ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาการอ่านสู่การเขียนด้วยกิจกรรมเข้าจังหวะและสมุดมีชีวิต สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑

ชื่องานวิจัย การพัฒนาทักษะการอ่านสู่การเขียนด้วยกิจกรรมเข้าจังหวะและสมุดมีชีวิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑

ชื่อผู้วิจัย นางสาวชนากานต์ เรืองอินทร์

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย

การอ่านและการเขียนถือเป็นทักษะเบื้องต้นสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ในการปลูกฝังให้นักเรียนสามารถอ่านและเขียนได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากหากนักเรียนสามารถอ่านและเขียนได้อย่างถูกต้องตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ นั้น จะส่งผลให้นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะทางด้านอื่น ๆ และเรียนรู้ส่งต่าง ๆ รอบตัว ได้ง่ายขึ้น ทักษะการอ่านและการเขียนจะต้องพัฒนาอยู่อย่างสม่ำเสมอและมีความต่อเนื่อง เพื่อให้ทักษะดังกล่าวนั้นพัฒนาต่อไปจนเกิดเป็นความชำนาญจนอ่านและเขียนได้คล่อง

การจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาให้แก่ผู้เรียนให้บรรลุวัตถุประสงค์นั้น จะต้องมีการเตรียมความพร้อมและวางแผนเป็นอย่างดี โดยหาเทคนิคและวิธีการที่นักเรียนสนใจ และทันสมัย ทั้งยังเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และเข้ากับสถานการณ์ เพื่อเป็นการฝึกฝนให้กับนักเรียน ครูผู้สอนจึงได้นำเอาเทคนิคกิจกรรมเข้าจังหวะ และสมุดมีชีวิตมาใช้ในการพัฒนาการอ่านและการเขียน

ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสนุกและรักในการเรียนวิชาภาษาไทย เพื่อพัฒนาการทักษะอ่าน และการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านหยีในสามัคคี ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ โดยใช้นักเรียนจำนวนทั้งหมด ๑๒ คน โดยใช้กิจกรรมเข้าจังหวะและสมุดมีชีวิตในการจัดการเรียนรู้ และได้จัดทำบทอ่าน และใบงานสมุดมีชีวิตขึ้น โดยบันทึกคะแนนหลังจากจัดการเรียนการสอนด้วยการทดสอบการอ่าน และบันทึกคะแนนใบงานสมุดมีชีวิต รวมถึงการสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว

ผลการศึกษาครั้งนี้ ปรากฏว่าการพัฒนาการอ่านสู่การเขียนด้วยกิจกรรมเข้าจังหวะและสมุดชีวิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ นักเรียนมีผลการประเมินความพึงพอใจกับการจัดการเรียนการสอนด้วยกิจกรรมเข้าจังหวะและสมุดมีชีวิต อยู่ในระดับดีมาก คิดเป็นร้อยละ ๙๑.๖๖ นักเรียนมีผลการอ่านบทอ่านจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยกิจกรรมเข้าจังหวะ คิดเป็นร้อยละ ๘๓.๒๕ และนักเรียนมีผลคะแนนจากการทำใบงานในสมุดมีชีวิตหลังจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยกิจกรรมเข้าจังหวะ คิดเป็นร้อยละ ๙๒.๐๐

ข้อเสนอแนะจากการทำวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านสู่การเขียนด้วยกิจกรรมเข้าจังหวะและสมุดมีชีวิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ปกครองในการช่วยฝึกฝน และพัฒนาการอ่านการเขียนอย่างต่อเนื่องจึงจะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์การแพร่เชื้อระบาดของไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ทำให้โรงเรียนมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย แต่การจัดการเรียนการสอนด้วยกิจกรรมเข้าจังหวะ และสมุดมีชีวิตนั้น สามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเรียนการสอนแบบใดก็ตาม

โพสต์โดย ชนากานต์ เรืองอินทร์ : [13 พ.ค. 2565 เวลา 08:14 น.]
อ่าน [1699] ไอพี : 1.47.141.154
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 33,643 ครั้ง
ครูอุดรไอเดียแหวกสุดฮา ชวนเต้นยอดวิวเป็นแสน!
ครูอุดรไอเดียแหวกสุดฮา ชวนเต้นยอดวิวเป็นแสน!

เปิดอ่าน 24,292 ครั้ง
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ

เปิดอ่าน 10,412 ครั้ง
ขาดเกลืออาจทำให้เป็นโรคซึมเศร้าได้
ขาดเกลืออาจทำให้เป็นโรคซึมเศร้าได้

เปิดอ่าน 22,545 ครั้ง
แชร์ประสบการณ์หัดพูด อังกฤษ ฉบับ Advance ได้ผลจริง
แชร์ประสบการณ์หัดพูด อังกฤษ ฉบับ Advance ได้ผลจริง

เปิดอ่าน 20,406 ครั้ง
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"

เปิดอ่าน 30,867 ครั้ง
การวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝน

เปิดอ่าน 21,937 ครั้ง
มดใช้อะไรดมกลิ่น
มดใช้อะไรดมกลิ่น

เปิดอ่าน 10,796 ครั้ง
The Six Math Problem และวิธีหาคำตอบ ชมที่นี่
The Six Math Problem และวิธีหาคำตอบ ชมที่นี่

เปิดอ่าน 19,095 ครั้ง
 หลักเกณฑ์การย้าย ผอ.ร.ร.50
หลักเกณฑ์การย้าย ผอ.ร.ร.50

เปิดอ่าน 15,674 ครั้ง
ปลูกผักหวานป่าในพื้นที่ราบ
ปลูกผักหวานป่าในพื้นที่ราบ

เปิดอ่าน 12,163 ครั้ง
"แอพฟรี"สูบแบตเตอรี่กว่าแอพเสียเงินจริงหรือ?
"แอพฟรี"สูบแบตเตอรี่กว่าแอพเสียเงินจริงหรือ?

เปิดอ่าน 352,452 ครั้ง
ครุ ลหุ เอก โท
ครุ ลหุ เอก โท

เปิดอ่าน 4,166 ครั้ง
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

เปิดอ่าน 21,911 ครั้ง
ความหมายของมัลติมีเดีย
ความหมายของมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 18,164 ครั้ง
เริ่มแล้ว! กล้องไฮเทค จับผิด 30 แยกทั่วกรุงเทพฯ
เริ่มแล้ว! กล้องไฮเทค จับผิด 30 แยกทั่วกรุงเทพฯ

เปิดอ่าน 29,295 ครั้ง
การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อการศึกษาคุณภาพ : ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย
การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อการศึกษาคุณภาพ : ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย
เปิดอ่าน 37,960 ครั้ง
รักษาฝ้าให้หายขาดได้หรือไม่? ครีมรักษาฝ้าให้หายขาดมีจริงไหม? เราหาคำตอบมาให้แล้ว!
รักษาฝ้าให้หายขาดได้หรือไม่? ครีมรักษาฝ้าให้หายขาดมีจริงไหม? เราหาคำตอบมาให้แล้ว!
เปิดอ่าน 17,246 ครั้ง
"แก่นตะวัน" สมุนไพรที่คนไทยควรรู้จักพืชเพื่อสุขภาพ-เป็นพลังงานทดแทน
"แก่นตะวัน" สมุนไพรที่คนไทยควรรู้จักพืชเพื่อสุขภาพ-เป็นพลังงานทดแทน
เปิดอ่าน 28,989 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2553
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2553
เปิดอ่าน 95,892 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal):  กติกาข้อ 8  ระยะเวลาของการแข่งขัน
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 8 ระยะเวลาของการแข่งขัน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ