ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการสร้างเสริมศักยภาพของนักเรียนโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ว่าที่ร้อยโทศักดิ์ชาย อุปศักดิ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาของการสร้างเสริมศักยภาพของนักเรียนโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เพื่อพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมศักยภาพของนักเรียนโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ แบบมีส่วนร่วม เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสร้างเสริมศักยภาพของนักเรียนโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม และเพื่อประเมิน ความพึงพอใจการใช้รูปแบบการสร้างเสริมศักยภาพของนักเรียนโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม แหล่งข้อมูลประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 10 คน ครูโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี จำนวน 304 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 108 คน ผู้ปกครอง จำนวน 454 คน และนักเรียนโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ปีการศึกษา 2563 จำนวน 454 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และข้อมูล เชิงคุณภาพ โดยการวิเคราะห์เนื้อหา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามสภาพและปัญหาการสร้างเสริมศักยภาพของนักเรียนโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกข้อเสนอแนะประเด็นต่าง ๆ ตามหัวข้อรูปแบบ คู่มือการดำเนินงานตามรูปแบบเพื่อสร้างเสริมศักยภาพนักเรียน แบบบันทึกผลการประชุม เพื่อพิจารณาผลการทดลองใช้รูปแบบเพื่อสร้างเสริมศักยภาพนักเรียน แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมิน ความพึงพอใจจากกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( )

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพและปัญหาของการสร้างเสริมศักยภาพของนักเรียนโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี

1.1 ศึกษาสภาพและปัญหาของการสร้างเสริมศักยภาพของนักเรียน โดยการวิเคราะห์เนื้อหาของเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมศักยภาพนักเรียน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนของนักเรียนอยู่ในเกณฑ์ต่ำในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ด้านศักยภาพของครู ยังขาดสมรรถนะ ในการส่งเสริมการเรียนรู้ ครูไม่ยึดนักเรียนเป็นสำคัญ ส่วนด้านนักเรียนก็มีปัญหาหลายประการ กล่าวคือ กระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนไม่มีประสิทธิภาพ ขาดสื่อการเรียนที่จะส่งผลต่อการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนยังมีน้อยและไม่มีประสิทธิภาพ ขาดทักษะการค้นหาความรู้ขาดความมุ่งมั่นในการประสบความสำเร็จ ขาดทักษะการอ่านและการเขียน

การวิเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่า รูปแบบการสร้างเสริมศักยภาพของนักเรียนโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ได้แก่ 1. การพัฒนาศักยภาพครู 2. การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ 3. การพัฒนาสื่อและแหล่งเรียนรู้ 4. การส่งเสริม การร่วมมือกับชุมชนในการจัดการศึกษา

1.2 ผลการศึกษาสภาพและปัญหาของการสร้างเสริมศักยภาพของนักเรียนโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี พบว่า โรงเรียนมีการส่งเสริมให้ครูจัดกิจกรรมที่ทำให้ผู้เรียนสร้าง องค์ความรู้ ด้วยตนเองอย่างหลากหลายทั้งในและนอกโรงเรียน โรงเรียนมีการสำรวจความต้องการ ความสนใจของผู้เรียน เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนตามความต้องการและเกิดประสิทธิภาพและโรงเรียนสนับสนุนทุกฝ่ายมีส่วนตัดสินใจในการจัดการเรียนรู้แก่นักเรียนและมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันเสมอ ซึ่งแสดงถึงความต้องการของครูในการจัดการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยนักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดทำกิจกรรมและสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง

1.3 ผลการศึกษาสภาพและปัญหาของการสร้างเสริมศักยภาพนักเรียน โดยการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทย พบว่า การปฏิรูปการศึกษายังไม่บรรลุผล โดยสังเกตจากผลที่เกิดกับผู้เรียนยังไม่บรรลุตามมาตรฐานตัวชี้วัดเท่าที่ควร กระบวนการจัดการเรียน การสอนยังไม่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ ไม่สามารถพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษาการใช้ชีวิตยังไม่มี ความพร้อม ไม่สามารถพัฒนาสื่อหรือนำสื่อมาช่วยในการเรียนรู้ของผู้เรียนได้เท่าที่ควร ขาดสื่อ อุปกรณ์การเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ และนักเรียนยังมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนน้อยมาก ครูไม่มีวิธีการสอนที่หลากหลาย ไม่ทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อประสิทธิภาพการเรียนรู้ของนักเรียน

การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับศักยภาพของนักเรียนในปัจจุบันเกี่ยวกับสมรรถนะ ทั้ง 5 ด้าน สรุปได้ว่า นักเรียนขาดสมรรถนะสำคัญหลายประการที่ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในสังคมปัจจุบัน นักเรียนเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีได้รวดเร็วแต่ขาดวิจารณญาณในการคิด ไม่สามารถเลือกเสพข่าวสารหรือข้อมูลที่เหมาะสมได้ จึงทำให้การแสดงออกไม่เหมาะสม ขาดคุณธรรม ขาดความรับผิดชอบในการใช้สื่อเทคโนโลยี วิจารณญาณในการคิด กระบวนการคิดวิเคราะห์ที่ไม่เหมาะสมจึงส่งผลต่อ การปฏิบัติหน้าที่ กาลเทศะ การตัดสินใจในการทำอย่างใดอย่างหนึ่งที่ไม่ถูกต้อง นักเรียนยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาของตนเองได้ด้วยตนเอง ขาดทักษะการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง ไม่สามารถสร้างหรือสังเคราะห์ องค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง

การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการสร้างเสริมศักยภาพนักเรียนอย่างไร สรุปได้ว่านักเรียนทั่วไปสามารถสร้างเสริมศักยภาพได้ตามความเหมาะสม ด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา รวมทั้งความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เสริมสร้างศักยภาพทางด้านกระบวนการคิด ทักษะชีวิต การอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข ความรับผิดชอบต่อตนเอง มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ ใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง ควรนำนักเรียน ได้ศึกษาดูงานนอกสถานที่ที่เหมาะสมและปลูกฝังจิตสำนึกให้นักเรียนมีความประพฤติ ที่ดี มีความนอบน้อมถ่อมตน มีคุณธรรม จริยธรรม ส่งเสริมการอ่าน ส่งเสริมอาชีพตามความถนัด และดนตรี ด้านกีฬา มีการจัดกิจกรรมในโรงเรียนที่เหมาะสม

2. ผลการพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมศักยภาพของนักเรียนโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม พบว่า มีความตรงและ ความเหมาะสมมากโดยประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ ได้แก่ กลยุทธ์ที่ 1 การพัฒนาศักยภาพ กลยุทธ์ที่ 2 การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ กลยุทธ์ที่ 3 การพัฒนาสื่อและแหล่งเรียนรู้ กลยุทธ์ที่ 4 การส่งเสริม การร่วมมือกับชุมชนในการจัดการศึกษา

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสร้างเสริมศักยภาพของนักเรียนโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม สรุปได้ดังนี้

3.1 ผลการพัฒนาศักยภาพครู พบว่า ครูได้รับการพัฒนาตนเองมีการพัฒนาแผนจัดการเรียนรู้ ปรับเปลี่ยนวิธีสอน สามารถออกแบบกิจกรรมได้หลากหลาย สอดคล้องกับสภาพปัจจุบันของโรงเรียนและนักเรียน ครูมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันมากขึ้น ในส่วนของการทำวิจัยในชั้นเรียน ครูมีความกระตือรือร้น สนใจ แสวงหาความรู้ และสามารถทำวิจัยในชั้นเรียนได้ทุกคน

3.2 ผลการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ พบว่า มีผลงานการเรียนรู้ที่หลากหลาย จากการที่นักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง ได้คิด ได้ลงมือปฏิบัติจริง จากการจัดกิจกรรมการจัดการความรู้ ทำให้นักเรียนเป็นนักแสวงหาความรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ทั้งที่เป็นเอกสาร วัสดุ สถานที่ บุคคลซึ่งประกอบด้วยกลุ่มเพื่อน ครู วิทยากร อินเทอร์เน็ต และเป็น ผู้ถ่ายทอดความรู้ตลอดจนเป็นผู้รับรู้ที่ดี

3.3 ผลการพัฒนาสื่อแหล่งเรียนรู้ พบว่า ครูมีการผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนการสอนและ นำสื่อมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มากขึ้น ได้ปรับปรุงและพัฒนาห้องปฏิบัติการต่าง ๆ ให้มี ความสมบูรณ์ ความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาห้องสมุดมีชีวิต ซึ่งมีทรัพยากรสารสนเทศที่หลากหลาย ทั้งด้านเอกสารสิ่งพิมพ์ สามารถให้บริหารได้อย่างทั่วถึง ให้บริการระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยมีเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้บริหารการศึกษาค้นคว้าของนักเรียน ให้เพียงพอด้วยระบบ Wireless LAN และมีการจัดเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับพิมพ์งานและสื่อค้นข้อมูลให้นักเรียนในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์

3.4 ผลการส่งเสริมความร่วมมือกับชุมชนในการจัดการศึกษา พบว่า ชุมชนมีส่วนร่วมใน การจัดการศึกษาของโรงเรียนมากขึ้น ซึ่งทางโรงเรียนได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองภาคเรียนละ 2 ครั้ง เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แก้ไขปัญหาของนักเรียนโดยให้ผู้ปกครองได้พบปะพูดคุยกับครูระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และมีการระดมทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ ในชุมชนมาใช้ในการจัดการศึกษาและเปิดโอกาสใช้ชุมชนได้มีส่วนร่วมใช้ประโยชน์จากอาคารสถานที่ วัสดุอุปกรณ์และบุคลากรของโรงเรียน โรงเรียนมีการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร ข้อมูลแก่ชุมชน อย่างสม่ำเสมอ

3.5 ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางกาเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 สูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 และร้อยละของผลการเรียนเฉลี่ยในทุกรายวิชาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ผ่านเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด

4. ผลการประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสร้างเสริมศักยภาพของนักเรียนโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม พบว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอนนักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย krutang : [30 พ.ค. 2565 เวลา 07:44 น.]
อ่าน [1579] ไอพี : 110.78.166.196
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 6,571 ครั้ง
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร

เปิดอ่าน 14,555 ครั้ง
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา

เปิดอ่าน 49,246 ครั้ง
กรณีตัวอย่างการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ
กรณีตัวอย่างการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ

เปิดอ่าน 19,441 ครั้ง
2012 วันสิ้นโลก จริงหรือ?
2012 วันสิ้นโลก จริงหรือ?

เปิดอ่าน 739 ครั้ง
เบญจศีล
เบญจศีล

เปิดอ่าน 6,394 ครั้ง
"Alprazolam" ไม่ใช่ "ยาเสียสาว" เป็นยานอนหลับ แก้อาการกังวล ง่วงซึม แต่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด
"Alprazolam" ไม่ใช่ "ยาเสียสาว" เป็นยานอนหลับ แก้อาการกังวล ง่วงซึม แต่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด

เปิดอ่าน 8,350 ครั้ง
อังกฤษเตรียมเปลี่ยนชื่อ "บิ๊กเบน" ตามพระนามควีน
อังกฤษเตรียมเปลี่ยนชื่อ "บิ๊กเบน" ตามพระนามควีน

เปิดอ่าน 18,759 ครั้ง
"ยุคนี้ใครๆ ก็อยากเป็นครู" โดย อ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์
"ยุคนี้ใครๆ ก็อยากเป็นครู" โดย อ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์

เปิดอ่าน 24,267 ครั้ง
ฟังกันหรือยัง คลิปยอดฮิต ครูฝึกสอนไฟแรง ร้องหมอลำระบบการศึกษา
ฟังกันหรือยัง คลิปยอดฮิต ครูฝึกสอนไฟแรง ร้องหมอลำระบบการศึกษา

เปิดอ่าน 32,088 ครั้ง
วิธีเซ็นรับรองสำเนาอย่างปลอดภัย
วิธีเซ็นรับรองสำเนาอย่างปลอดภัย

เปิดอ่าน 11,636 ครั้ง
‘หมอธี’ เดินหน้าล้างบาง ‘กระทรวงครู’ ขจัด ‘เหลือบริ้นไร’ วงการศึกษาไทย
‘หมอธี’ เดินหน้าล้างบาง ‘กระทรวงครู’ ขจัด ‘เหลือบริ้นไร’ วงการศึกษาไทย

เปิดอ่าน 35,996 ครั้ง
6 ข้อต้องรู้! รบ.แจงผ่อนปรน นั่งแค็บ-ท้ายกระบะ
6 ข้อต้องรู้! รบ.แจงผ่อนปรน นั่งแค็บ-ท้ายกระบะ

เปิดอ่าน 12,521 ครั้ง
ยากับน้ำผลไม้ อันตรายกว่าที่คิด
ยากับน้ำผลไม้ อันตรายกว่าที่คิด

เปิดอ่าน 14,994 ครั้ง
มอบอำนาจเกี่ยวกับการลาบางกรณีให้ ผอ.สพท.,ผอ.สำนักบริหารงานงานการศึกษาพิเศษ
มอบอำนาจเกี่ยวกับการลาบางกรณีให้ ผอ.สพท.,ผอ.สำนักบริหารงานงานการศึกษาพิเศษ

เปิดอ่าน 10,294 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น

เปิดอ่าน 14,178 ครั้ง
รู้จัก รู้ใช้ ถุงลมนิรภัย
รู้จัก รู้ใช้ ถุงลมนิรภัย
เปิดอ่าน 16,563 ครั้ง
วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยแดงเป็นระเรื่อ แลดูสุขภาพดี
วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยแดงเป็นระเรื่อ แลดูสุขภาพดี
เปิดอ่าน 401,251 ครั้ง
การวิ่งระยะต่าง ๆ (พลศึกษา)
การวิ่งระยะต่าง ๆ (พลศึกษา)
เปิดอ่าน 14,337 ครั้ง
หน้าตา Windows se7en หรือ Windows Vienna
หน้าตา Windows se7en หรือ Windows Vienna
เปิดอ่าน 11,677 ครั้ง
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! ข้อคิดวันตรุษจีน
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! ข้อคิดวันตรุษจีน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ