ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านยายไท สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1

รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านยายไท ปีการศึกษา 2564 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินบริบท เกี่ยวกับความต้องการ ความจำเป็น ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ และความชัดเจนของเป้าหมายของโครงการ 2) ประเมินปัจจัยนำเข้า เกี่ยวกับความเหมาะสมของงบประมาณ ความรู้ความเข้าใจของครู และความเหมาะสมของกิจกรรมในการดำเนินโครงการ 3) ประเมินกระบวนการ เกี่ยวกับการวางแผน การดำเนินการ และการนิเทศติดตามและประเมินผลของโครงการ 4) ประเมินผลผลิต เกี่ยวกับความพึงพอใจของนักเรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย ครู จำนวน 7 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 7 คน นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 จำนวน 33 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 63 คน รวมทั้งสิ้น 110 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินคือ แบบประเมินความคิดเห็น จำนวน 5 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ การหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) การหาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) และการหาค่าอำนาจจำแนก (r) เป็นการวิเคราะห์เพื่อหาคุณภาพของเครื่องมือ ส่วนสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย (x̄) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการประเมินและข้อเสนอแนะ สรุปได้ดังนี้

ผลการประเมินโครงการ พบว่า

จากการประเมินโครงการส่งเสริมพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านยายไท สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 สรุปผลการวิจัย ได้ดังนี้

1. ผลการประเมินด้านบริบท โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.46, S.D. = .62) เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดและรายข้อพบว่า ตัวชี้วัดและข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ตัวชี้วัดที่ 2 ความจำเป็นของโครงการ ข้อ 5 เป้าหมายของโครงการก่อให้เกิดประโยชน์ต่อนักเรียนและผู้ปกครอง อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.71, S.D. = .47) รองลงมา คือ ตัวชี้วัดที่ 3 ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ ข้อ 8 เพื่อจัดโครงการ/กิจกรรม เพื่อส่งเสริมพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ตามบริบทของโรงเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.64, S.D. = .50) ส่วนตัวชี้วัดและข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ตัวชี้วัดที่ 1 ความต้องการของโครงการ ข้อ 2 มีการศึกษาสภาพปัญหาและศักยภาพของโรงเรียนเพื่อจัดทำระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.21, S.D. = .70)

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.50, S.D. = .63) เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดและรายข้อพบว่า ตัวชี้วัดและข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ตัวชี้วัดที่ 2 ความรู้ความเข้าใจของครู ข้อ 10 ครูใช้แบบประเมินพฤติกรรมเด็ก (SDQ) กับนักเรียนทุกคน อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.86, S.D. = .36) รองลงมา คือ ตัวชี้วัดที่ 3 ความเหมาะสมของกิจกรรม ข้อ 14 มีกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อสนับสนุนให้นักเรียนทุกคนมีคุณภาพมากขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.79, S.D. = .58) ส่วนตัวชี้วัดและข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ตัวชี้วัดที่ 1 ความเหมาะสมของงบประมาณ ข้อ 2 โรงเรียนจัดสรรงบประมาณทั่วถึงทุกกิจกรรม อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.21, S.D. = .80)

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.53, S.D. = .57) เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดและรายข้อพบว่า ตัวชี้วัดและข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ตัวชี้วัดที่ 1 การวางแผน ข้อ 1 มีการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้รับผิดชอบการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.86, S.D. = .36) รองลงมา คือ ตัวชี้วัดที่ 2 การดำเนินการ ข้อ 9 ครูมีการเยี่ยมบ้านนักเรียนอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.79, S.D. = .43) ส่วนตัวชี้วัดและข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ตัวชี้วัดที่ 3 การนิเทศติดตามและประเมินผล ข้อ 17 มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างครู และผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.21, S.D. = .70)

4. ผลการประเมินด้านผลผลิต โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.52, S.D. = .53) และเมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมิน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ตัวชี้วัดความพึงพอใจของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̄ = 4.53, S.D. = .51) รองลงมาคือ ตัวชี้วัดความพึงพอใจของครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน (x̄ = 4.51, S.D. = .54)

5. ผลการประเมินโครงการส่งเสริมพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านยายไท โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.50, S.D. = .59) เรียงลำดับคะแนนเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านกระบวนการ อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.53, S.D. = .57) ด้านผลผลิต อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.52, S.D. = .53) ด้านปัจจัยนำเข้า อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.50, S.D. = .63) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านบริบท อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.46, S.D. = .62)

โพสต์โดย บิ๊ว : [24 เม.ย. 2565 เวลา 14:05 น.]
อ่าน [100891] ไอพี : 1.0.166.230
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 40,423 ครั้ง
การใช้ลายมือชื่อผู้รับเงินด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในใบเสร็จฯในการเบิกเงินสวัสดิการการศึกษาบุตร
การใช้ลายมือชื่อผู้รับเงินด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในใบเสร็จฯในการเบิกเงินสวัสดิการการศึกษาบุตร

เปิดอ่าน 6,571 ครั้ง
สูตรคำนวณการหาคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์(GainScore) สำหรับการทำวิจัย : กิติศักดิ์ ดีพื้น โรงเรียนสุนทรภู่พิทยา จังหวัดระยอง
สูตรคำนวณการหาคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์(GainScore) สำหรับการทำวิจัย : กิติศักดิ์ ดีพื้น โรงเรียนสุนทรภู่พิทยา จังหวัดระยอง

เปิดอ่าน 17,607 ครั้ง
ปรับสมดุลโต๊ะทำงาน ตามราศี
ปรับสมดุลโต๊ะทำงาน ตามราศี

เปิดอ่าน 111,009 ครั้ง
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ศตวรรษที่ ๒๑ : ไทยแลนด์ ๔.o
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ศตวรรษที่ ๒๑ : ไทยแลนด์ ๔.o

เปิดอ่าน 11,038 ครั้ง
นโยบายการศึกษามาจากไหน-ทำไมถึงไม่สำเร็จ
นโยบายการศึกษามาจากไหน-ทำไมถึงไม่สำเร็จ

เปิดอ่าน 12,184 ครั้ง
10 วิธีง่ายๆ ห่างไกลไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่
10 วิธีง่ายๆ ห่างไกลไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่

เปิดอ่าน 40,761 ครั้ง
เถียงนาน้อย
เถียงนาน้อย

เปิดอ่าน 25,986 ครั้ง
อาหารยอดนิยมในอาเซียน (ลาว)
อาหารยอดนิยมในอาเซียน (ลาว)

เปิดอ่าน 14,652 ครั้ง
กิน "ผัก" เหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร?
กิน "ผัก" เหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร?

เปิดอ่าน 24,385 ครั้ง
กฎของก๊าซ (THE GAS LAWS)
กฎของก๊าซ (THE GAS LAWS)

เปิดอ่าน 24,499 ครั้ง
หมอเตือนอย่ากิน"แมลงทอด"กับ"เหล้า-เบียร์"
หมอเตือนอย่ากิน"แมลงทอด"กับ"เหล้า-เบียร์"

เปิดอ่าน 10,344 ครั้ง
ประวัติความเป็นมา วันแม่
ประวัติความเป็นมา วันแม่

เปิดอ่าน 16,152 ครั้ง
เมื่อฝรั่งขับรถเจอด่านตำรวจ จะเป็นยังไง ?
เมื่อฝรั่งขับรถเจอด่านตำรวจ จะเป็นยังไง ?

เปิดอ่าน 5,543 ครั้ง
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

เปิดอ่าน 16,998 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2553
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2553

เปิดอ่าน 12,352 ครั้ง
วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา
เปิดอ่าน 12,279 ครั้ง
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เกิดจากกรรมพันธุ์มากถึง 3 เท่า
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เกิดจากกรรมพันธุ์มากถึง 3 เท่า
เปิดอ่าน 16,221 ครั้ง
"ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือครู" ปาถกฐาพิเศษ รศ.นราพร จันทร์โอชา เรื่องการศึกษาทางไกลเพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม
"ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือครู" ปาถกฐาพิเศษ รศ.นราพร จันทร์โอชา เรื่องการศึกษาทางไกลเพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม
เปิดอ่าน 22,620 ครั้ง
PHP Multi Elearning II
PHP Multi Elearning II
เปิดอ่าน 33,722 ครั้ง
คำศัพท์คุ้นหูที่แปลว่า "ครู" เหมือนกัน แต่ใช้ไม่เหมือนกัน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
คำศัพท์คุ้นหูที่แปลว่า "ครู" เหมือนกัน แต่ใช้ไม่เหมือนกัน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ