุนไพรช่วยลดความดัน](news_pic/p78506541241.jpg)
เปิดอ่าน 11,946 ครั้ง | ![เคาน์เตอร์ต้อนรับในโรงเรียน มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด เคาน์เตอร์ต้อนรับในโรงเรียน มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด](news_pic/p77210340403.jpg)
เปิดอ่าน 17,958 ครั้ง | ![7 ขั้นตอนก้าวเปลี่ยนชีวิตสู่ความสำเร็จในอาชีพการงาน 7 ขั้นตอนก้าวเปลี่ยนชีวิตสู่ความสำเร็จในอาชีพการงาน](news_pic/p50858310742.jpg)
เปิดอ่าน 12,767 ครั้ง |
|
|