ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การประเมินโครงการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม โดยใช้รูปแบบ CIPPiest โรงเรียนอุดรธานีพิทยาคม ปีการศึกษา 2561

การประเมินโครงการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม โดยใช้รูปแบบ CIPPiest โรงเรียนอุดรธานีพิทยาคม ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อประเมินโครงการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม โรงเรียนอุดรธานีพิทยาคม ปีการศึกษา 2561 ในด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้าน ผลผลิต องค์ประกอบย่อยด้านผลกระทบ องค์ประกอบย่อยด้านประสิทธิผล องค์ประกอบย่อยด้าน ความยั่งยืน และองค์ประกอบย่อยด้านการถ่ายโยงความรู้ และ 2) เพื่อศึกษาสภาพประกอบปัญหา และแนวทางการพัฒนาปรับปรุงโครงการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม โรงเรียนอุดรธานีพิทยาคม อย่าง ต่อเนื่องและยั่งยืน ผู้รายงานใช้วิธีการประเมินของ Danial L. Stufflebeam รูปแบบการประเมินแบบ CIPPiest (CIPPiest Model) เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสอบถามความคิดเห็นและการสัมภาษณ์ความ คิดเห็นผู้เกี่ยวข้องกับโครงการ 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้บริหารและผู้ดำเนินงานโครงการ ประกอบด้วยผู้บริหาร สถานศึกษา จำนวน 1 คน คณะกรรมการอำนวยการโครงการ จำนวน 5 คน ครูและบุคลากร จำนวน 29 คน กลุ่มผู้ร่วมโครงการ ประกอบด้วย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ปีการศึกษา 2561 จำนวน

154 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 154 คน และการ ตรวจสอบเอกสารโครงการ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และ แบบตรวจเอกสาร การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติ คือ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (µ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน () และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการประเมินโครงการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม โรงเรียนอุดรธานีพิทยาคม ปีการศึกษา 2561 โดยภาพรวม พบว่า ครูและบุคลากร นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน ผู้บริหารสถานศึกษา และคณะกรรมการอำนวยการโครงการ มีความคิดเห็นว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก

2. ผลการประเมินด้านบริบท (Context) โดยภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมในระดับ มาก โดยผลการประเมินของครูและบุคลากร นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน มีความคิดเห็นว่ามีความ เหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลมีความคิดเห็นสอดคล้องกัน ทั้ง 3 กลุ่ม กล่าวคือ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดของครูและบุคลากร นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน ได้แก่

วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคลองกับนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด ปรับใช้ในการอนุรักษ์และพัฒนา สิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวันเหมาะสมในการนำไปปฏิบัติได้จริง และสอดคลองกับความต้องการของ ผู้ปกครอง และสังคม

3. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) โดยภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมในระดับ มาก โดยผลการประเมินของครูและบุคลากร และนักเรียน มีความคิดเห็นว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดของทั้ง 2 กลุ่ม คือบุคลากรผู้รับผิดชอบโครงการมี ความรู้ความสามารถเหมาะสม

4. ผลการประเมินด้านกระบวนการ (Process) โดยภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสม ในระดับมาก โดยผลการประเมินของครูและบุคลากร และนักเรียน มีความคิดเห็นว่ามีความเหมาะสม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดของทั้ง 2 กลุ่ม คือ มีการนำหลักสูตร สถานศึกษาพอเพียง/อีโคสคูล ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้

5. ผลการประเมินด้านผลผลิต (Products) องค์ประกอบย่อยด้านผลกระทบ (Impact) โดยภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมาก โดยผลการประเมินของครูและบุคลากร นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน มีความคิดเห็นว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดของทั้ง 3 กลุ่ม คือ สถานศึกษามีชื่อเสียงจากการเป็นต้นแบบแหล่งเรียนรู้

6. ผลการประเมินด้านผลผลิต (Products) องค์ ประกอบย่อยด้านประสิทธิผล (Effectiveness) โดยภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมาก โดยผลการประเมินของครูและ บุคลากร มีความคิดเห็นว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ย สูงสุด คือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) และผู้เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา มีความพึงพอใจในการ ดำเนินงาน/กิจกรรม/โครงการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม

7. ผลการประเมินด้านผลผลิต (Products) องค์ประกอบย่อยด้านความยั่งยืน (Sustainability) โดยภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมาก โดยผลการประเมินของครูและบุคลากร และผู้ปกครองนักเรียน มีความคิดเห็นว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดของทั้ง 2 กลุ่ม คือ ฐานการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และนักเรียนนำความ รูที่ได้จากการเรียนการสอน การร่วมกิจกรรมโครงการ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างหมาะสม ตามลำดับ

8. ผลการประเมินด้านผลผลิต (Products) องค์ประกอบย่อยด้านการถ่ายโยงความรู้

(Transportability) โดยภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมาก โดยผลการประเมินของครูและบุคลากร และผู้ปกครองนักเรียน มีความคิดเห็นว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดของทั้ง 2 กลุ่ม คือ สถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบการจัดการสิ่งแวดล้อมยั่งยืน

สามารถถ่ายทอดความรู้ แนวคิด เกิดประโยชน์กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่มาศึกษาดูงาน และผู้ปกครองร่วมกับ นักเรียน นำหลักการของโครงการสู่การปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวันเป็นกิจวัตร ตามลำดับ

ผลการศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนาปรับปรุง โครงการอนุรักษ์และพัฒนา สิ่งแวดล้อม โรงเรียนอุดรธานีพิทยาคม ปีการศึกษา 2561 พบว่า มีปัญหาและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ดังนี้

1. ด้านบริบท พบว่า ข้อมูลปัญหา ความต้องการของผู้ปกครองไม่เป็นปัจจุบัน เห็นควรให้ ดำเนินการสำรวจข้อมูล ปัญหา ความต้องการของผู้เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาทุกปีการศึกษา

2. ด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า งบประมาณของโครงการไม่เพียงพอ ควรเพิ่มงบประมาณของ โครงการ รวมทั้ง สื่อ วัสดุ และอุปกรณ์ในการดำเนินงาน และเสนอโครงการเข้าแผนงานของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 เพื่อขอการสนับสนุนงบประมาณจากต้นสังกัด

3. ด้านกระบวนการ พบว่า เวลาในการทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมมีน้อย คุณครูควรนำ หลักสูตรอีโคสคูล มาบูรณาการเรื่องสิ่งแวดล้อมเข้ากับการจัดการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระให้มากขึ้น

4. ด้านผลผลิต พบว่า นักเรียนบางคนขาดความรับผิดชอบเรื่อง แก้วน้ำ/กล่องข้าว/ถุงผ้า ส่วนตัวและไม่ดูแลรักษา อุปกรณ์เครื่องเขียน หนังสือ สมุดของตนเอง คุณครูควรให้ความรู้ คำแนะนำ และเป็นแบบอย่างในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งเข้มงวดและกวดขันการปฏิบัติของนักเรียนอย่างสม่ำเสมอ

5. ด้านผลกระทบ พบว่า ผู้ปกครองบางคนยังไม่ยอมรับ หรือปรับตัวตามมาตรการรักษา สิ่งแวดล้อมของโรงเรียน ควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์ ชี้แจงทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือกับ ผู้ปกครองให้มากขึ้น

6. ด้านประสิทธิผล พบว่า การประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องไม่ชัดเจน ควรจัดประชุมชี้แจง ทำความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้องให้ชัดเจนทุกครั้งก่อนที่จะมีการต้อนรับคณะศึกษาดูงาน

คำสำคัญ : การประเมินโครงการ, อนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม, รูปแบบการประเมินแบบ CIPPiest

(CIPPiest Model)

โพสต์โดย bun5660 : [24 พ.ค. 2565 เวลา 17:26 น.]
อ่าน [62418] ไอพี : 1.47.8.245
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 38,305 ครั้ง
เทคนิค "การต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู"
เทคนิค "การต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู"

เปิดอ่าน 22,546 ครั้ง
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 23,159 ครั้ง
10 สายพันธุ์สุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก
10 สายพันธุ์สุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 20,539 ครั้ง
กล้วยหอม ตัวช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผล
กล้วยหอม ตัวช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผล

เปิดอ่าน 26,256 ครั้ง
แก๊สน้ำตา คืออะไร
แก๊สน้ำตา คืออะไร

เปิดอ่าน 23,040 ครั้ง
ผอมสวยด้วยสมุนไพร..อันตรายที่ควรระวัง
ผอมสวยด้วยสมุนไพร..อันตรายที่ควรระวัง

เปิดอ่าน 7,971 ครั้ง
การกำหนดประเภทของงานตรวจสอบภายใน (กรมบัญชีกลาง 23 ธันวาคม 2563)
การกำหนดประเภทของงานตรวจสอบภายใน (กรมบัญชีกลาง 23 ธันวาคม 2563)

เปิดอ่าน 22,801 ครั้ง
ฟอร์บส์จัดอันดับ 50 อันดับมหาเศรษฐีเมืองไทย ใครติดอันดับปีนี้บ้าง
ฟอร์บส์จัดอันดับ 50 อันดับมหาเศรษฐีเมืองไทย ใครติดอันดับปีนี้บ้าง

เปิดอ่าน 32,164 ครั้ง
การประเมินผลการเรียนโดยการสัมภาษณ์
การประเมินผลการเรียนโดยการสัมภาษณ์

เปิดอ่าน 13,632 ครั้ง
ทดลองวิทยาศาสตร์ หน้าชั้นเรียน ทำเอารร.แทบไหม้
ทดลองวิทยาศาสตร์ หน้าชั้นเรียน ทำเอารร.แทบไหม้

เปิดอ่าน 8,345 ครั้ง
คนคือความท้าทาย
คนคือความท้าทาย

เปิดอ่าน 15,248 ครั้ง
นวดกดจุดบนใบหน้า ทางเลือกแก้นอนไม่หลับในผู้สูงอายุ
นวดกดจุดบนใบหน้า ทางเลือกแก้นอนไม่หลับในผู้สูงอายุ

เปิดอ่าน 12,313 ครั้ง
หน้าใสด้วยสมุนไพร - สูตรผสมจากว่านหางจระเข้
หน้าใสด้วยสมุนไพร - สูตรผสมจากว่านหางจระเข้

เปิดอ่าน 310,436 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาลบาดแผลจากสัตว์มีพิษกัดต่อย
วิธีปฐมพยาบาลบาดแผลจากสัตว์มีพิษกัดต่อย

เปิดอ่าน 79,399 ครั้ง
ประติมากรรม
ประติมากรรม

เปิดอ่าน 13,030 ครั้ง
โรคหอบจากอารมณ์...อันตรายที่คาดไม่ถึง
โรคหอบจากอารมณ์...อันตรายที่คาดไม่ถึง
เปิดอ่าน 21,826 ครั้ง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง
เปิดอ่าน 33,049 ครั้ง
พิธีวิวาห์ซาไก
พิธีวิวาห์ซาไก
เปิดอ่าน 26,236 ครั้ง
แห่กดไลค์ ด.ญ.จิตราภา พูดอังกฤษหน้าชั้น ผู้ใหญ่ยังอาย
แห่กดไลค์ ด.ญ.จิตราภา พูดอังกฤษหน้าชั้น ผู้ใหญ่ยังอาย
เปิดอ่าน 23,405 ครั้ง
การแปรผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า
การแปรผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ