|
Advertisement
|
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันในการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางสะตีมศึกษา (STEAM Education) ของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 2) พัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษา (STEAM Education) สำหรับครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ด้วยกระบวนการนิเทศแบบโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษาแนะนำ (Coaching and Mentoring) และ3) ศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่มีต่อการพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษา (STEAM Education) ด้วยกระบวนการนิเทศแบบโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษาแนะนำ (Coaching and Mentoring) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น อำเภอบางกระทุ่ม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 จำนวน 5 โรงเรียน (กำหนดให้โรงเรียนละ 2 คน คือ ครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ และครูผู้สอนวิทยาการคำนวณ) ปีการศึกษา 2/2564 และต้นปีการศึกษา 1/2565 รวมทั้งสิ้น 10 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ 1) แบบสอบถามเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษา (STEAM Education) ของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 2) แบบประเมินความสามารถการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษา (STEAM Education) สำหรับครูผู้สอนกลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ด้วยกระบวนการนิเทศแบบโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษาแนะนำ (Coaching and Mentoring) และ3) แบบสอบถามเกี่ยวกับ ความพึงพอใจของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่มีต่อการพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษา (STEAM Education) ด้วยกระบวนการนิเทศแบบโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษาแนะนำ (Coaching and Mentoring) ซึ่งเครื่องมือทั้ง 3 ฉบับเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) ของลิเคิร์ท (Likert Scale) มีระดับความเชื่อมั่นเท่ากับ .940, .904 และ .929 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation)
ผลการศึกษาพบว่า
1. สภาพปัจจุบันในการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษา (STEAM Education) ของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 โดยภาพรวมมีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก ( x̄= 4.10, S.D.= .39)
2. การประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษา (STEAM Education) สำหรับครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 ด้วยกระบวนการนิเทศ แบบโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษาแนะนำ (Coaching and Mentoring) โดยภาพรวมผลการประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษา (STEAM Education) มีระดับความรู้ความสามารถมากที่สุด ( x̄= 4.70, S.D.= 0.27)
3. ความพึงพอใจของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 ที่มีต่อการพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษา (STEAM Education) ด้วยกระบวนการนิเทศแบบโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษาแนะนำ (Coaching and Mentoring) โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.87, S.D.= .25
|
โพสต์โดย ศน. นางสุกัญญา อำไพพงษ์ : [20 ส.ค. 2565 เวลา 12:44 น.] อ่าน [66110] ไอพี : 182.53.42.58
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 19,784 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 7,741 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 49,471 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,409 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,099 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,121 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,652 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 956 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,821 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 35,489 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,944 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,420 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,918 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 83,458 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 69,936 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 13,108 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,583 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,583 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,760 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,758 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|