ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการนิเทศภายในโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน ด้วยกระบวนการ 5 คิด ปีการศึกษา 2564

ชื่อผลงาน รายงานการประเมินโครงการนิเทศภายในโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์

โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน ด้วยกระบวนการ 5 คิด ปีการศึกษา 2564

ผู้รายงาน นางสาวประภาศรี นุ่นเกลี้ยง

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพัทลุง

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2564

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการนิเทศภายใน โรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด ปีการศึกษา 2564 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านบริบทด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการและด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย 1) ระดับคุณภาพการนิเทศภายในโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด ปีการศึกษา 2564 2) ระดับประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนที่ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของครูโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ ปีการศึกษา 2564 3) ความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครองต่อการจัดการเรียนการสอนของครู โรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ ปีการศึกษา 2564 4) ความพึงพอใจของครูที่มีต่อการดำเนินโครงการนิเทศภายในโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด ปีการศึกษา 2564 5) คุณภาพผู้เรียน จำแนกเป็น 5.1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา (GPA) ปีการศึกษา 2564 5.2) ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 5.3) สมรรถนะนักเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 5) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง ครูผู้สอน จำนวน 56 คน กลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน กลุ่มตัวอย่างนักเรียน จำนวน 285 คน และกลุ่มตัวอย่างผู้ปกครอง จำนวน 285 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการ จำนวน 11 ฉบับ มี 2 ลักษณะ ได้แก่ แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 7 ฉบับ ทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.87- 0.95 และแบบบันทีกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง แบบบันทึกผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้น ม.3 และ ม.6 ตามสภาพจริง แบบบันทึกผลการประเมินสมรรถนะนักเรียน ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง แบบบันทึกการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ปีการศึกษา2564 ตามสภาพจริง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ผลการประเมินสรุปได้ดังนี้

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านบริบทของโครงการนิเทศภายในโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่าครูมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( X = 4.59, .D.=-0.13) อยู่ในระดับมากที่สุด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นโดยรวม มีค่าเฉลี่ย ( X = 4.60, S.D. =0.15 อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการนิเทศภายในโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครูมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (X = 4.45, S.D. =0.1 1) ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (X = 4.46, S.D.=0.12) อยู่ในระดับมากเช่นกัน ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านกระบวนการดำเนินโครงการนิเทศภายใน โรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู พบว่า มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ ที่กำหนด มีค่าเฉลี่ย (X = 4.62, S.D.=0.11) อยู่ในระดับมากที่สุด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดแต่ละ ด้านพบว่า ด้านการคิดเชิงรุก มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X = 4.70, S.D.-0.22) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านการคิดประชันความต่างมีค่าเฉลี่ย (X = 4.69, S.D.-0.20) อยู่ในระดับมากที่สุด ด้านคิดให้สนุกอย่างสร้างสรรค์ มีค่าเฉลี่ย ( X = 4.58, S.D. =0.26 อยู่ในระดับมากที่สุด ด้านคิดแนวทางการแข่งขัน มีค่าเฉลี่ย (X = 4.56, S.D. =0.27 อยู่ในระดับมากที่สุด และด้านคิดก้าวย่างเพื่อคุณภาพยั่งยืน มีค่าเฉลี่ย (X = 4.54, S.D.= 0.32 อยู่ในระดับมากที่สุด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ได้แก่

4.1 ระดับคุณภาพการนิเทศภายในโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยคุณภาพ ( X = 4.39, S.D. =0.24 อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า ผู้บริหาร ครูและผู้ที่เกี่ยวข้อง เรียนรู้และร่วมศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการจำเป็นเร่งด่วนของโรงเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( X = 4.85, S.D.=0.35) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศมีส่วนร่วมในการออกแบบกิจกรรมนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด มีค่าเฉลี่ย ( X = 4.54, S.D.=0.71) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การมีส่วนร่วมในการกำหนดข้อตกลงหรือการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศ มีค่าเฉลี่ย ( X = 4.00, S.D.-0.80 อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.2 ระดับประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของครูโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยคุณภาพ ( X = 4.55, S.D.=0.20) อยู่ในระดับมากที่สุด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า การวางแผนและการเตรียมการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X = 4.71, S.D.=0.20) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ การวัดผลและประเมินผล มีค่าเฉลี่ย (X = 4.66, S.D.=0.19) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนรายการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (X = 4.55, S.D.=0.20) อยู่ในระดับมากที่สุด ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.3 ความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครองต่อการจัดการเรียนการสอนของครูโรงเรียนหารเหารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด ปีการศึกษา 2564 พบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีคำเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมเฉลี่ย (X = 4.60, S.D. = 0.1 7 อยู่ในระดับมากที่สุด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ผู้ปกครองมีความพึงพอใจโดยรวมเฉลี่ย ( X = 4.58, S.D.= 0.16) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.4 ความพึงพอใจของครูที่มีต่อโครงการนิเทศภายในโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด ปีการศึกษา 2564 พบว่า โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ย ( X = 4.58, S.D. =0.19) อยู่ในระดับมากที่สุด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า การสนับสนุนให้ครูใช้ภาวะผู้นำหรือการปรับปรุงโรงเรียนและการเพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( X = 4.75, S.D.=0.43) อยู่ในระดับมากที่สุดรองลงมา คือการสนับสนุนให้มีการเชื่อมโยงระบบการทำงานกับเทคโนโลยีเพื่อให้ครูสามารถใช้งานได้ทันความต้องการ มีค่าเฉลี่ย ( X = 4.73, S.D.=0.44) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ การใช้กระบวนการเรียนรู้แบบทีมในการนิเทศภายในโรงเยนโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด มีค่าเฉลี่ย ( X = 4.37, S.D. = 0.72) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.5 คุณภาพผู้เรียน จำแนกเป็น

4.5.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนสถานศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 6 โรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ ปีการศึกษา 2564 โดยภาพรวม พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 มีคะแนนเฉลี่ย GPA ร้อยละ 3.55 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 2 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.5.2 สมรรถนะนักเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง โดยภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับดี,ดีเยี่ยม ร้อยละ 99.45 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 3 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.5.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง โดยภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับดี,ดีเยี่ยม ร้อยละ 98.86 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 3 ผ่านเกณฑ์การประเมิน สรุปผลการประเมินโครงการนิเทศภายในโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด ปีการศึกษา 2564 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบชิปป์ (CIPP Model) มีค่าน้ำหนัก 100 ได้คะแนนเฉลี่ย 98 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. โรงเรียนควรนำผลการประเมินโครงการมาวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางในการพัฒนาโครงการนิทศภายในโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2. ควรจัดให้มีโครงการนิเทศภายในโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิด

ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปีการศึกษา

3. ควรนำผลการประเมินโครงการเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาเพื่อให้ได้รับ การสนับสนุนและเผยแพร่อย่างกว้างขวาง

4. โรงเรียนควรพัฒนานิทศภายในโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ โดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยกระบวนการ 5 คิดอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จนกลายเป็นวิถีของโรงเรียนที่มีความเด่นชัดและมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเองสามารถเป็นแบบอย่างของโรงเรียนอื่นได้

ข้อเสนอแนะในการประเมินโครงการหรือการวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรนำรูปแบบการประเมินโครงการของ CIPP Model ไปปรับใช้กับการประเมินโครงการอื่น ๆ ในโรงเรียน เนื่องจากสารสนทศที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการยกระดับพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนต่อไป

2. ควรมีการประเมินโครงการเชิงสาเหตุเพื่อให้ทราบว่าสาเหตุหรือปัจจัยใดที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จของโครงการ ซึ่งจะทำให้เป็นแนวทางการนำมาปรับปรุงพัฒนาโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

3. ควรมีการประเมินโครงการต่าง ๆ ในระดับหน่วยงานหรือกลุ่มงานย่อยทุกโครงการโดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปปั (CIPP Mode) หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม

โพสต์โดย ไผ่ : [25 ก.ค. 2565 เวลา 10:41 น.]
อ่าน [2119] ไอพี : 61.7.218.94
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,764 ครั้ง
เพราะมาก "ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน" เวอร์ชั่นนักเรียนร้องประสานเสียง
เพราะมาก "ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน" เวอร์ชั่นนักเรียนร้องประสานเสียง

เปิดอ่าน 9,914 ครั้ง
หญิงไทยยังเมินเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทำไอคิวเด็กไทยต่ำ
หญิงไทยยังเมินเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทำไอคิวเด็กไทยต่ำ

เปิดอ่าน 22,932 ครั้ง
"มะรุม" พืชมหัศจรรย์
"มะรุม" พืชมหัศจรรย์

เปิดอ่าน 32,299 ครั้ง
วิธีแก้ปัญหาเสื้อผ้าเหม็นอับ
วิธีแก้ปัญหาเสื้อผ้าเหม็นอับ

เปิดอ่าน 9,741 ครั้ง
หัวเราะฮา ฮ่า เป็นยาวิเศษ!!
หัวเราะฮา ฮ่า เป็นยาวิเศษ!!

เปิดอ่าน 14,606 ครั้ง
8 วิธีถนอมหลังห่างไกลอาการปวด
8 วิธีถนอมหลังห่างไกลอาการปวด

เปิดอ่าน 71,923 ครั้ง
อีโมติคอน อักษรแสดงอารมณ์
อีโมติคอน อักษรแสดงอารมณ์

เปิดอ่าน 9,222 ครั้ง
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

เปิดอ่าน 9,959 ครั้ง
จุฬาฯ ฉลอง อันดับ 138 มหาวิทยาลัย ชั้นนำของโลก
จุฬาฯ ฉลอง อันดับ 138 มหาวิทยาลัย ชั้นนำของโลก

เปิดอ่าน 13,517 ครั้ง
"แพลงกิ้ง" ยิ่งเล่น ยิ่งหน้าแก่!
"แพลงกิ้ง" ยิ่งเล่น ยิ่งหน้าแก่!

เปิดอ่าน 27,623 ครั้ง
ข้อสอบ O-NET รูปแบบอัตนัย ภาษาไทย ป.6 มีจำนวนกี่ข้อ กี่คะแนน และออกเนื้อหาอะไรบ้าง
ข้อสอบ O-NET รูปแบบอัตนัย ภาษาไทย ป.6 มีจำนวนกี่ข้อ กี่คะแนน และออกเนื้อหาอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 260,083 ครั้ง
Pronouns  ( คำสรรพนาม )
Pronouns ( คำสรรพนาม )

เปิดอ่าน 10,062 ครั้ง
จะจำใบหน้าของใครให้ได้แม่นยำ ต้องจ้องคอยดูที่ลูกตา
จะจำใบหน้าของใครให้ได้แม่นยำ ต้องจ้องคอยดูที่ลูกตา

เปิดอ่าน 20,235 ครั้ง
เกณฑ์สอบผู้บริหารสถานศึกษา ปี 2555 (ว22-ว23)
เกณฑ์สอบผู้บริหารสถานศึกษา ปี 2555 (ว22-ว23)

เปิดอ่าน 9,596 ครั้ง
ไอ้หยา!ด.ญ.ร้องพิธีเปิดโอลิมปิกก็ลวง
ไอ้หยา!ด.ญ.ร้องพิธีเปิดโอลิมปิกก็ลวง

เปิดอ่าน 11,421 ครั้ง
"สับปะรด" ลดริ้วรอยบนใบหน้า
"สับปะรด" ลดริ้วรอยบนใบหน้า
เปิดอ่าน 16,373 ครั้ง
วิธีเช็คไฟฟ้าแบบง่าย ๆ
วิธีเช็คไฟฟ้าแบบง่าย ๆ
เปิดอ่าน 10,597 ครั้ง
ชำแหละ "แชร์ลูกโซ่" ธุรกิจหลอกฟันเงิน
ชำแหละ "แชร์ลูกโซ่" ธุรกิจหลอกฟันเงิน
เปิดอ่าน 56,901 ครั้ง
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น
เปิดอ่าน 49,806 ครั้ง
ศัพท์บัญญัติการศึกษา
ศัพท์บัญญัติการศึกษา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ